“มาร์ค” เปิดงานร่วมสร้างอนาคตกับประชาธิปัตย์ ชวนคนรุ่นใหม่ทำงานตามแนวทางพรรค รับคนไม่ศรัทธานักการเมืองต้องสร้างรุ่นใหม่ทำให้ระบบการเมืองศรัทธา “อภิรักษ์” เผยเปิดรับสมัครวันนี้วันแรก-19 ก.พ.ไม่จำกัดเพศแต่ต้องจบปริญญาตรี รับสมัคร ส.ส. ทีมคิดนโยบาย ทีมภาคสนาม คาดสรุปผลได้ 27 ก.พ.
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดสัมมนา ฟิวเจอร์ ไทย ลีดเดอร์ส “Future Thai Leaders” รุ่นใหม่อนาคตไทย มาร่วมสร้างอนาคตประเทศกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยจัดที่บริเวณหน้าลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม อาคารควง อภัยวงศ์ โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายสกลธี ภัททิยกุล ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ มาเตรียมความพร้อมก่อนเปิดงานจริงในเวลา 11.00 น. ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานการสัมมนา
นายอภิสิทธิ์กล่าวเปิดงานว่า หลายคนรู้จักพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ทำให้มีความรู้สึกว่าพรรคการเมืองที่มีความเก่าแก่จะเกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่หรือไม่ ซึ่งที่จริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์อยู่มาได้ถึง 60 ปี เป็นเพราะว่าทุกยุคทุกสมัยผู้นำของพรรครู้ดีว่าการที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีความยั่งยืนได้ต้องมีการนำคนรุ่นใหม่ เข้าสู่พรรคตลอดเวลา และถ้าย้อนกลับไปสมัยนายควง อภัยวงศ์ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ท่านอดีตหัวหน้าพรรคเหล่านี้ก็เป็นผู้ที่ชักชวนคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาสู่การเมือง ซึ่งคนรุ่นใหม่ในสมัยนั้นต่อมาก็มาเป็น คนอย่างอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค บัญญัติ บรรทัดฐาน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในช่วงที่ท่านทั้งสองมาบริหารพรรค ก็ได้มีการชักชวนคนอีกรุ่นให้เข้ามา ตนเองและนายอภิรักษ์เองก็ได้รับการชักชวนและแรงบันดาลใจให้เข้ามามีส่วนรวมทางการเมือง สิ่งที่เราเดินหน้าทำอย่างต่อเนื่องคือเรา ต้องการที่จะสร้างนักการเมืองใหม่ คนรุ่นใหม่ ให้ เข้ามาใส่ใจเรื่องของการเมือง โครงการรุ่นใหม่อนาคตไทย ด้วยใจด้วยกัน จึงเป็นโครงการที่เรากำลังเชิญชวนคนหนุ่มคนสาว คนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี อีกรุ่นหนึ่งเพื่อเข้ามาทำงานทางการเมือง เข้ามาทำงานตามแนวทางอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ มาสืบสานอุดมการณ์และเป็นการสร้างบุคลากร ให้มีบทบาทและมีความสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองและพรรคการเมืองต่อไป
“วันนี้ประชาชนจำนวนมากยังไม่ศรัทธานักการเมือง และบ่นว่านักการเมืองไม่ดี แต่นักการเมืองมาจากประชาชนเลือกคนที่พรรคการเมืองคัดสรรมา ฉะนั้น หากยังไม่พอใจและต้องการคนอีกรุ่นหนึ่งที่ดีกว่า เราก็ต้องส่งเสริม จึงเป็นการทำหน้าที่ของพรรคในการสร้างคนรุ่นใหม่ของพรรค และทำให้ระบบการเมือง หรือนักการเมืองในภาพรวมเป็นที่ศรัทธา เป็นที่ต้องการเป็นที่พึ่งพี่น้องประชาชนได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมีความสนใจการเมืองตั้งแต่เด็ก และเชื่อเสมอว่างานการเมืองเป็นงานที่มีคุณค่า ถ้ารู้จักที่จะเข้ามาและใช้ความรู้ความสามารถเพื่อที่จะมาสร้างเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับบ้านเมือง และทำงานให้กับประชาชน ตนคิดว่าการเมืองก็เหมือน อีกหลายอาชีพ คือต้องการมืออาชีพ ที่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้เรื่องของการเมือง ยุคก่อนตนอาจไม่ค่อยมีโอกาสเท่ากับยุคนี้ ที่มีโครงการต่างๆ ที่จะเปิดโอกาส ให้ทำหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าในอดีต แต่ตนก็ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมของพรรคและร่วมฝึกอบรม และตอนนั้นนายการุณ ใสงาม ก็มาเป็นผู้อบรม ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้นั่งฟังเพื่อจะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของการเมือง
“วันนี้นักการเมืองที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ก็กำลังจะเชิญชวนคนรุ่นใหม่เข้ามา จึงโครงการที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนรุ่นใหม่จะตอบรับและเข้ามาเพื่อที่จะเติมกำลัง ให้การเมืองที่ดี และพรรคการเมือง ให้บ้านเมืองได้เดินหน้าต่อไป” นายกฯ กล่าว
ด้าน นายอภิรักษ์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการเปิดรับสมัครให้แก่ผู้ที่สนใจจะเข้ามาเป็น ส.ส.หรือทำงานด้านการเมือง โดยจะเปิดรับสมัครทั่วประเทศ ซึ่งวันนี้ (6 ม.ค.) เป็นการเปิดรับสมัครวันแรก นอกจากนี้จะมีการเปิดให้สมัครผ่านทางออนไลน์ เช่น Facebook fanpage : Future Thai Leaders และ www.twitter.com/FTLeaders หรือผู้ที่สนใจก็สามารถเข้ามาสมัครได้ด้วยตัวเอง ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ เกณฑ์ในการรับผู้สมัคร คือ ไม่จำกัดเพศ จะต้องจบการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีเป็นต้นไปจนถึงอายุไม่เกิน 35 ปี
นายอภิรักษ์กล่าวต่อว่า โดยจะเปิดรับ 3 ตำแหน่ง คือ 1.ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 2.ทีมคิดนโยบายเพื่อใช้ในการเลือกตั้งและการบริหารประเทศ และ 3.ทีมปฏิบัติการภาคสนาม โดยไม่จำกัดจำนวน ซึ่งตั้งเป้าไว้ประมาณ 200-300 คน หรือมากกว่านั้น โดยกำหนดการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 6-19 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เมื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เสร็จสิ้น ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์จะมีการเรียกสัมภาษณ์สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส่วนอีก 2 ตำแหน่ง จะมีเรียกสัมภาษณ์ในวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ และเมื่อเรียกสัมภาษณ์ทั้งหมดจบจะสามารถสรุปผลได้ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และสำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาจากผู้ใหญ่และกรรมการบริหารพรรค ทางพรรคก็จะนำไปติวเข้มเรื่องการเมืองอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว หากมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปเมื่อไหร่ กลุ่มที่สมัครก็สามารถลงสู้ศึกเลือกตั้งได้ทันที
