xs
xsm
sm
md
lg

จี้ “มาร์ค” เลือกป้องอธิปไตยก่อนสัมพันธ์ 2 ประเทศ ขู่ฟ้อง “ฮุนเซน” อาชญากรสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไพบูลยฺ นิติตะวัน  (แฟ้มภาพ)
วุฒิสภาจี้ “มาร์ค” เลือกปกป้องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศก่อนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมประกาศฟ้อง “ฮุนเซน” ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในฐาะนอาชญากรสงคราม เหตุจงใจใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ประชาชนโดยตรง “เรืองไกร” ไม่สบายใจ นายกฯ เขียนไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัว อ้าง ป.ป.ช.ระบุกระทรวงการต่างประเทศไม่มีกฎหมายรักษาไว้ซึ่งบูรณภาพของประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา เช้าวันนี้ (7 ก.พ.) ซึ่งมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า จากกรณีในวันที่ 4 ก.พ. ทหารกัมพูชายิงอาวุธหนักเข้าสู่ดินแดนไทย บริเวณภูมะเขือ ในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 กิโลเมตร ตนขอชื่นชมทหารไทยที่มีการตอบโต้อย่างมีประสิทธิภาพ จำกัดเป้าหมายทางการทหารจนทำให้กำลังของกัมพูชาได้รับความสูญเสีย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลกัมพูชารู้สึกเสียเปรียบจึงบุกเข้ามาทำร้ายประชาชนบริเวณใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง การที่นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งการให้ทหารจงใจยิงจรวดถล่มหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ทำให้ชาวบ้านต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ เพื่อต้องการให้คนไทยยอมศิโรราบ และเพื่อให้รัฐบาลขอเจรจายอมเสียดินแดน 4.6 กิโลเมตร การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตนและคนไทยคนอื่นจะร่วมกันยื่นฟ้องนายฮุนเซนต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในฐานะอาชญากรรมสงคราม เพราะมีความจงใจยิงอาวุธสงครามเข้าใส่เพื่อทำร้ายประชาชนโดยตรง

นายไพบูลย์กล่าวว่า ขอฝากไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้ลำดับความสำคัญของนโยบายแห่งชาติที่ต้องถือปฏิบัติ โดยรัฐบาลต้องให้ความสำคัญต่อการปกป้องศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ ถัดมาคือเศรษฐกิจ และลำดับสุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฝากนายกรัฐมนตรีพิจารณาว่า หากความสำคัญลำดับที่ 1 ขัดต่อความสำคัญลำดับที่ 3 รัฐบาลต้องเลือกการปกป้องศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ

ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีเดียวกันตนเป็นห่วงสถานการณ์จะบานปลายต่อไป ขอให้กำลังใจทหารในการทำหน้าที่ การใช้กำลังอาวุธหนักโจมตีดินแดนไทย รัฐบาลไทยต้องให้กองทัพตอบโต้อย่างรุนแรงหนักหน่วง พร้อมใช้มาตรการทางเศรษฐกิจกดดันบีบด้วยการปิดพรมแดน หรือใช้มาตรการทางการทูตด้วยการลดระดับทางการทูตหากมีการโจมตีซ้ำอีก เรื่องนี้ขอให้กำลังใจรัฐบาลโดยขอให้รัฐบาลอย่ายอม ขณะเดียวกัน ขออย่าให้ประชาชนเข้าพื้นที่ และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อประจานให้ชาวโลกเห็นว่าการโจมตีไม่ใช่การกระทำระหว่างทหารต่อทหาร แต่เป็นการโจมตีไปยังประชาชน เรื่องเหล่านี้จะต้องทำอย่างเดียวกันพร้อมกัน และขอให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้ให้ประเทศมีอธิปไตย

ขณะที่ นายเรืองไกรกล่าวว่า กรณีปัญหาการปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชาบริเวณชายแดนฝั่งตะวันออก แม้ว่าจะมีการเจรจาทางการทูตแต่คล้อยหลังพี่น้องชาวบ้านต้องเดือดร้อน ทั้งที่คนที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยคือทหาร เรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ระบุไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัวที่ http://www.abhisit.org/ เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2553 ระบุว่ารัฐบาลจะปกป้องสิทธิอธิปไตยและผลประโยชน์อย่างเต็มที่

ต่อมาในวันที่ 3 ธ.ค.53 ได้นำข้อความของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่มีกฎหมายหรือระเบียบรองรับหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการรักษาไว้ซึ่งบูรณภาพของประเทศไทย อ่านแล้วไม่ค่อยสบายใจ ถ้าเราไม่มีกฎหมายแล้วเราจะไปปกป้องอะไรได้ ตนไม่อยากเห็นพี่น้องประชาชนถูกกระทำ เจ้าหน้าที่ของเราก็ถูกกระทำ ตนเห็นว่าความเข้มแข็งและองค์กรอาจต้องมีความอ่อนแอเราต้องไม่มี จึงขอฝากรัฐบาลทำให้เต็มที่ตนสนับสนุน
กำลังโหลดความคิดเห็น