xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เย้ยเพื่อแม้วอย่าหวังใช้ รธน.ทำพรรคร่วมฯแตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ (แฟ้มข่าว)
“เทพไท” ชี้ เพื่อแม้วยังหาจุดยืนแก้ไข รธน.ไม่ได้ เพราะเกิดความแตกแยกภายในระหว่าง ส.ส.นกแล กับกลุ่มเงินหนา รวมทั้งต้องรอ “ทักษิณ” เคาะก่อน เย้ยอย่าหวังใช้ รธน. เสี้ยมให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกแยก เพราะไม่มีผล

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางไกลจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาแสดงท่าทีเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไม่ชัดเจน โดยอ้างว่ายังมีเวลาอีกนานและจะรอดูท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ว่า การที่พรรคเพื่อไทย ไม่กล้าฟันธงลงไปเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะมาจากเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.ยังเกิดความแตกแยกในด้านความคิดในหมู่สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่ตกผลึกเกี่ยวกับเขตเลือกตั้ง เพราะ ส.ส.กลุ่มนกแลต้องการให้มีการเลือกตั้งในระบบเขตใหญ่ 3 คน เพื่อหวังกระแสของพรรค และจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ ส.ส.ประเภทดาวฤกษ์ที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงและมีเงินหนาก็อยากจะได้เขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว เพื่อง่ายต่อการยิงกระสุนให้ตรงเป้า

2.เป็นการตี 2 หน้าของพรรคเพื่อไทยที่คอยจะเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลกำลังที่จะพูดคุยทำความเข้าใจและหาจุดยืนร่วมกันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าพรรคเพื่อไทยหวังจะให้เกิดความแตกแยกในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลก็ขอให้รอต่อไปจนมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดก็จะจับมือกันเป็นรัฐบาลต่อไปอีกครั้งโดยปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านต่อไป

3.ที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ อาจจะเป็นเพราะรอสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะสนับสนุนรูปแบบการเลือกตั้งแบบใดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคาะลงมาก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้

นายเทพไท กล่าวว่า การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาแก้เกี้ยวว่าที่ไม่สนับสนุนระบบเขตเลือกตั้ง 375+125 เพราะรูปแบบดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ใดๆ กับประชาชนนั้นก็อยากจะถามว่า แล้วที่พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนสูตรการเลือกตั้งแบบ 400+100 จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างไร เมื่อเริ่มต้นการพิจารณาในวาระแรกก็ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณา แต่เมื่อคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากมีมติออกมาแล้ว กลับออกมาแสดงความเห็นในลักษณะที่สร้างความสับสนให้กับสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น