“เทพไท” ป้องนายกฯ ยันถือสัญชาติเดียว กระทบกระเทียบเหน็บ “แม้ว” ถือ 3-4 สัญชาติ เย้ยถูกฝรั่งหลอกล้วงเงินในกระเป๋า เย้ยข้อมูลซักฟอกฝ่ายค้าน สุกเอาเผากิน แนะพูด 2 วันก็จบ ตีโวหารเตือนอย่าเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่เสียเวลาสภา
วันนี้ (4 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถือ 2 สัญชาติว่า ถือเป็นความพยายามของนายอัมสเตอร์ดัมที่จะเคลื่อนไหวดิสเคดิตนายอภิสิทธิ์ โดยเอาเรื่อง 2 สัญชาติมาโจมตี ซึ่งในประเทศไทยไม่มีใครสงสัยในเรื่องสัญชาติ แต่นายอัมสเตอร์ดัมก็ใช้เรื่องนี้มาพูดให้ชาวโลกเห็นว่านายกฯ มี 2 สัญชาติ เพื่อสร้างเงื่อนไขในการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ถือเป็นลูกเล่นของฝรั่งที่ต้องการหลอกเอาเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณขายฝัน และให้ความหวังไปวันๆ
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ได้ตอบชัดเจนแล้วว่าถือสัญชาติไทย เพราะหากถือสัญชาติอังกฤษ ทำไมทุกครั้งที่เดินทางไปประเทศอังกฤษต้องขอวีซ่า และนายอภิสิทธิ์มีพาสปอร์ตเล่มเดียว อีกทั้งกฎหมายไทยยังกำหนดชัดเจนว่าต้องเลือกถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งเท่านั้น มีแต่พ.ต.ท.ทักษิณ เท่าที่นั้นมี 3-4 สัญชาติ ทั้งมอนเตเนโกร นิการากรัว และสัญชาติในประเทศที่ไม่เคยมีบนแผนที่โลก
นายเทพไทแถลงถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 วัน ทั้งที่ยังไม่กำหนดวันยื่นญัตติว่า อยากให้ฝ่ายค้านมีความชัดเจนว่าจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ เพราะอย่างน้อยจะทำให้สภา รัฐบาล และส.ส.ได้จัดเตรียมปฏิทินการเมืองของตนเอง ส่วนการขอวันอภิปราย 3 วัน ทั้งที่ยังไม่มีการกำหนดประเด็นและเนื้อหานั้น ตนมองว่า เวลา 3 วันอาจจะมากเกินไป เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลจากสื่อมวลชนแล้ว เห็นว่าฝ่ายค้านยังไม่มีความพร้อมในทุกเรื่องทั้งข้อมูลและบุคคลที่จะอภิปราย ข้อมูลที่เตรียมไว้เป็นเพียงการนำข่าวจากสื่อมาตัดแปะ เป็นข้อมูลเฉพาะหน้าสุกเอาเผากินทั้งสิ้น ส่วนการกำหนดเวลาอภิปรายควรจะให้วิปทั้ง 2 ฝ่าย ไปพูดจากันเพื่อหาจุดลงตัว และถ้าดูตามประเพณีปฏิบัติแล้ว เนื้อหาที่หัวหน้าทีมฝ่ายค้านได้ออกมาพูดว่าจะต้องมีความกระชับและใช้ผู้อภิปรายจำนวนน้อยที่สุด ตนคิดว่า 2 วันน่าจะเพียงพอ
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีหลายเรื่องที่ใช้อภิปรายนั้น ล้วนแต่เป็นการประกาศจากลูกทีมพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น แต่หัวหน้าทีมยังไม่มีความชัดเจนว่าจะอภิปรายอย่างไรเวลาแค่ไหน ส่วนที่ประกาศว่าจะใช้ประเด็น 5 ความล้มเหลว 10 ความจำทน ก็ไม่แน่ใจว่ามีจริงหรือไม่ เพราะต่างคนต่างออกมาแสดงความเห็น โดยไม่ทราบว่าได้รับฉันทานุมัติจากพรรคให้เป็นผู้อภิปรายหรือไม่ และหากประเด็นที่นำมาพูดมีความซ้ำซากก็จะมีการประท้วงให้เกิดความวุ่นวายได้ ส่วนที่จะมีการหยิบยกเหตุการณ์การสลายการชุมนุมมาอภิปรายนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะ 1.เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการชั้นศาลทั้งในและต่างประเทศ 2.มีคณะกรรมการอิสระทำงานรวบรวมข้อมูลอยู่ขณะนี้ 3.เป็นเรื่องข้ามปีที่ใช้อภิปรายมาแล้ว และ4. เคยเป็นญัตติอภิปรายทั่วไป และกระทู้ถามของฝ่ายค้านนับไม่ถ้วน ฉะนั้นไม่ควรเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ให้เสียเวลา อย่างไรก็ตาม อยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายให้กระชับ ไม่ควรเอาประเด็นปลีกย่อยมาพูด เพราะสามารถใช้ช่องทางอื่นอภิปรายได้ คือ 1.อภิปรายผลงานรัฐบาลในช่วงแถลงต่อสภา 2.อภิปรายงบกลางในช่วงกลางเดือน ก.พ.นี้ และ 3.ตั้งกระทู้สดถามในสภาได้ทุกสัปดาห์
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะใช้ช่วงการอภิปรายงบกลางที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 ก.พ.นี้เป็นการซ้อมใหญ่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจริง นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี แต่กลัวว่าจะหมดแรงเสียก่อน ถึงเวลาชกจริงจะไม่มีแรงชก