กกต.พรรคการเมือง ยก พ.ร.บ.สัญชาติ ยัน “มาร์ค” เลือกถือสัญชาติไทย พ่อแม่เป็นคนไทยแม้เกิดในอังกฤษ เมินสอบ
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีคนตั้งข้อสังเกตการถือสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าถือสัญชาติไทยหรือสัญชาติอังกฤษว่า ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7 บัญญัติว่า บุคคลใดที่มีบิดา มารดา ถือสัญชาติไทยให้บุตรของบุคคลนั้นถือสัญชาติไทย กรณีที่เกิดต่างประเทศกฎหมายของต่างประเทศก็จะให้บุคคลที่เกิดในประเทศนั้น ถือสัญชาติของประเทศนั้น แต่ก็มี พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย ที่ให้สิทธิบุคคลนั้นสามารถเลือกถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งเมื่อมีอายุครบ 20 ปี ซึ่งนายกรัฐมนตรี เกิดที่อังกฤษก็ต้องดูว่า ได้มีการเลือกที่จะถือสัญชาติใด อย่างไรก็ตาม ในการสมัครรับเลือกตั้งในปี 2550 นายอภิสิทธิ์ระบุว่าตนเองถือสัญชาติไทย และ กกต.ที่รับสมัครในขณะนั้นก็ได้มีการตรวจสอบโดยยึดตาม พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7 ว่า บิดา มารดาของนายอภิสทิธิ์ ถือสัญชาติไทย ฉะนั้นถือได้ว่านายอภิสิทธิ์ก็ได้ถือสัญชาติไทยโดยการเกิด ตามมาตรา 101 ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดเป็นคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ที่จะให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องนี้ กกต.คงไม่ต้องดำเนินการเพราะชัดเจนแล้วว่าบิดา มารดาของนายอภิสิทธิ์เป็นคนสัญชาติไทย ไม่ว่าเกิดที่ใดก็ตามก็ให้ถือว่าเป็นสัญชาติไทย
เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ ถือ 2 สัญชาติก็ไม่เป็นปัญหาใช่หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะตามหลักของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมายก็จะให้ถือสัญชาติตามบิดา มารดาเป็นหลัก