“ถวิล” เชื่อ 7 คนไทย ไม่เจตนารุกล้ำเขตแดนเขมร เพราะไม่มีอาวุธ เผย มีข้อมูลเพียบ ชี้ พื้นที่ที่เกิดปัญหายังไม่มีความชัดเจนว่าของใคร แจง ผู้บริหารระดับสูงของไทย-เขมร เคยตกลงกันเรื่องดินแดนที่มีข้อพิพาทว่า หากมีการพลัดหลงไม่จำเป็นต้องขึ้นศาล
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกจับและขึ้นศาลกัมพูชา ว่า อยู่ระหว่างกระบวนของศาลกัมพูชา ขณะนี้ตนมีข้อมูลอยู่มาก เพราะต่างฝ่ายต่างให้ข้อมูลมา ทั้งนี้ ตนขอให้มั่นใจ และเชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดำเนินการต่างๆ ว่า การดำเนินการเป็นผลประโยชน์ของคนไทย และรักษาผลประโยชน์ของชาติไว้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ทั้ง 7 คนไทย ไม่ได้มีเจตนาที่ต้องการรุกล้ำ เพราะไม่มีอาวุธ
นายถวิล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีหลายจุดที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน และมีหลายหลักเขตที่ยังไม่สามารถหาพบ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมาจากศึกสงครามของประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น จึงมีบางพื้นที่ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของใครทั้งสิ้น รวมทั้งในพื้นที่ที่เกิดปัญหาก็เช่นเดียวที่ยังไม่มีใครได้ใครเสียเรื่องดินแดน ซึ่งขอให้เชื่อตน จนกว่าจะมีการปักปันเขตแดนตามข้อตกลงของทั้งฝ่ายที่ทำกันไว้เสร็จสิ้นถึงจะชัดเจน ขณะนี้ที่มีปัญหา เมื่อไม่มีความชัดเจนเรื่องเขตแดน ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการตกลงว่าจะยึดถืออะไร และที่ผ่านมา ผู้บริหารประเทศระดับสูงทั้งสองประเทศได้ตกลงกันไว้ว่า หากมีการพลัดหลงในพื้นที่ชายแดนที่ไม่มีความชัดเจน ก็ขอให้ยกเว้นในส่วนการดำเนินคดีทางศาล เพราะจะมีปัญหามาก แต่ทั้งนี้ ตนคิดว่า กัมพูชาคงเห็นว่าทั้ง 7 คนไทยมีเจตนาที่จะรุกล้ำ จึงส่งเรื่องไปถึงศาล
เมื่อถามถึงการเตรียมข้อมูลอะไรในการสู้คดีกับทางกัมพูชา นายถวิล กล่าวว่า ทางฝ่ายทนาย และผู้ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า สรุปว่า ได้มีการตั้งข้อหาโจรกรรมข้อมูลเพิ่มด้วยหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า เป็นเพียงรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ และเป็นความเชื่อของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ต้องรอความชัดเจนในกระบวนการของศาลกัมพูชา
