พิษณุโลก - เด็กหนุ่มดวงถึงฆาต ปิดเทอมดอดไปเก็บปลอกกระสุนในค่ายบรมไตรโลกนาถ เขตทหารห้ามเข้า เจอระเบิดอาร์พีจี M203 และ M79 บึ้มร่างขาด 2 ท่อน ดับคาที่ 2 ศพ เจ็บอีก 1 ราย
วันนี้ (20 มี.ค.) ร.ต.อ.มนตรี แดงดี ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากทหารค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ว่า เกิดเหตุระเบิดบริเวณสนามซ้อมยิงปืนของทหารภายในค่าย มีคนเสียชีวิตเป็นเด็กจำนวน 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราชเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทหารหลายฝ่าย พบที่เกิดเหตุอยู่ด้านอ่างเก็บน้ำ หรือหลังค่ายบรมไตรโลกนาถเนื้อที่กว้างนับร้อยไร่ เป็นพื้นที่สนามซ้อมยิงปืน พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย อยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร ศพแรก ร่างแหลกเหลือเพียงลำตัว ท่อนล่างขาดหายไปทั้งหมด ส่วนอีกศพ สภาพนอนค่ำหน้าสวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืดสีดำ
เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าตรวจสอบ พร้อมกันพื้นที่เอาไว้และนำเครื่องมือตรวจหาวัตถุระเบิด เพราะเกรงว่า อาจเกิดระเบิดซ้ำ กระทั่งตรวจสอบชัดว่า ไม่มีเชื้อปะทุ จึงอนุญาตให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และนำศพออกมา โดยพบว่า บางชิ้นส่วนของผู้เคราะห์ร้ายกระเด็นไปไกลกว่า 100 เมตร นอกจากนั้น ยังพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตรายแรก คือ นายสุทิน ปินโก อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 ม.13 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สภาพศพเละเหลือเพียงท่อนบน ส่วนศพที่ 2 ชื่อ นายสินสมุทร ศรีม่วง อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 ม.3 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สภาพศพทั่วร่างกายมีแผลเหวอะหวะ และแขนขวาขาดรุ่งริ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายทราบชื่อ ด.ช.ดรีม โพธิ์ทอง อายุ 5 ขวบ เจ้าหน้าที่ทหารนำตัวส่งโรงพยาบาลวังทอง แต่แพทย์ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มชาวบ้าน รวมทั้งผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ลักลอบเข้าไปหลังค่ายทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่สนามซ้อมยิงปืนของค่ายเพื่อไปเก็บปลอกกระสุนปืน หัวกระสุน และหัวระเบิด เพื่อนำไปชั่งกิโลขายที่ตกอยู่ในบริเวณสนามยิงปืน แต่ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีการแกะแงะหัวกระสุนระเบิด จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
พ.ท.ธีรยุทธ อิ่มอรุณ นายทหารในค่ายที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในพื้นที่สนามซ้อมยิงปืนที่ผ่านมามีการใช้อาวุธปืนแบบ เอ็ม 79 และหัวระเบิดอาร์พีจี ในการซ้อมรบทุกครั้งทางค่ายจะประกาศห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่หวงห้าม แต่มีชาวบ้านลักลอบเข้ามาทางด้านหลัง ซึ่งไม่มีรั้ว เพื่อมาเก็บปลอกกระสุน หัวกระสุนไปขาย เพราะทหารซ้อมยิงปืนมีลูกกระสุนหัวระเบิดบางหัวที่ไม่ทำงานย่อมตกอยู่ในสนาม กระทั่งเด็กไม่รู้เรื่องไปเก็บลูกระเบิด โดยงัดแงะกระสุนทำให้ระเบิดขึ้น
นายทหารอีกคน ระบุว่า ทางค่ายได้มีการฝึกซ้อมอาสาทหารพราน 4 กองร้อย จำนวน 266 คน มาตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.55 ไปจนถึง 28 มี.ค.55 หลังจากฝึกเสร็จจะส่งไปประจำที่กองร้อยทหารพราน 33 ลำปาง และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการซ้อมยิงปืนทุกวัน ยกเว้นวันนี้ไม่มีการลงสนามซ้อมยิงปืนแต่อย่างใด เนื่องจากหยุดปรับปรุงสนามยิงปืน มีเพียงการฝึกภาคทฤษฎีเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ที่อาคารสโมสร ช.พัน 3 ปรากฏว่า ได้มีเสียงระเบิดดังสนั่นจำนวน 1 ลูก แต่ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับแจ้งว่ามีเด็กได้รับบาดเจ็บจากระเบิด จึงได้เข้าไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล และเข้าตรวจสอบพื้นที่พบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย
ส่วนวัตถุระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุมีหัวระเบิด เอ็ม 79 เอ็ม 203 ขนาด 40 มม. เป็นลูกระเบิดยิงจากเครื่องระเบิด หรือเรียกชื่อย่อว่า ลย/ค สาเหตุที่ระเบิดมาจากการงัดแงะหัวระเบิด จึงทำให้เกิดการระเบิดขึ้น
นายรัตน ศรีม่วง กล่าวว่า นายสินสมุทร 1 ในผู้ตาย เป็นลูกชายคนเล็ก ได้เข้ามาเก็บปลอกกระสุนหลายครั้งแล้ว โดยมีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันชักชวนกันมาเก็บปลอกกระสุนปืนที่ในค่ายทหารอยู่หลายครั้ง เพื่อนำไปชั่งขาย กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายแรงในวันนี้
นายบุญส่ง ปีนโก พ่อของ นายสุทิน ปีนโก ผู้เสียชีวิตอีกคน กล่าวว่า ลูกชายเรียนอยู่ ชั้น ป.6 โรงเรียนวังสะพาน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ขณะนี้ปิดเทอมอยู่ โดยวันนี้ลูกชายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านตั้งแต่เวลา 08.00 น.พร้อมกับเพื่อน เพื่อไปหาเก็บปลอกกระสุนปืนในค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ซึ่งมีเพื่อนหลายคนเข้าไปเก็บเอามาขายกันหลายครั้งแล้ว
