“มาร์ค” เร่งเครื่องปฎิรูปประเทศปูพรมหาเสียง เรียก จนท.รายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพื่อเร่งรัดแผนและแก้อุปสรรคได้ทันท่วงที
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์"
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ว่า การลงพื้นที่ทีชุมชนนวลจิตร เขตวัฒนา เพื่อไปดูแลในเรื่องของปัญหายาเสพติด หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศแผน ไม่เพียงแต่การเข้มงวดกวดขันเรื่องของยาเสพติด อบายมุข แต่ว่าเรื่องของการที่จะลดอาชญากรรม 20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งแนวทางก็จะเป็นแนวทางของการที่จะให้ทั้งตำรวจ ทั้งท้องถิ่น ในกรณีนี้ก็คือกรุงเทพมหานคร และที่สำคัญที่สุดก็คือภาคประชาชน มีส่วนร่วมกันในการดูแลความเป็นอยู่ในชุมชน และร่วมมือกันในการลดปัญหาอาชญากรรม ลดปัญหาในเรื่องของอบายมุขในสังคมของเรา ซึ่งอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่เราเดินหน้าติดตามแผนปฏิรูป ที่ตนได้ประกาศมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ทั้งในช่วงของวันปีใหม่ และในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา การติดตามเรื่องงานปฏิรูปขณะนี้มีการเดินหน้าขับเคลื่อนกันอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น แผนที่จะให้พี่น้องประชาชนซึ่งอยู่นอกระบบประกันสังคม มีทางเลือกในการที่จะเข้ามาสู่ระบบประกันสังคม และมีการสมทบเงิน โดยได้รับการสมทบเงินจากรัฐบาล ในสูตรที่เรียกว่า 70/30 หรือ 100 กับ 50 บาท
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันอังคารที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการในร่างพระราชกฤษฎีกา ที่เปลี่ยนแปลงในเรื่องของกติกาของการสมทบเงินและการเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามมาตรา 40 อันนี้ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแผนที่ได้ประกาศไปนั้นเราเร่งรัดอย่างเต็มที่ กรณีนี้กระทรวงแรงงานก็รวดเร็วมากในการที่จะไปยกร่างการปรับแก้พระราชกฤษฎีกา และมีการดำเนินการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีทันที เหมือนกับที่ตนไปติดตามงานทางด้านยาเสพติด ในส่วนของตำรวจและในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เดินหน้าจะทำไม่ใช่เฉพาะที่ชุมชนใดชุมชนหนึ่ง แต่ว่าเป็นแผนที่จะต้องทำกันทั่วประเทศ เพียงแต่ว่าที่จะให้มาดูบรรยากาศในวันนี้ก็จะเป็นตัวอย่างของชุมชนหนึ่ง ซึ่งตั้งแต่ต้นก็เป็นที่มาของการที่เราจะต้องทำแผนนี้ เพราะว่ามีการให้ข้อมูล มีการร้องเรียนเข้ามา และมีเครือข่ายของประชาชนเองที่ได้มาพบปะกับตนที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงปีที่แล้ว
นายกฯ กล่าวว่า แต่ว่างานทางด้านการปฏิรูปทางด้านอื่นๆ นั้นก็ขอเรียนว่าจากนี้ไปจะเชิญบุคคลที่ถูกมอบหมายให้ไปขับเคลื่อนงานแต่ละด้านมาพบในทุกสัปดาห์อย่างน้อย 2 วันๆ ละ 1 ชั่วโมง ก็คือจะเป็นช่วงของวันจันทร์ อาจจะเป็นช่วงประมาณเที่ยงหลังจากที่ตนประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หรือคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกวันจันทร์ ยกเว้นสัปดาห์นี้ก็จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์ เนื่องจากสภาฯ จะประชุมในวันอังคาร และก็วันพุธในช่วงเช้าอีก 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นในทุกสัปดาห์จากนี้ไป อย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ครับ ผมจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมา เพื่อติดตามดูแลว่างานการปฏิรูปทั้งหลายที่ตนได้มีการแถลงไปก่อนหน้านี้นั้น มีความคืบหน้ามีความชัดเจนเป็นรูปธรรม มีปัญหาอุปสรรคอะไร เพื่อจะได้สามารถที่จะสั่งการเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาได้ทันที เพื่อเร่งรัดแผนปฏิบัติการต่างๆ ให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม