xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สุดเสียใจสำนึกผิดกับการสูญเสีย "ผกก.สมเพียร" ยกวีรบุรุษในดวงใจ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถ.บันนังสตา  จ.ยะลา  หลังจากเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ ปทีป เมื่อ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทีมโฆษก.ตร.แท๊กทีมแถลงแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ "พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา" รับสุดเสียดายที่เยียวยาไม่ทัน และเป็นเรื่องที่สะเทือนใจทุกคน ชี้ เรื่องนี้ ใครทำผิดเมื่ออนุก.ตร.ตรวจสอบต้องมีคนรับผิดชอบ ย้ำ ตร.สำนึกผิดแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ยกเป็นวีรบุรุษในดวงใจตำรวจ

วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกตร. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโยลีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผู้บังคับอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษก ตร. พล.ต.ต.โชติกร สีมันตร ผู้บังคับการกองทะเบียนพล พล.ต.ต.วรวิทย์ ลิปิพันธ์ ผู้บังคับการกองสวัสดิการ แถลงข่าวถึงกรณีการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รรท.ผบ.ตร.) จากกรณีขอย้ายจาก สภ.บันนังสตา ไปยังสภ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อขอพักจากการทำหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนเกษียณอายุราชการในปี 2554 แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณา

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าในนามรัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพ.ต.อ.สมเพียร และสั่งการให้ตร.ดูแลเรื่องต่างๆให้ดีที่สุด โดยเฉพาะภรรยาและบุตรอีก 4 คน ที่อยู่เบื้องหลัง มีส.ต.ท.โรจนิล หรือ วัฒนพงษ์ เอกสมญา สังกัดตำรวจตระเวนชายแดนจ.ยะลา สำหรับ อีก 3 คน คนหนึ่งจะรับเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจสืบต่อจากบิดาต่อไป ซึ่งประเด็นหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีห่วง คือกรณีที่ พ.ต.อ.สมเพียร มาร้องทุกข์ ต่อนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งโยกย้ายหลังจากพ.ต.อ.สมเพียร รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ ตร.เยียวยาให้เร็วที่สุด

“ เรื่องนี้ รรท.ผบ.ตร.และข้าราชการตำรวจทุกคนในตร. แน่นอนว่าต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง สำหรับพี่สมเพียรและครอบครัว ที่ต้องสูญเสียข้าราชการตำรวจดีเด่นอีกคนหนึ่งไป ในระยะเวลาที่เราไม่คาดคิด ซึ่งเป็นบทเรียนอีกบทหนึ่งของตร. สำหรับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เสียสละ อุทิศตนอย่าเต็มที่ แล้วต้องมาเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง ก็ถือว่าเป็นวีรบุรุษที่เราจะจดจำไว้หัวใจ สำหรับข้าราชการตำรวจกว่า 240,000 คนคนทั่วประเทศ สำหรับวันนี้จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดย รรท.ผบ.ตร.มอบให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา(สบ10) ไปเป็นประธาน จากนั้น ในช่วงบ่ายจะเคลื่อนศพมาที่วัดคลองเปล ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยผมจะเดินทางไปบ่ายนี้ คืนนี้นายกรัฐมนตรี และรรท.ผบ.ตร. จะร่วมเป็นเจ้าภาพ สวดอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น. อยากเรียนว่าเรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ว่าเมื่อเกิดแล้วก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่อยู่ข้างหลังต้องคอยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างตามกระบวนการ เหมือนเช่นที่เคยดำเนินการโดยจะทำให้ดีที่สุด ก็ไม่ต้องห่วง สำหรับความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนออกมาจำนวนมากที่เห็นอกเห็นใจและอยากให้ ตร.ดูแลให้ดีที่สุดและนำเรื่องต่างๆมาเป็นบทเรียน” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ตร.อยากชี้แจงเรื่องที่สังคมค้างคาใจ เรื่องที่พ.ต.อ.สมเพียร ร้องเรียน นั้นได้ดำเนินการแล้ว อยากชี้แจงถึงเหตุที่ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร ต้องบากหน้ามาร้องเรียนกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ทั้งนี้เมื่อเรื่องมาถึงตร. เราก็ได้มีการพูดคุยกันตามที่ตนเคยแถลงไปเมื่อการประชุมก.ตร.ในวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้น ก.ตร.พูดเรื่อง พ.ต.อ.สมเพียรกันเยอะ รวมทั้งเรื่องของตำรวจคนอื่นอีก 91 นายด้วย ซึ่งกรณี พ.ต.อ.สมเพียร ก.ตร.มีมติให้ รรท.ผบ.ตร.กลับไปดำเนินการเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากพิจารณาเห็นว่าทำงานทุ่มเททำงานในพื้นที่ต่อเนื่องยาวนานและอีกปีกว่าก็จะเกษียณอายุราชการเจ้าตัวก็เพียงแต่ปรารถนาจะกลับไปอยู่กับครอบครัวในบั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุขหลังจากตรากตรำทำงานมากว่า 40 ปี ซึ่ง รรท.ผบ.ตร.สั่งการสำนักงานกำลังพลไปพิจารณาดำเนินการ โดยมอบหมายให้พิจารณาพ.ต.อ.สมเพียร ขึ้นเป็นรองผบก. ภ.จว.ตรัง โดยจะเปิดตำแหน่งให้ใหม่ ซึ่งกระบวนการในการดำเนินการจะเข้าสู่การพิจารณาของก.ตร.ในครั้งต่อไป มตินี้เกิดขึ้นในก.ตร.วันที่ 5 แต่ยังไม่ทันประชุมก.ตร.ครั้งต่อไป พ.ต.อ.สมเพียรก็เสียชีวิตเสียก่อน

กำลังพล เผย เปิดตน.รองผบก. ตั้ง "สมเพียร"

ด้านผู้บังคับการกองทะเบียนพล ชี้แจงว่า หลังจากวันที่ 5 มีนาคม ที่ก.ตร.มีมติ ให้เยียวยา รรท.ผบ.ตร.ก็สั่งการมาที่ บก.ทพ อย่างเร่งด่วนให้รีบดำเนินการให้ พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่ง บก.ทพ ดำเนินการเป็นขั้นตอน เริ่มจากตัดโอนตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ของสำนักงานกำลังพล 1 อัตรา ไปให้ จ.ตรัง แล้วนำเสนอต่อก.ตร.ในการปรับอัตรา ผบ.หมู่ เป็นอัตรา รองผบก. เพื่อรองรับการแต่งตั้ง พ.ต.อ.สมเพียร จากนั้นจะดำเนินการแต่งตั้งโดยต้องขอก.ตร.อนุมัติยกเว้นขึ้นข้ามหน่วย และขออนุมัติให้ขึ้นตำแหน่งรองผบก.ได้ ทั้งที่คุณสมบัติส่วนตัวของ พ.ต.อ.สมเพียร ยังไม่ครบ เนื่องจากดำรงตำแหน่งเพียง 3 ปีเศษ ไม่ครอบ 4 ปี ซึ่งก.ตร.สามารถอนุมัติให้ได้ และต้องขอแต่งตั้งนอกวาระประจำปี ซึ่งบก.ทพ.ตั้งใจจะดำเนินการให้ทันในก.ตร.ครั้งถัดไปคาดว่าจะเป็นวันที่ 19 มีนาคม แต่น่าเสียใจ ตนเองก็ยังเสียใจจนถึงตอนนี้ ที่เราทำให้ พ.ต.อ.สมเพียรไม่ทัน ทั้งที่ผู้บังคับบัญชาสั่งมาแล้ว

ด้านผู้บังคับการกองสวัสดิการ กล่าวว่า ตร.พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษไม่เกิน 7 ขั้น เลื่อนชั้นยศเป็นกรณีพิเศษให้เป็น พล.ต.อ. และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย เงินทดแทนการเสียชีวิต 25 เท่าของเงินเดือน คิดเป็น 1,089,250 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท ตามสิทธิ์ ซึ่งตร.จะดำเนินการโดยด่วน ขณะที่ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ โรมา รองสว.สส.สภ.บันนังสตา และตำรวจอีก 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับเงินเพิ่มการสู้รบ หรือ พ.ส.ร. ไม่เกิน 2 ขั้น เงินชดเชยการป่วยเจ็บรายวัน อัตรา 1/30 เท่า ของเงินเดือน กรณีรักษาในโรงพยาบาล และ 1 /60 เท่าของเงินเดือนกรณีพักฟื้นนอกโรงพยาบาล ตามคำสั่งแพทย์ สำหรับเงินสวัสดิการสงเคราะห์ นั้น ทายาทของ พ.ต.อ.สมเพียร จะได้รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ 350,000 บาท และเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์ 200,000 บาท ส่วนที่บาดเจ็บได้เงินนี้รายละไม่เกิน 100,000 บาท

ขณะที่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ตนได้พูดคุยกับ นางพิมพ์ชนา หรือ ณิภาสินี เอกสมญา ภรรยาของพ.ต.อ.สมเพียร เมื่อเช้านี้ โดยนายพิมพ์ชนายังติดใจ เรื่องที่สามีอยากขอย้ายใช้ชีวิตบั้นปลายข้าราชการอย่างสงบสุข ซึ่งได้อธิบายท่านก็เข้าใจดี ฝากขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนที่ได้กรุณาสามี และช่วยในการให้ข้อมูลข่าวสารแก่สังคม ว่า พ.ต.อ.สมเพียรได้ทำงานเสียสละอุทิศตนในพื้นที่อย่างไร สำหรับลูกชายที่เป็นตำรวจก็ยังมีกำลังใจดี ส่วนอีก 3 คน แม่ก็ยังไม่ตัดสินใจ ยังไม่คุยกันว่าคนไหนจะเป็นตำรวจสืบแทนพ่อ วันนี้หลังสวดอภิธรรมศพจะได้คุยกันว่าจำดำเนินการต่อไปอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมา ตร.ได้พิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้กับตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีชีวิตอยู่บ้างหรือไม่ ซึ่งพล.ต.ต.โชติกร กล่าวว่า บำเหน็จความชอบประจำปีเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาที่จะให้กับเจ้าตัวพิจารณาไปตามลำดับชั้น ส่วนบำเหน็จความชอบพิเศษ อยู่ในการพิจารณาของตร.ที่จะตั้งคณะกรรมขึ้นมาพิจารณาแล้วได้ขอ้ยุติแล้ว กำลังนำเข้า ก.ตร.เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำหนดไว้ว่าการให้บำเหน็จต้องได้รับความเห็นชอบจากองค์กรการบริหารงานบุคคล นั่นคือก.ตร. โดยที่ผ่านมายอมรับว่าไม่เคยมีการพิจารณาตอบแทนในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษเพื่อตอบแทน ซึ่งการที่ตร.บอกว่าจะดูแลตำรวจในศชต.เป็นพิเศษ ไม่ใช่การหยอดคำหวาน เราดูแลกันอย่างจริงจัง แต่การดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายนั้นต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ตร.ให้ความสำคัญ ตอบแทนความดีความชอบตาสิทธิมาตลอด แม้แต่โควตาการให้ขั้นเงินเดือนเพิ่ม 2 ขั้น ตร.ก็เอาโควต้าของส่วนกลางโปะให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอด ให้เป็นกรณีพิเศษมาตลอด

ยัน แถลงข่าวชี้แจงไม่ได้แก้ตัว ชี้เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

เมื่อถามว่าการออกมาแถลงข่าววันนี้เป็นการแก้ตัวเมื่อสายไปแล้วหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เรื่องนี้ ความจริงตนจะชี้แจงตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว ได้พูดคุยกับสื่อมวลชน

“ได้รับโทรศัพท์จากสังคม จากประชาชนจำนวนมากที่ตำหนิติติง ว่าตร.มัวไปทำอะไรอยู่ เขาขอแค่นี้ก็ไม่ได้จนต้องมาตายในที่สุด อย่างที่พี่สมเพียรพูดไว้อย่าให้เขาต้องกลับบ้านด้วยยศ พล.ต.อ.และธงชาติคลุมศพ ซึ่งเราเข้าใจดี ผมถึงนำเรียนท่านรรท.ผบ.ตร.ว่าอยากให้ บก.ทพ.มาชี้แจงว่าหลังก.ตร.มีมติแล้วเราได้ทำอะไรกันบ้าง แล้วสังคมจะเข้าใจ เรายินดีรับคำตำหนิติเตียน คำวิพากษ์วิจารณ์ทุกกรณี ที่ผมว่าวันนี้ไม่ใช่มาแก้ตัวใดทั้งสิ้น อยากเรียนให้เข้าใจว่าเราทำอะไรไปถึงไหน 6-7 วัน หลังมีมติพี่ก็มาเสียชีวิต ซึ่งเราเสียใจทุกคนที่เราไม่สามารถนำเรื่องนี้เข้าก.ตร.ได้ทัน อย่างไรก็ตามเราจะพิจารณาว่าความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้มีอะไรบ้าง ใครควรรับผิดชอบบ้าง เพราะกรณีนี้ไม่ใช่กรณีเดียวมีอีก 91 รายที่มาร้องเรียนว่าโยกย้ายไม่เป็นธรรม ซึ่งอนุก.ตร.ร้องทุกข์ และคณะกรรมการสอบสวนที่นายกรัฐมนตรีตั้งขั้นก็กำลังดำเนินการอยู่ ในหลายกรณี ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ.ต.อ.สมเพียร ผมว่าต้องมีคนรับผิดชอบ แต่แค่ไหนอย่างไร ผมจะนำเรียนเป็นระยะๆ ขอให้สังคมมั่นใจว่าถ้ามีสิ่งไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในกระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายและมีเหตุให้พี่สมเพียรไม่ได้รับการตอบสนองในกรณีที่เจ้าตัวไม่ได้รับการสมัครใจที่จะย้าย ถ้าไม่มีเหตุผลอันสมควรและผู้บังคับบัญชาไม่ดำเนินการอย่างโปร่งใส ผมว่า รรท.ผบ.ตร. ก็คงต้องดำเนินการและต้องมีคนรับผิดชอบในกรณีนี้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า คนที่รับผิดชอบ ต้องเป็น พล.ต.อ.ปทีป หรือไม่ เนื่องจากพล.ต.อ.อดุลย์ ได้ทำหนังสือให้พิจารณาถึง 2 ครั้ง ก่อนมีการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ไม่ดำเนินการ โฆษกตร. กล่าวว่า เรื่องนี้หลังจากอนุก.ตร.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ.ต.อ.สมเพียร ก็ได้ดำเนินการ 2 ส่วน เรื่องแรกการย้ายข้ามภาคที่ต้องให้ 2 หน่วยยินยอมกัน อนุก.ตร.ได้สอบถามไปยัง ศชต.และบช.ภ. 9 แล้วให้ชี้แจงภายใน 7 วัน ว่ากรณีการแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำอะไรไปบ้าง ตรงนี้จะส่งกลับมาที่อนุก.ตร.ร้องทุกข์และจะมีการดำเนินการเร่งด่วน ซึ่งความรับผิดชอบแค่ไหนอย่างไรเราทราบดีว่าใครต้องรับผิดชอบแค่ไหน อย่างไรถ้าเกิดมีข้อบกพร่องเกิดขึ้น

“สำหรับท่าน รรท.ผบ.ตร. นั้นผมเชื่อว่าในกระบวนการแต่งตั้งมีกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่าระดับไหน ใครมีอำนาจอย่างไร ผมเชื่อว่าท่านตระหนักดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้างที่ท่านต้องรับผิดชอบ มีอะไรบ้างที่ท่านต้องลงไปกวดขันดูแล หรือมีอะไรบ้างที่ต้องทำให้กระบวนการต่างโปร่งใสและตอบต่อสังคมได้ ก็คงไม่ถึงขั้นที่ รรท.ผบ.ตร. จะต้องรับผิดชอบเอง แต่กระบวนการจัดการตรงนี้ผมว่าท่านตระหนักดีอยู่แล้วว่าสังคมต้องการคำตอบ เพราะฉะนั้นท่านต้องทำเรื่องนี้รวดเร็วกระจ่างชัด และผมจะมาแถลงให้ทราบต่อไป” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า อนุก.ตร.จะตรวจสอบว่า ทำไมชื่อของ พ.ต.อ.สมเพียร นั้นหายไปจากบัญชี บช.ภ.9 ทำไมไม่ได้รับการแต่งตั้ง หลังรับการชี้แจงจาก พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฐฏ์ ผบช.ศชต.และ พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ภ.9 แล้ว อนุก.ตร.ร้องทุกขฺ์จะต้องตรวจสอบว่า 2 หน่วยตกลงไม่ได้เพราะอะไร มีเหตุใดจึงย้ายพ.ต.อ.สมเพียร ไปบช.ภ.9 ไม่ได้ และอนุก.ตร.ร้องทุกข์ก็ต้องตรวจสอบในประเด็นที่ พ.ต.อ.สมเพียร ระบุว่าที่ย้ายไม่ได้เพราะนายต้องการเงิน มากกว่าด้วย ซึ่งเบื้องต้นในก.ตร.ทราบว่าปัญหาที่บช.ภ.9 ไม่รับพ.ต.อ.สมเพียร เพราะไม่มีใครยอมไป เป็นผกก.สภ.บันนังสตา แทน ซึ่งอนุ.ก.ตร.จะตรวจสอบว่าเรื่องนี้มีความพยายามในการแลกตัวกันจริงหรือไม่ ซึ่งสัปดาห์หน้า อนุก.ตร.ร้องทุกข์ชุดนี้จะหารือเรื่องนี้กัน แต่ก็ยอมรับว่าการพิจารณาของตร.ในบางเรื่องบางราวก็ช้าไป

เมื่อถามว่า กรณีพ.ต.อ.สมเพียร เสียชีวิต จะมีใครออกมาแสดงสปิริต รับผิดหรือไม่ โฆษกตร. กล่าวว่า ถ้าไม่มีใครออกมาแสดงสปิริต ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการที่ต้องพิจารณาว่าใครต้องรับผิดชอบบ้าง

เมื่อถามว่าบทเรียนที่ตร.จะเอาไปแก้ไขจากเรื่องนี้คืออะไรบ้าง พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า สิ่งที่ฟังจากพ.ต.อ.สมเพียร ทราบว่า ท่านน้อยใจ พูดว่าตำรวจที่ไปทำงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเหมือนลูกเมียน้อย เราดูแลตำรวจที่ใกล้ชิดนาย อยู่ในเมืองหลวง มีผลประโยชน์ในตำแหน่งต่างๆ และคนที่ก้อมหน้าก้มตาทำงานไม่ได้รับการเหลียวแล นอกจาไม่ได้รับการแต่งตั้ง บางส่วนยังต้องใช้เงินใช้ทองอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมรับฟังจากปากของพ.ต.อ.สมเพียร พวกเราก็ได้ยิน

“ประเด็นนี้ทุกคนต้องตระหนักแล้ว ไม่ใช่เพราะพ.ต.อ.สมเพียรเสียชีวิต แต่การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกคนต้องทำเรื่องนี้ให้จริงจังมากขึ้น ทั้งเรื่องสิทธิประโยชน์ที่เรียกร้องมานาน ว่าตำรวจใต้ต้องได้รับการดูแล สิทธิประโยชน์มากกว่าที่อื่น ซึ่งจะเข้าก.ตร.ครั้งหน้า รวมถึงการพิจารณาแต่งตั้ง ที่ตร.จะต้องกลับมาดูและพิจารณาเรื่องนี้” พล.ต.ท. พงศพัศ กล่าว

เมื่อถามว่า การเสียชีวิตของพ.ต.อ.สมเพียรครั้งนี้ ตร.ยอมรับใช่หรือไม่ว่าสิ่งที่พ.ต.อ.สมเพียร พูดถึงระบบการแต่งตั้งที่ล้มเหลว ไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องจริง พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบ เรื่องนี้พูดกันทั่วไป ตนว่าผู้บริหารตร.ต้องได้ยิน ครั้งนี้สะท้อนพอเพียงแล้ว มากกว่าพอ เกินพอ

ชี้ "ปทีป" จะออกมาพูดแน่รับเสียใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.ปทีป จะออกพูดอะไรในฐานะผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง โฆษกตร. กล่าวว่า คิดว่า ท่านต้องพูด

เมื่อถามว่าจากปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ที่มีปัญหามากมาย กระทั่ง พ.ต.อ.สมเพียร เสียชีวิต นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยว่าจะเปลี่ยนตัว รรท.ผบ.ตร. หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อเช้าและนำเรียนไปว่าภาพรวมเป็นอย่างไร และบอกว่าตร.ทำอะไรไปบ้าง

“ท่านไม่ได้พูดถึงการบริหารจัดการหรือตัวบุคคล เพียงแต่ท่านให้ผมนำเรียน รรท.ผบ.ตร.ว่าให้ไปดูแลครอบครัวเขาให้ดีที่สุด เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผมว่านายกรัฐมนตรีเองก็มีแนวทางในการดูแลองค์กร เพราะขึ้นตรงต่อท่าน หรืออาจมอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ประธานก.ตร. มาติดตามเรื่องนี้ แต่เรื่องอื่นท่านไม่ได้พูด ผมว่าท่านรรท.ผบ.ตร.ท่านได้พยายามทำให้ดีที่สุดในตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบในส่วนของท่านที่ยังเป็น รรท.ผบ.ตร.อยู่ ผมมีโอกาสพบ รรท.ผบ.ตร.ทุกวัน มีปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเมืองมากกมาย เหตุการณ์ต่างๆมากทั้งการบริหารจัดการภายใน ทั้งการรับศึกภายนอกต่างๆ ผมว่าผมพูดอะไรไม่ได้มาก ก็เห็นใจท่าน ที่ท่านยังคงเป็น รรท.ผบ.ตร.อยู่ จนถึงขณะนี้ ซึ่งเป็นเดือนที่ 6 แล้ว ท่านก็พยายามทำเต็มที่ แต่ก็มีอะไรทำได้ ทำไม่ได้ อะไรทำได้มากได้น้อย เป็นข้อจำกัดเฉพาะเรื่อง ตำแหน่ง หน้าที่รับผิดชอบ ก็เป็นเรื่องที่เราเห็นใจท่าน ผมยืนยันว่าท่านพยายามทำดีที่สุด ผมว่าท่านตระหนักในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ท่านรู้มากกว่าพวกเรา ท่านรับราชการจนจะเกษียณปีนี้แล้ว เรื่องนี้ทั้งปวงที่เกิดขึ้นท่านรู้ ตระหนักดี ท่านคงมีแนวทางของท่าน” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว

เมื่อถามว่า รรท.ผบ.ตร. เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ โฆษกตร. กล่าวว่า เสียใจมาก เมื่อวานคุยกับท่าน เรื่องนี้คุยกันเยอะ ท่านมอบ พล.ต.อ.อดุลย์ลงไป ท่านเสียใจที่เรื่องนี้ยังไม่ทันเข้าประชมก.ตร.แต่พ.ต.อ.สมเพียรมาเสียชีวิตก่อน ผู้บริหารในตร.ทุกคนเสียใจ อยากให้ตนไปเรียนกับครอบครัวเอกสมญา ว่าทุกคนเสียใจ

ผู้สื่อถามว่า ตร.อยากขอโทษครอบครัวของพ.ต.อ.สมเพียร อย่างไร พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เมื่อเช้าคุยกับภรรยา ตนขอโทษไป

“ขอโทษในสิ่งที่พ.ต.อ.สมเพียรต้องการในวาระสุดท้ายของชีวิต ที่ขอย้ายไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข ซึ่งเรารู้สึกได้ดีในความที่ทุกคนมีครอบครัว ผมขอโทษท่าน ขอโทษลูกชายของท่านด้วย เป็นคำขอโทษจากใจจริง ผมว่าตำรวจทุกคนรู้สึกได้ที่เราติดหนี้ในความรู้สึกตรงนี้อยู่ ผมเสียใจจริงๆ สัมผัสได้เพราะใกล้ชิดกับความตายมาเยอะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นภรรยา ขอโทษผ่านสื่อด้วยว่าสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำนั้นช้าเกินไป ไม่สำเร็จ จนต้องมาเสียชีวิต” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว

ถามว่า รรท.ผบ.ตร.มีอำนาจให้มาช่วยราชการเพื่อเยียวยาก่อนได้ ทำไมไม่ทำ โฆษกตร. กล่าวว่า เราคิดไม่ถึง แต่พูดไปเหมือนแก้ตัว เรื่องนี้สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารงานตร. และยังสะท้อนอีกหลายอย่าง บทเรียนที่ได้คือไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ทั้งนี้ตนคิดว่าหลังจากนี้ รรท.ผบ.ตร.จะเดินทางไปที่สภ.บันนังสตา ไปปลอบขวัญ พูดคุย ทำความเข้าใจ ตำรวจที่นั่น เรื่องนี้ทราบดีว่าการสูญเสียผู้นำที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน เป็นเรื่องที่สะเทือนใจทุกคน เรื่องนี้ใครทำผิดเมื่ออนุก.ตร.ตรวจสอบต้องมีคนรับผิดชอบ ทั้งนี้ เรื่องนี้ ตร.สำนึกผิดแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราสำนึกผิดแล้วจริงๆ

กำลังโหลดความคิดเห็น