xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ซัด “มาร์ค” ส่งคนไทยติดคุกเขมร ไม่ต่างจาก “ทักษิณซ่อนรูป” เตือนอาจไม่มีแผ่นดินอยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัยที่เวทีชั่วคราวสะพานมัฆวานฯ
อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แฉรัฐบาลคิดผิด หวังจัดฉากจับกุมแก๊งอาวุธสงคราม เมื่อคืนนี้ เพื่อสกัดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่พระสยามเทวาธิราชไม่เล่นด้วย จึงกลายเป็นเรียกแขกในวันนี้ ซัด “มาร์ค” สอบตกในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ส่งคนไทยไปติดคุกเขมร ทำให้ชาติเสียศักดิ์ศรี จึงขอให้สมญานามรัฐบาลนี้ว่า รัฐบาลทักษิณซ่อนรูป เตือนอาจไม่มีแผ่นดินอยู่เช่นเดียวกัน


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายประพันธ์ คูณมี"  

วันนี้ (25 ม.ค.) นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยการชุมนุมของแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า พี่น้องประชาชนคงเห็นสภาพ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทะลึ่งปรากฏตัวออกรายการสด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหมือนกับการพยากรณ์อากาศ และต้องอ่านสคริปต์ ทำให้เสียบุคลิกนักเรียนเมืองนอก เชื่อว่า วันนี้ นายอภิสิทธิ์ ใกล้ตกเวทีที่ทำเนียบเข้าไปทุกเมื่อแล้ว เพราะเชื่อว่าภูมิปัญญาไม่สามารถสู้พลังมวลชนในวันนี้ได้ ที่เขานอกจากจะต้องเสียภาษีให้กับนักการเมืองแล้ว ยังได้ทำหน้าที่ใช้หนี้แผ่นดินอีกด้วย

นายประพันธ์ ได้กล่าวถึงกรณี นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกจับกุมเพราะถูก นายอภิสิทธิ์ หลอกใช้ให้ลงพื้นที่ จนถูกทหารเขมรจับกุมและกักขังกว่า 20 วัน แถมถูกศาลเขมรสั่งจำคุกอีกต่างหาก ทราบว่า วันนี้ นายฮุนเซน ขำกลิ้งไปแล้ว ถือว่ารัฐบาลนี้สอบตกในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ

นายประพันธ์ ยังระบุอีกว่า รัฐบาลนี้มีแผนสกัดการชุมนุมพันธมิตรฯมาตั้งแต่ต้น แต่ล้มเหลว โดยจัดฉากจับกุมผู้ต้องหายกแก๊งพร้อมขนอาวุธสงครามมาแถลงข่าว เชื่อหรือไม่ว่าผู้ต้องหาที่จับกุมได้เมื่อคืนนี้ เป็นพวกอาชญากรที่มีคดีติดตัว และตำรวจเลี้ยงไว้เป็นสาย แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราช ไม่เอาด้วย จนกลายเป็นเรียกแขก แนวร่วมพันธมิตรฯจึงออกมาเต็มพื้นที่ในวันนี้ และทราบว่า นายกฯเตรียมเดินทางไปประชุมในเวทีต่างชาติ ในวันพฤหัสบดีนี้เพียงขอขึ้นโพรเดียม จนได้รับฉายาเป็นมิสเตอร์โพรเดียมไปแล้ว แต่ในใจลึกๆ ก็หวั่นว่าจะไม่ได้กลับเข้าทำเนียบ เหมือนยุคนายกฯ สมัคร สุนทรเวช จึงนำตำรวจ-ทหาร มาล้อมทำเนียบ เพราะกลัวพันธมิตรฯ จะเข้ายึด

“รัฐบาลนี้จึงไม่ต่างจากรัฐบาลทักษิณ แต่ซ่อนรูป เพราะไม่รักเกียรติศักด์ศรี ของชาติ ปล่อยให้กุ๊ยเขมรเข้ามารุกล้ำอธิปไตย ระวังไว้ในอนาคตอาจจะไม่แผ่นดินอยู่เหมือนทักษิณ” นายประพันธ์ กล่าว

จากนั้น นายประพันธ์ ได้แถลงจุดยืนในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า จุดมุ่งหมายหลักของพี่น้องพันธมิตรฯเป็นการชุมนุมเพื่อแสดงออกถึงการรักชาติและเป็นการรวมพลังพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าเพื่อการปกป้องแผ่นดิน ซึ่งข้อเรียกร้องของการชุมนุมมี 3 ข้อ ซึ่งล้อมรอบหลักใหญ่ในการปกป้องดินแดนของประเทศ คือ ข้อ 1 ให้รัฐบาลยกเลิก MOU 2543 เพราะการมี MOU 2543 เท่ากับไปยกเลิกเจตนารมณ์สนธิสัญญาไทยและฝรั่งเศส ซึ่งทำขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐกาลที่ 5 ที่เป็นข้อยุติข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาแล้ว 2.ให้รัฐบาลยกเลิการเป็ฯภาคีของอนุสัญญามรดกโลก เพราะหากว่าเรายังเป็นอยู่แล้วคณะกรรมการมรดกโลกยังดึงดันที่จะนำปราสาทเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกตามคำร้องขอของกัมพูชาจะมีผลกระทบและเสียหายต่อปัญหาดินแดนของไทย ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซงและก้าวก่าย ทั้งที่เป็นเรื่องข้อพิพากของ 2 ประเทศ หรือทวิภาคี และข้อ 3 ในการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากดินแดนของไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เนื่องจากตลอดแนวชายแดนกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทย โดยอ้าง MOU 2543 ตามที่นายกฯได้แถลงผ่านทีวีเมื่อวันก่อนว่ามีหมู่บ้านในลักษณะนี้อยู่ 30 หมู่บ้าน แต่ไม่เคยบอกว่ามีที่ใดบ้างที่ไทยรุกเข้าไปในกัมพูชา เพราะไม่มีแม้แต่ที่เดียว รวมทั้งบริเวณปราสาทเขาพระวิหารที่กัมพูชาได้นำป้ายขึ้นไปปักว่าบริเวณ 4.6 ตร.กม.เป็นพื้นที่ของกัมพูชา และคนไทยเข้าไปรุกล้ำ เป็นการแสดงโดยชัดเจนว่าหากรัฐบาลยังใช้มาตรการเดิมตลอด คือ ประท้วง คัดค้าน แต่ไม่มีมาตราการมากกว่านั้นในการกดดันคนเหล่ายนี้ออกจากพื้นที่ เราสูญเสียดินแดและอธิปไตยแน่นอน

“ประชาชนรอคอยการตอบรับจากรัฐบาลต่อข้อเรียกร้องของประชาชนมาโดยตลอด แต่รัฐบาลไม่เคยปฏิบัติตามข้อเรียกร้องนี้ จึงเป็นเหตุให้ภาคประชาชนต้องมารวมตัวกันในวันนี้ ส่วนทางออกของปัญหาขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเห็นเหตุผลของข้อเรียกร้อง 3 ข้อหรือไม่ โดยเฉพาะข้อที่ 3 ซึ่งเป็นประโยชน์กับประเทศทั้งสิ้น จึงไม่น่าที่รัฐบาลจะมีจุดยืนที่อยู่ตรงข้ามภาคประชาชนได้เลย” นายประพันธ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น