“โฆษกมาร์ค” ย้ำคิดย้ำเพ้อ แนะพันธมิตรฯให้นำข้อมูล รบ.ทุจริตคอร์รัปชัน ยื่น ป.ป.ช.สอบ-เหน็บจับมือฝ่ายค้านส่งข้อมูลซักฟอกในสภา เลอะเทอะช่วย 2 คนไทยที่ถูกศาลเขมรสั่งจำคุก เปรียบเหมือนขุดดอยอินทนนท์ พูดประชดแนะให้ทำสงครามชิงตัวผู้ต้องหายังง่ายกว่า
วันนี้ (4 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศยกระดมการชุมนุมว่า ช่วงแรกที่มีการประกาศดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้สังคมพอสมควร เพราะไม่ทราบว่ากลุ่มพันธมิตรจะใช้วิธีการใด แต่เมื่อทราบว่าเป็นการพูด เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล เพิ่มเติมจากเรื่องเขาพระวิหาร คงจะสร้างความสบายใจให้สังคมมากขึ้น เพราะสังคมยอมรับได้ อย่างน้อยก็ถือเป็นการตรวจสอบรัฐบาลของการเมืองภาคประชาชน แต่ การพูดถึงการทุจริตประพฤติมิชอบ ต้องมีข้อมูลข้อเท็จจริง มิฉะนั้นผู้พูดจะต้องรับผิดชอบด้วย หรือจะให้ดี ถ้ามีข้อมูลที่มีน้ำหนักมากพอ นอกเหนือจากจะยื่นให้กับ ป.ป.ช.แล้ว ก็สามารถยื่นข้อมูลให้ฝ่ายค้านใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพราะขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังต้องการอยู่
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯ ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลให้นำ 2 คนไทยออกจากคุกกัมพูชาโดยปราศจากมลทิน นั้นถือเป็นข้อเรียกร้องที่สูงเกินไป และยากต่อการปฏิบัติ เหมือนให้ขุดดอยอินทนนท์โดยไม่ให้มีร่องรอยภูเขา ฉันใดก็ฉันนั้น การจะให้รัฐบาลไทยไปแทรกแซงศาลกัมพูชาแล้วนำตัวคนไทยกลับมาโดยไร้มลทินนั้นอยากมาก ยกเว้นจะทำสงครามช่วงชิงตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากไม่เหมาะสมที่จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน
ส่วนข้อกล่าวหานายกฯ ว่าดื้อด้านไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เป็นการมองที่มีอคติมากเกินไป ตอนที่มีความชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร นายกฯได้พยายามพูดคุยผ่านหลายช่องทางทั้ง โทรศัพท์ เฟซบุ๊ก อีเมล เอสเอ็มเอส และพูดคุยกับบุคคล โดยล่าสุดได้พยายามอธิบายถึงข้อจำกัดของรัฐบาลกับบุคคลหลายคนที่เป็นแกนนำพันธมิตรฯ แม้ครั้งนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว แต่ก็เป็นระดับแกนนำ ซึ่งหลายคนก็เข้าใจแนวทางของรัฐบาลว่าถูกต้องเหมาะสม ทั้งนี้ ตนอยากให้แกนนำพันธมิตรฯ เคารพความเห็นของคนอื่น และยอมรับฟังความเห็นมากกว่าปิดหูปิดตา ยืนกระต่ายขาเดียว เรียกร้องในประเด็นที่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากดูจากภาพรวมต่อข้อเรียกร้องหลายเรื่องก็ยังพออะลุ้มอล่วยยอมรับในการเคลื่อนไหวได้ แต่ไม่อยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย เช่น บุกรุกสถานที่ราชการซึ่งรัฐบาลยอมรับไม่ได้ เพราะถือว่าทำผิดกฎหมาย