xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ปัดทำผิดตามข้อกล่าวหา พธม.รับเป็นไปได้ยุบสภาเมษาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“มาร์ค” เชื่อเงื่อนไขการชุมนุมไม่กลายเป็นตัวแปรตัดสินใจยุบสภา ย้ำจังหวะเวลาเลือกตั้งยังเหมือนเดิม หาก รธน.ได้ข้อยุติใน 11 กุมภาฯ ประกาศใช้ปลายกุมภาฯ หรือต้นมีนาฯ เป็นไปได้ยุบสภาเมษาฯ โต้ พธม.แจ้งความดำเนินคดีข้อหามีพฤติกรรมสมคบกันทำให้ราอาณาจักรไทยตกอยู่ภายใต้ต่างประเทศ ยันที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ส่วนการฝึกรบกระสุนจริงของกองทัพใกล้ปราสาทพระวิหารเป็นการฝึกตามกำหนด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทางกัมพูชายอมรื้อป้ายกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดน บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ใกล้ปราสาทพระวิหาร แต่นำป้ายใหม่ข้อความ “ที่นี่คือกัมพูชา” มาติดแทนว่า ขณะนี้กัมพูชาได้รื้อป้ายออกหมดแล้ว รวมถึงป้ายใหม่เมื่อประมาณ 5 นาทีที่แล้ว ซึ่งคงไม่ต้องทราบว่าเกิดจากการเจรจาอย่างไร จบแล้ว เพราะเราก็บอกแล้วว่ามันไม่ควรจะมีป้าย กัมพูชาก็ให้ความร่วมมือแล้ว

ส่วนที่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีอนุมัติให้ทหารซ้อมรบด้วยกระสุนจริงบริเวณชายแดนกัมพูชานั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หลักการซ้อมเป็นเรื่องที่ทำตามปกติอยู่แล้ว เป็นวงล้อมของทางการทหาร เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีสั่งให้ใช้กระสุนจริงนั้นจริงหรือไม่ และสั่งให้ซ้อมบริเวณชายแดนติดเขาพระวิหารด้วยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า การปฏิบัติเป็นเรื่องของทางกองทัพกำหนดวงล้อมการฝึกต่างๆ

เมื่อถามต่อว่า การที่กัมพูชายอมให้ความร่วมมือในเรื่องป้าย เป็นการลดความตึงเครียดของทั้ง 2 ฝ่ายลงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลเองไม่ต้องการให้มีเงื่อนไข และเราก็ยังเดินหน้าพยายามช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ และที่ดูรัฐบาลจะเงียบไปเนื่องจากขณะนี้กระบวนการของศาลยังไม่จบ เราก็จะต้องดูตรงนั้นก่อน พยายามที่จะหาช่องทางเตรียมไว้ ต่อข้อถามว่าห่วงหรือไม่กระบวนการจะยืดเยื้อ เพราะกระบวนการฎีกาไม่มีการกำหนดว่าจะต้องดำเนินการภายใน 5 วัน เหมือนกับกระบวนการในชั้นอุทธรณ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังเข้าใจว่าในวันที่ 1 ก.พ.ยังมีการนัดพิจารณาอยู่ แต่เราก็ยังไม่ทราบแน่ชัด

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เตรียมแจ้งความดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากมีพฤติกรรมสมคบกันทำให้ราชอาณาจักรไทยตกอยู่ภายใต้ต่างประเทศ ตามความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 119 โดยจะยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลฎีกาอาจดำเนินการเองหรือส่งต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการก็ได้นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่คิดว่ามีปัญหา ไม่ได้ทำอยู่แล้ว เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทางพันธมิตรฯ ยังกังวลข้อมูลในบางด้าน จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนของข้อมูลพันธมิตรฯ เพื่อให้มีการยกเลิกการชุมนุม และมาแก้ไขปัญหาร่วมกัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าพันธมิตรฯ พร้อมจะทำ ตนก็ไม่มีปัญหา หมายความว่าุถ้าคิดว่ามีวิธีการทำให้ข้อมูลมันมาตรงกันมากขึ้น เพราะตนก็ยืนยันมาตลอดว่า รัฐบาลก็ไม่ได้มีเป้าหมายต่างจากกลุ่มพันธมิตรฯ ในการที่จะรักษาดินแดน เพียงแต่ว่าข้อมูลไม่ตรงกัน ใจตนก็พูดมาตลอดว่าน่าจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ แต่ว่าถ้าเขาพร้อมที่จะทำรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะยื่นมือเข้าไปหรือไม่ นายอภสิทธิ์กล่าวว่า ก็จะดูว่า มีใครที่จะประสานกับใครได้บ้าง ส่วนที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันจะไม่เจรจากับทางรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็นี้ถึงได้บอกว่าอยู่ที่ฝ่ายผู้ชุมนุมด้วย แต่รัฐบาลพร้อมพูดคุย และแสวงหาทางที่จะทำความเข้าใจกันอยู่แล้ว

ต่อกรณีที่ว่าหากพันธมิตรฯ จะเข้ามายึดทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้ ก็จะเป็นการผิดกฎหมาย เมื่อถามว่าจะปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดถนนไปอีกกี่วัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่พยายามลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอยู่ตลอด ตนสั่งการอยู่ตลอดให้ดูความเป็นไปได้ ซึ่งเวลานี้ก็มีการปิดล้อมทำเนียบเป็นรูปตัว L ครึ่งหนึ่งรอบทำเนียบ ส่วนที่เจรจาได้มีการปิดถนนครึ่งหนึ่งของเส้นพิษณุโลก แต่ตอนนี้กลับมาปิดใหม่อีกนั้น นายกฯ กล่าวว่า กำลังให้เจรจาต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการกำหนดให้ทีมเจรจาใช้เวลากี่วันในการเจรจา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนใหญ่ขณะนี้ที่ผ่านมา มันจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เกือบตลอดเวลา เช่น บางช่วงก็เปิด บางช่วงก็ปิด ตนก็พยายามบอกว่าต้องพยายามคืนพื้นที่มาให้มากที่สุด เพราะกระทบกระเทือนพี่น้องประชาชน ยกเว้นว่า ช่วงไหนที่คนแน่นจริงๆ อันนี้เราก็เข้าใจได้ แต่ไม่ควรที่จะมาปิดโดยที่ไม่มีความจำเป็นในลักษณะที่คนก็ไม่เยอะ ในช่วงกลางวัน หรือช่วงที่ประชาชนน่าจะได้ใช้พื้นผิวจราจรมากกว่า ตรงนี้น่าจะพูดคุยกันได้ ผู้สื่อข่าวแย้งว่า ถ้ามีผลกระทบต่อเนื่องและยืดเยื้อ กลุ่มผู้ชุมนุมรายอื่นจะใช้วิธีการปิดถนนบาง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถูกต้องอันนี้ตนก็ได้กำชับกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ต้องทำความเข้าใจตรงนี้ด้วย เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ได้จริง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราก็ระมัดระวัง เพราะมีบางกลุ่มต้องการยั่วยุให้เกิดปัญหา ก็พยายามที่จะอยู่บนความพอดี ซึ่งตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้นิ่งนอนใจให้เดินหน้าในการที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอำนวยความสะดวกให้กับคนส่วนใหญ่ได้

ส่วนการแก้ปัญหาเมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ขณะที่รัฐบาลยืนยันไม่ทำตาม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของเรา และตนก็พร้อมที่จะให้เขาส่งผู้แทนมาอธิบายว่าทำไมการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของเขา เรามองว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองมากกว่า เมื่อถามว่าจะรอให้พันธมิตรฯ ประสานมา หรือรัฐบาลจะประสานไป นายกฯ กล่าวว่า เวลานี้ก็มีความพยายามที่จะดูว่ามีใครคุยกับใครได้บ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ได้มีโอกาสร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนกลุ่มนี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้นายพนิชเป็นผู้ประสาน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากการคุยกับนายพนิช แต่ละกลุ่มเขามีความเป็นอิสระต่อกัน นายพนิชจะคุยได้กับกลุ่มที่อยู่ถนนพิษณุโลก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการประสานไป

เมื่อถามว่า ที่สุดแล้วการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯจะเป็นตัวแปลเร่งไปสู่กระบวนการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างการลาออก หรือยุบสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นเหมือนที่ตัวเองเคยพูด โดยจะเลือกจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการจัดการเลือกตั้ง และเรื่องของรัฐธรรมนูญสภาน่าจะได้ข้อยุติในวันที่ 11 ก.พ. และจะมีการกระบวนการหลังจากนั้น เพื่อให้ประกาศใช้ น่าจะเป็นปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นมีนาคมก็จะหมดไปอีกเงื่อนไขหนึ่ง

ส่วนจะมีการนำ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงมาใช้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในชั้นนี้ยังไม่มีความคิดที่จะใช้ตรงนั้น เมื่อถามย้ำว่าจะปล่อยให้ม็อบอยู่นานแค่ไหนเป็นเดือนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะดูสถานการณ์ก่อนว่าผลกระทบแค่ไหน และจะดูตามความเหมาะสม เมื่อถามว่า การชุมนุมยังมีอยู่อย่างนี้จะกระทบต่อแนวทาง หรือวันที่นายกฯ จะกำหนดวันเลือกตั้ง ที่จะต้องลากให้ช้าไปหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้กำลังพยายามดู ถ้ารักษาแนวทางการชุมนุมว่า เป็นการชุมนุมที่สงบ และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไป ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ไม่ควรจะให้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องแก้กฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ รู้สึกบทบัญญัติเขารองรับไว้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายลูก เมื่อถามว่า ถ้าผ่านวาระก็ถือว่า กติกาใหม่นี้มีผลบังคับใช้เลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อาจจะต้องถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง เขาต้องออกระเบียบ เมื่อถามว่า ความเป็นไปได้ในการนำไปสู่การยุบสภาช่วงเดือนเมษาฯ อย่างที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้

เมื่อถามว่า ความสงบที่จะเป็นตัววัดอีกเงื่อนไขหนึ่ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ดูได้ และตนจะเรียนให้ทราบ เมื่อถามว่า ที่บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามกลุ่มผู้ที่ยังจะใช้ความรุนแรง ตรงนี้มีจำนวนมากหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ จะมีหลายกลุ่มทั้งกลุ่มที่หลบหนี และกลุ่มที่เราจะสามารถจะขยายผลได้จากการสอบสวนกลุ่มที่ถูกจับกุมแล้วก็ยังมีอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการต่อ

ต่อข้อถามว่าคิดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ทำให้ดีที่สุด เราก็พยายามเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมา และคิดว่าจากข้อมูลที่ปรากฏออกมาชัดเจนในเรื่องการสอบสวน น่าจะหมดข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจัดฉากอะไร เราพยายามดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม ส่วนกรณีที่แกนนำของกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่า รัฐบาลจัดฉากนั้น ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไร แต่น่าเสียดายคนที่จะเป็นแกนนำจะพยายามหยิบยกทุกเรื่องมา ทั้งๆที่ความจริงรัฐบาลพยายามดูแลความปลอดภัยให้กับคนของเขาเอง

“ผมถือว่าจะเสื้อสีไหนก็ตามก็คนไทย ผมพยายามดูแลความปลอดภัย ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนพยายามหยิบเรื่องนั้นเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อจะโจมตีเพื่อความสะใจของตัวเองเท่านั้น” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่พูดเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ออกไปแล้ว เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ห่วงหรือไม่ว่าจะทำให้มิตรเป็นศัตรูมากขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร เมื่อถามต่อว่า การที่เขายื่นเงื่อนไขโดยที่เขารู้ว่า รัฐบาลไม่ปฏิบัติตามเป็นการต้องการบีบให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามเขา เพราะตนเองก็เห็นเขาขัดแย้งกันเอง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำบอกว่า มาไล่ตนเอง แต่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ บอกว่าไม่ได้มาไล่ นายสนธิไล่คนเดียว ซึ่งตนก็ไม่ทราบ เมื่อถามว่าปัญหาเยอะอย่างนี้ทั้งปัญหากัมพูชา การชุมนุม และปัญหาไฟใต้ ท้อไหม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ ตนมีหน้าที่แก้ไข
กำลังโหลดความคิดเห็น