xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” วอนนายกฯ ให้โอกาสภาค ปชช.โอบอุ้มสู่การเป็นรัฐบุรุษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“คำนูณ” ชี้ “มาร์ค” มีคุณสมบัติครบ เป็นคนเหมาะสมคนหนึ่งที่จะเป็นผู้นำในการปฏิรูปประเทศไทย วอนกลับใจซะและหันสู่อ้อมกอดของประชาชนเพื่อโอบอุ้มไปสู่การเป็นรัฐบุรุษในอนาคต พร้อมแนะตั้งกรรมการเฉพาะกิจและดึงภาคประชาชนไม่ว่าจะเป็น “ปานเทพ-เทพมนตรี” หรือท่านอื่นๆ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อช่วยปลดปล่อย 7 คนไทย


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังการเสวนา โดย “คำนูณ สิทธิสมาน”  

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวบนเวทีเสวนา “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ซึ่งถ่ายทอด จากมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ ว่าจะเปรียบเทียบให้ฟังระหว่างนายกฯ กัมพูชา กับไทย นายอภิสิทธิ์ได้พูดในวันที่ 30 ธ.ค. 2553 โดยแสดงจุดยืนว่าต้องปล่อยตัวคนไทยแบบไม่มีเงื่อนไข และไม่ยอมรับกระบวนการศาล แต่หลังจากท่านกร้าวเสร็จท่านก็ไปพักผ่อนที่ตาก ผิดกับนายฮุนเซนที่พูดกร้าวในวันที่ 10 ม.ค.2554 โดยบอกว่าไม่ว่าหน้าไหนก็ช่วย 7 คนไทยไม่ได้ และกร้าวต่อไปของเขาคือเพิ่มข้อหานายวีระ สมความคิด และผู้ช่วย แต่นายกฯไทยหลังกร้าวแล้วกลับไม่ทำอะไรเลย  แถมคนระดับตั้งแต่นายกฯลงมาถึงระดับผู้ว่าจังหวัด พวกนี้พยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าคนไทยทั้ง 7 ถูกจับในแผ่นดินกัมพูชา

พวกเราและนักวิชาการผู้รักชาติทั้งหลายพยายามหาหลักฐานมายืนยันว่าคนไทยถูกจับในแผ่นดินไทย แทนที่จะได้โต้แย้งกับกัมพูชา แต่เราต้องมาโต้แย้งกับคนไทยด้วยกันเอง พูดแล้วอยากจะร้องไห้  รัฐบาลนอกจากจะไม่แยแสพวกเขาแล้ว ยังทำตนเป็นเสมือนเสือซุ่มจ้องที่จะตะครุบเหยื่อซึ่งเป็นนักวิชาการที่มี 2 มือ 1 สมอง ต้องอดตาหลับขับตานอน เงินก็ไม่ได้ แต่รัฐบาลคอยแต่จะรอว่าเมื่อไหร่ ใครพลาดจะได้โดดขย้ำให้มันแหลกลานไป

นายคำนูณกล่าวอีกว่า ถ้านายปานเทพ และนายเทพมนตรี พลาดในเรื่องนำไซต์ 2 มาเทียบกับบ้านหนองจาน มันก็เป็นแค่กระพี้ไม่ใช่แก่นของปัญหา พวกคุณไม่ควรจะมาเอาเป็นเอาตายกับคนที่ต้องการช่วยคนไทยด้วยกัน  และเสือตัวนี้ก็ชื่อว่า ศิริโชค โสภา ชื่อว่ากระทรวงต่างประเทศ และชื่อว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่างระดับของคำพูดแต่เนื้อหาเหมือนกัน

การโต้ตอบกันทางเฟซบุ๊กกับนายศิริโชคซึ่งวันนี้ก็ได้ตอบมาว่า ไม่ว่าจะพิจารณาด้วยหลักใด บ่อน้ำที่บ้านหนองจานอยู่ในแผ่นดินกัมพูชา นั่นก็แสดงว่าอยู่ในแผ่นดินที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วมันก็ขัดกับที่นายศิริโชคเคยตอบไว้ว่าเป็นพื้นที่ที่ยังเจรจาตกลงกันไม่ได้  โดยรัฐบาลยืนยันเอกสารสิทธิ์ครอบครองของชาวบ้านว่าเป็นของไทย และจะดูแลให้ประชาชนได้ที่ทำมาหากิน และในเมื่อนายศิริโชคพูดว่ามันอยู่ในกัมพูชา แล้วจะให้เขาไปหากินได้อย่างไร

“วิชาชีพของตนสอนให้รู้ว่าคนเราถ้าอยู่บนความถูกต้องพูด 100 ครั้ง ก็เหมือนเดิม 100 ครั้ง แต่ถ้าไม่ถูกต้อง พูด 10 ครั้งก็ขัดกันเอง” นายคำนูณกล่าว

นายคำนูณกล่าวอีกว่า วันที่ 23 มิ.ย.2551 ตนกับเพื่อน ส.ว. 60-70 คน ได้ขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลนายสมัคร ซึ่งตนก็ได้ให้สมญารัฐบาลของนายสมัครว่า รัฐบาล 10 ไม่ และได้บอกด้วยว่านายสมัครอย่าได้ดูเบาภาคประชาชน มันแปลกที่ 10 ไม่ ก็มาเกิดกับรัฐบาลนี้และมากกว่า 10 แล้วด้วย

“ผมคิดว่า อ.เทพมนตรี อ.วีรพันธ์ อ.ปานเทพ ไม่ได้ยืนยันหัวชนฝาว่าตัวเองถูกแต่เพียงผู้เดียว แต่เรามีเจตนาอยากช่วยคนไทยด้วยกัน ถ้ารัฐบาลเข้าใจการเมืองใหม่ ย้ำไม่ใช่ชื่อพรรค ทำไมไม่เอาคนเหล่านี้ไปร่วมเป็นกรรมการเฉพาะกิจเพื่อปลดปล่อยคนไทยทั้ง 7 คน ปิดห้องคุยว่าข้อมูลต่างกันอย่างไร ทำอย่างไรให้ตรงกัน นายกฯ และนายศิริโชค รู้ดีว่ากระทรวงต่างประเทศไม่ได้คิดเหมือนท่าน แต่เขาจำเป็นต้องพูดเหมือนท่าน และเมื่อการเมืองไปเขาก็ทำอะไรตามความคิดตัวเอง ซึ่งต้องยอมรับว่าเรื่องวุ่นๆ หลายเรื่องก็เกิดจากกระทรวงต่างประเทศ” นายคำนูณกล่าว

นายคำนูณยังกล่าวอีกว่า นายกฯ ไม่สามารถต้านทานอำนาจข้อมูล และอำนาจต่อรองในการปฏิบัติของกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานความมั่นคงบางหน่วย  ท่านทำไมไม่ใช้ภาคประชาชน ตั้งกรรมการเฉพาะกิจด่วนขึ้นมาเพื่อปลดปล่อย 7 คนไทย เรียนเชิญ 2 เทพ และท่านอื่น ท่านเหล่านี้ไปแน่ แม้รู้ว่าไม่ได้ผลเต็มที่ แต่ก็พร้อมที่จะไป ทำไมนายกฯไม่ทำ ทำไมต้องบำเพ็ญตนเป็นเสือซุ่มอยู่คอยดูว่าเราพลาดเมื่อไหร่ก็เข้าขย้ำ ชีวิตของ 2 เทพไม่มีความหมายหรอก ข้อมูลที่เขาได้มาทำแข่งกับเวลา ได้มาแค่นี้ก็สุดยอดแล้ว พลาดก็พลาดเพียงกระพี้ไม่ใช่แก่น ไม่ช่วยแล้วยังขย้ำ ด้วยความเคารพ การทำแบบนี้ตนรับไม่ได้

ตนชอบมากที่นายกฯ แถลงนโยบายหลังรับราชโองการว่าอย่างแรกจะยุติการเมืองที่ล้มเหลว ซึ่งกุญแจวิเศษในการยุติการเมืองที่ล้มเหลว คือท่านต้องกล้าหาญตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากความเป็นนักการเมืองอีกคนหนึ่งมาเป็นนักการเมืองที่พร้อมก้าวข้ามธรณีประตู เพื่อก้าวผ่านไปเป็นรัฐบุรุษในอนาคต ท่านสมบูรณ์พร้อม ชาติตระกูลดี การศึกษาดี ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองสันบสนุน แม่ยกเยอะ มีเสน่ห์สาธารณะสูง เป็นคนที่หมาะสมที่สุดคนหนึ่งในการเป็นผู้นำในการปฏิวัติประเทศไทย ในความหมายของการปฏิรูปใหญ่ โดยการลงมือทำเอง และกุญแจวิเศษที่ท่านจะใช้ไขแหกกรอบความฟอนเฟะของการเมืองที่ล้มเหลว รัฐราชการที่คอร์รัป ก็คือภาคประชาชน ที่จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก หรืออาจจะพูดได้ว่าทำไมนายกฯไม่ผละออกจากวงล้อมของรัฐราชการฟอนเฟะ คอร์รัป และออกมาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของประชาชน ตนเชื่อว่าภาคประชาชนพร้อมลืมเรื่องในอดีต พร้อมที่จะโอบอุ้มนายกฯคนนี้ให้เดินก้าวข้ามไปสู่จุดเริ่มต้นในการเป็นรัฐบุรุษ

“ขอกราบวิงวอนนายกฯ ที่รักและเคารพ ได้โปรดเข้าใจว่าสิ่งที่ภาคประชาชนขอไม่ได้มากมายอะไรเลย ขอให้ท่านให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการคานอำนาจข้อมูล คานอำนาจอิทธิพลใดๆที่พึงจะมีของรัฐราชการรวมศูนย์  ไม่ว่าจะในนามของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ว่าจะในนามของฝ่ายความมั่นคงใดๆ บางกลุ่ม บางเหล่า บางส่วน บางคน ซึ่งล้อมรอบท่านอยู่ และก็มีส่วนทำให้ท่านได้ขึ้นมาเป็นนายกฯ จะให้เราไปกราบก็ได้ ขอโอกาสให้พวกเราโอบอุ้มท่าน เดินก้าวข้ามธรณีประตู ในการเป็นนักการเมืองดาดๆ ไปสู่การเป็นรัฐบุรุษให้ประเทศ กราบขอโอกาสให้ภาคประชาชนได้ไหม กราบขอความเมตตาภาคประชาชน เพื่อช่วยเหลือ 7 คนไทย ผมขอมากไปมั้ย ถ้าไม่ให้ก็จะได้พิจารณากันต่อไป ซึ่งก็จะต้องดำเนินการตามสมควรต่อกรณี” นายคำนูณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น