xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยฯ บุก กต.ไล่ “กษิต-ชวนนท์-ประสาท” บ่ายนี้ ซัดกีดกันพบ 7 คนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไชยวัฒน์” โวยทูตไทยในเขมรกีดกันทีมกฎหมายพบ 7 คนไทย อ้างเคลื่อนไหวมากเดี๋ยวเสียตาพระยาให้เขมร พร้อมบุ กกต.จี้ “กษิต-ชวนนท์-ทูตไทย” ลาออก รับผิดชอบยกแดนให้เพื่อนบ้าน เชื่อคนรัฐสมคบคิด “ฮุนเซน” - “วัลย์วิภา” ซัดรัฐไม่ปกป้องสิทธิคนไทย จวก “ประสาท” คิดถึงแต่แผนที่เขมร แถมกีดกันทีมงาน ลั่นพรุ่งนี้ไปใหม่ ยันทีม “พนิช” โดนจับดินแดนไทยชัด

วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ และ ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของเครือข่ายฯ ที่เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเยี่ยมและให้ข้อแนะนำทางกฎหมายกับ 7 คนไทยที่โดนกัมพูชาจับกุมข้อหารุกล้ำดินแดนเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553 และศาลกัมพูชากำลังไต่สวนความผิด ร่วมกันแถลงความคืบหน้า โดยนายไชยวัฒน์กล่าวว่า ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของเครือข่ายฯ ที่นำโดยนายการุณ ใสงาม นั้นเดินทางไปยังกรุงพนมเปญเพื่อขอพบ 7 คนไทย แต่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญไม่ให้ความร่วมมือ และทำให้เรื่องนี้บานปลาย โดยคณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ เดินทางกลับไทยเพื่อวางแนวทางการสู้คดีใหม่และจะกลับไปกรุงพนมเปญในวันที่ 12 ม.ค. โดยพฤติกรรมของนายประสาท ปราสาทวินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญนั้นแสดงท่าทีกีดกันคณะที่ปรึกษาฯในการต่อสู้คดี

“คำพูดของนายประสาทที่หลุดออกมานั้น คือ หากเคลื่อนไหวมากๆ พื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จะตกเป็นของกัมพูชา เรื่องนี้มีใบสั่งจากรัฐบาลไทยไปยังนายประสาท ในการปิดกั้นความจริงเรื่องนี้ ตัวปัญหาเรื่องนี้คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และนายประสาท” นายไชยวัฒน์กล่าว

ด้าน ม.ล.วัลย์วิภากล่าวว่า ตนร่วมเดินทางไปกับคณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ เพื่อเตรียมสู้คดีแต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ โดยรัฐบาลพยายามไม่ปกป้องสิทธิของคนไทยที่โดนจับกุมในครั้งนี้ มันประจักษ์ชัดว่ากระทรวงการต่างประเทศรับนโยบายรัฐบาลและสั่งไปยังสถานทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ตนขอประณามนายประสาท เพราะพื้นฐานเดิมของนายประสาท ในการแก้ไขปัญหาแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้พยายามใช้แผนที่ 1:2 แสน ตร.กม. สิ่งใดที่เกี่ยวกับชายแดนนั้น นายประสาทจะไม่เข้าไปรับผิดชอบ ข้อหาที่ 7 คนไทยโดนจับกุมนั้น เป็นการข้ามแดนโดยไม่มีพาสปอร์ตเท่านั้น และคนไทยบางส่วนในกลุ่มนี้รู้ความจริงนี้ดีว่า คนไทย 7 คนยังอยู่ในดินแดนไทย แต่ทหารกัมพูชาที่พกอาวุธล้ำแดนเข้ามาในดินแดนไทย

“โดยนายประสาทไม่ให้ความร่วมมือในการเดินทางไปศาลและพบกับทนายความ 2 คนของ 7 คนไทย รวมทั้ง รมว.มหาดไทยกัมพูชา และญาติของ 7 คนไทยด้วย เรื่องนี้ทางนายประสาทกีดกันหมด โดยทางคณะที่ปรึกษาฯ ต้องหาเบอร์โทรศัพท์ประสานงานเองทั้งหมด และได้รับความช่วยเหลือจากคนไทยและคนกัมพูชาบางคน เราโดนกีดกันแต่พรุ่งนี้เราจะกลับไปใหม่ รัฐบาลพยายามทำเรื่องนี้ให้สังคมมองว่าเครือข่ายฯเข้าไปเป็นตัวแส่ รัฐบาลบอกว่า 7 คนไทยข้ามดินแดนโดยไม่เจตนา แต่หลักฐานที่พวกเรามีนั้นพบว่าคนไทยโดนจับในดินแดนไทย และต้องใช้กฎหมายระหว่างประเทศแก้ไข เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ แต่รัฐบาลไทยไม่ยอม และไปยอมรับการใช้กระบวนการศาลของกัมพูชา” ม.ล.วัลย์วิภากล่าว

นายไชยวัฒน์กล่าวเสริมอีกว่า คณะที่ปรึกษาฯ ยืนยันว่าพื้นที่เกิดเหตุนั้น เป็นพื้นที่ของประเทศไทย แต่ทางจังหวัดสระแก้วและคนในพื้นที่ยืนยันว่าเป็นพื้นที่กัมพูชานั้น กลไกเรื่องนี้ทำให้ไม่ตระหนักถึงความจริง และรัฐบาลสั่งปิดกั้นความจริง และเรื่องนี้ไปโผล่แล้วที่กรุงพนมเปญ พวกตนจึงจะไล่ล่าความจริง และขอให้คนพวกนี้ออกมารับผิดชอบ และวันนี้เวลา 13.00 น. เครือข่ายฯ จะไปกดดันนายกษิต นายชวนนท์ รวมทั้งนายประสาทให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะไปยกดินแดนไทยให้กัมพูชา หากยังไม่ลาออก พวกตนจะกดดันนายกฯ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมให้ลาออก วันนี้ชัดเจนว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลไทยบางคนสมคบกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ใหญ่โต และรัฐบาลไทยประโคมข่าวว่าการเคลื่อนไหวของเครือข่ายฯนั้นทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ยืนยันว่าประชาชนของสองประเทศต่างเข้าใจกัน เพราะชาวกัมพูชาให้กำลังใจกับเครือข่ายฯ ย้ำว่าพื้นที่ที่ 7 คนไทยโดยจับนั้นเป็นพื้นที่ของไทยตามสนธิสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 ฉะนั้น เรื่องนี้ต้องส่งให้องค์กรกลางรับผิดชอบ เพราะเมื่อปี 2518 องค์การสหประชาชาติสร้างแคมป์อพยพผู้ลี้ภัยสงครามในกัมพูชาในพื้นที่นี้ และเครือข่ายฯกำลังประสานกับเลขาธิการองค์การประชาชาติให้รับเรื่องนี้ไปพิจารณาต่อไป













กำลังโหลดความคิดเห็น