ผบ.ทบ.ระบุหลังจับ 5 การ์ดเสื้อแดงเตรียมอาวุธถล่มกลุ่มพันธมิตรฯ ได้แล้วต้องสอบสวนที่มาของระเบิดและอาวุธ รวมทั้งผู้อยู่เบื้องหลัง ห่วงม็อบชนม็อบ และมือที่ 3 ป่วนการชุมนุม วอนอย่าละเมิดกฎหมาย เหตุเจ้าหน้าที่จะตกเป็นจำเลยถูกเล่นงานไม่จัดการ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดง 5 คนบริเวณแยกสวนมิกสวัน พร้อมตรวจค้นพบอาวุธสงครามเตรียมก่อเหตุการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า เราห่วงใยอยู่ตลอดเวลาในเรื่องการชุมนุมว่าอาจมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งไม่ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้กระทำหรือเริ่มก่อน และมีผู้ที่ไม่หวังดีต้องการให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เหตุการณ์เมื่อคืน (24 ม.ค.) ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย เพราะการติดตามด้านการข่าวของเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการร่วมกัน เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าการปฏิบัติงานประสบผลสำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ ซึ่งต้องสอบสวนว่าใครเป็นคนทำ และที่มาของระเบิดและพยานต่างๆ พร้อมสอบหาผู้ที่กระทำความผิดให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในการชุมนุมเราไม่สามารถห้ามได้ แต่ทุกฝ่ายต้องไม่ละเมิดกฎหมาย เช่น ห้ามปิดล้อม หรือบุกเข้าไปในสถานที่ราชการ ซึ่งต้องปฏิบัติให้ชัดเจน ก็อยากขอร้องว่าอย่ากระทำ
ส่วนทหารจะเข้ามาช่วยดูแลหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีขั้นตอนอยู่แล้ว ซึ่งขั้นตอนที่1-3 เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดำเนินการใช้กฎหมายปกติ ในส่วนของ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ นั้น ทหารจะมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เมื่อตำรวจร้องขอ โดยส่งสารวัตรทหารทำหน้าที่ร่วมกัน คือ ส่งกองร้อยรักษาความสงบซึ่งเตรียมการไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้บูรณาการด้านการข่าวร่วมกัน โดยเฉพาะศูนย์ติดตามสถานการณ์ (ศตส.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ร่วม เพื่อบูรณาการงานด้านการข่าวและยุทธการ แต่ที่น่าห่วงคือ การปฏิบัติของผู้ที่มาชุมนุม ส่วนใหญ่มักทำผิดกฎหมายจึงอยากขอร้อง เพราะเมื่อเราบังคับใช้กฎหมายแล้วปฏิบัติไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ตกเป็นจำเลย ประเทศไทยจะอยู่ได้ต้องใช้กฎหมายไม่เช่นนั้น ก็อยู่แบบบ้านป่าเมืองเถื่อน คือไม่เคารพกฎหมาย ใครอยากทำอะไรก็ทำ ทั้งนี้การชุมนุมต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเผชิญหน้ากันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตำรวจเตรียมกำลังไว้แล้วเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่มเผชิญหน้ากัน ผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มต้องระวังตัวเอง อย่ายุแหย่ซึ่งกันและกัน อย่าเข้าไปละเมิดในแต่ละฝ่าย ขณะนี้ไม่ว่าจะเขียนกฎหมายออกมากี่ฉบับ แต่พวกท่านก็สู้กฎหมายทุกฉบับ แล้วเจ้าหน้าที่จะทำอย่างไร แล้วสื่อก็มาถามว่า ทำไมถึงทำไม่ได้ ก็กฎหมายเขาห้ามไม่ให้มีการชุมนุนม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะไปบริเวณนั้น โดยการใช้คนหมู่มาก แล้วทหารจะทำอย่างไร จะเอาอาวุธไปไล่ประชาชนคงไม่ได้
“หากย้อนกลับไปเมื่อช่วง เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุการณ์รุนแรงกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมทหาร ยึดอาวุธไป แล้วใครบ้างที่ใช้อาวุธ เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงก็มาไล่ถามว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนทำ ขณะนี้ปืนของทหารยังหาไม่เจอเลย แล้วที่ยิงออกมาแล้วบอกว่าเป็นกระสุนของทหาร เราไม่ได้เริ่มใช้อาวุธ มีแต่พวกเขายึดรถทหารและเอาอาวุธไปแล้วกลับมายิงใส่ทหาร แล้วมาบอกว่าทหารยิงทั้งหมดขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่บ้าง วันนี้การชุมนุมจะเป็นฝ่ายไหนก็แล้วแต่ ขอให้รักษากฎหมาย จะสู้ด้วยวิธีการเมืองก็ว่ากันไป แต่อย่าเอาเจ้าหน้าที่มาเป็นจำเลย ถ้าเอาทหาร ตำรวจมาเป็นจำเลย แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะเป็นกรรมการ แล้วใครจะเป็นคนดูแลกฎหมาย ใครจะทำให้บ้านเมืองปลอดภัย บางคนพูดว่าทำไม ผบ.ทบ.ไม่เอากำลังออกไปหากสถานการณ์ไม่ดี ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างมีกฎการใช้กำลังของกองทัพ โดยการขออนุมัติ ถ้าอยู่ดีๆ จะเอากำลังไปสะพานมัฆวานฯ สามารถเอาไปได้หรือไม่ ถืออาวุธออกไปสู้กับเขา มันทำไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
