“เทพไท” แนะเสื้อแดงประกาศเลิกการชุมนุมตลอดไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้คนกรุง เย้ยจัดม็อบเพื่อรักษาฐานการเมือง ท้าเผยชื่ออย่าปูดข่าวนักการเมืองใต้กักตุนน้ำมันปาล์ม ชี้ป้ายสีไปทั่วหวังดิสเครดิตทางการเมือง เปรียบรัฐแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีกว่ายุคแม้ว ชี้ตัวเลขผู้สูญเสียและความรุนแรงต่างกันลิบลับ
วันนี้ (24 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประขำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ประกาศลดระดับการชุมนุมเหลือเพียงเดือนละ 1 ครั้งว่า เป็นเรื่องที่ดีที่คนเสื้อแดงได้ลดจำนวนความเคลื่อนไหวลงมา ซึ่งทำให้ความเดือดร้อนของคนกรุงเทพฯ ลดตามไปด้วย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดแกนนำคนเสื้อแดงควรจะประกาศยกเลิกการชุมนุมทั้งหมดจะดีกว่า เพราะการอ้างเหตุผลว่ากลัวประชาชนจะเดือดร้อนนั้นถ้าคนเสื้อแดงคำนึงถึงความเดือดร้อนจริงก็คงจะไม่เคลื่อนไหวในลักษณะพร่ำเพรื่อ ซึ่งการประกาศชุมนุมเพียงเดือนละ 1 ครั้งของแกนนำ นปช.จะรวมไปถึงความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงอื่นๆ ด้วยหรือไม่ หรือเป็นพียงแค่กลุ่ม นปช.เคลื่อนไหวเพียงเดือนละ 1 ครั้ง แต่ปล่อยให้คนเสื้อแดงอีกหลายกลุ่มเคลื่อนไหวอิสระเดือนละหลายๆ ครั้งก็จะไม่ลดความเดือดร้อนและความวุ่นวายอย่างแน่นอน ซึ่งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นการรักษาฐานทางการเมืองของกลุ่มตัวเองเท่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อจะหาเหตุให้มีการชุมนุมเท่านั้นถ้าคนเสื้อแดงจะแสดงออกทางการเมือง เพื่อต่อต้านรัฐบาลจริงก็ควรที่จะยุติการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งหมดแล้วมาแสดงออกผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ ดีกว่า
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่ามีนักการเมืองในภาคใต้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนน้ำมันปาล์มและหาประโยชน์ว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นการบิดเบือข้อเท็จจริงใส่ร้ายและจงใจที่จะให้สังคมเข้าใจว่านักการเมืองภาคใต้คงจะหมายถึง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการพูดถึงการกักตุนน้ำมันปาล์มในเขต จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อที่จะเชื่อมโยงให้เกี่ยวข้องกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เพราะก่อนหน้านี้เคยตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับการเป็นประธานในการแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มของนายสุเทพมาแล้วถ้าพรรคเพื่อไทยมีหลักฐานว่ามีนักการเมืองภาคใต้ประโยชน์และเป็นผู้กักตุนน้ำมันปาล์มจริงก็ขอให้เปิดเผยออกมา อย่าอ้างเพียงแหล่งข่าวหรือข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ เพราะเป็นวิธีการนนั่งเทียนปั้นข่าวเพื่อใส่ร้ายคนอื่น
นายเทพไทกล่าวว่า ขอยืนยันว่านักการเมืองพรรคในภาคใต้ไม่มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และไม่ได้ทำธุกิจเกี่ยวกับการค้าน้ำมันปาล์มแต่อย่างใด ที่น้ำมันปาล์มสำเร็จรูปแพงขึ้นไม่ใช่สาเหตุของการกักตุน แต่เป็นเพราะราคาปาล์มดิบสูงจากเดิมกิโลละ 2.50 บาทเป็นกิโลละ 7.80 สตางค์ จึงทำให้ต้นทุนแพงขึ้น และคนที่ได้ประโยชน์จากราคาปาล์มสูงก็คือเกษตรกรชาวสวนปาล์มจึงไม่เข้าใจว่าทำไมคนของพรรคเพื่อไทยจึงอิจฉาตาร้อนเกษตรกรที่ได้ประโยชน์จากสินค้าของตัวเองจากการบริหารรัฐบาลชุดนี้
โฆษกประขำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นจนทำให้พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปลดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยอ้างว่าล้มเหลวในการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การที่พรรคเพื่อไทยหยิบเอาเหตุการณ์เพียงเหตุการณ์เดียวมาเป็นข้ออ้างและข้อสรุปว่าการแก้ปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ล้มเหลวจะไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้แต่ต้องดูภาพร่วมของการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นว่าสถานการณ์ 3 จังหวัดชยแดนภาคใต้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจำนวนตัวเลขเหตุร้ายลดลงสถิติผู้เสียชีวิตก็ลดลงตามลำดับ ถ้าจะเปรียบเทียบกับยุครัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัวเลขความรุนแรงและความสูญเสียต่างกันหลิบลับ
นายเทพไทกล่าวว่า ดังนั้น การออกมาเรียกร้องใหปลดนายสุเทพและ พล.อ.ประวิต เป็นเรื่องการดิสเคดิสทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเท่านั้นเอง ซึ่งการพยายามบิดเบือข้อเท็จจริงกล่าวหาว่ารัฐบาลมีนโยบาย 99 วันแก้ปัญหาภาคใต้ได้ว่ารัฐบาลไม่เคยระบุวันเวลาที่จะแก้ปัญหาภาคใต้ได้ตามที่กล่าวหา แต่เรื่องนโยบาย 99 วันที่รัฐบาลประกาศก่อนการเลือกตั้งเป็นเรื่อง 99 วันที่จะจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อบริหารสถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ให้สำเร็จ ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้ออก พ.ร.บ.บริหารการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สำเร็จแล้วตามนโยบายที่วางไว้ แต่อยู่ในขั้นตอนกำลังสรรหาเลขาธิการศูนย์อำนวยบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศ.อบต.) อยู่ในขณะนี้ และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็จะมีองค์กรเข้าไปบริหารและแก้ปัญหาในพื้นที่ตามนโยบายที่รัฐบาลไประกาศไว้