“สนธิ” ชี้ “มาร์ค” พักรีสอร์ต “ตากไมนิ่ง” สะท้อนนิติรัฐล้มเหลว ส่งผลข้าราชการเกรงใจเหมืองแร่ที่มีข้อพิพาทชาวบ้าน กรณีปล่อยแคดเมียมลงนาข้าว แนะเอาอย่างเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ตำรวจ อัยการไม่กลัวนักการเมือง กล้าจับผู้นำเข้าคุกถ้ากระทำความผิด แนะตั้งกรรมการระดับชาติเอาผิดผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่มีส่วนทำให้ไทยเสียดินแดนให้เขมร
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ช่วงที่ 3
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ออกอากาศทาง ASTV วันที่ 7 ม.ค. กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปพักที่เหมืองของบริษัทตากไมนิ่ง ในช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาว่า เป็นการไม่ยึดหลักนิติรัฐตามที่พูด เพราะบริษัทตากไมนิ่งปล่อยสารพิษแคดเมียมออกมา ทำให้ชาวบ้าน 3 ตำบล กว่า 2,000 คนได้รับความเดือดร้อน ต้องเปลี่ยนพืชที่เพาะปลูก ได้รับการเจ็บไข้จากสารพิษแคดเมี่ยม เจ้าหน้าที่ไม่มีการดำเนินคดีต่อบริษัท แต่กลับให้ชาวบ้านที่เดิมเคยปลูกข้าว ก็ต้องเปลี่ยนมาปลูกอ้อย การเดินทางไปพักผ่อนวันหยุดที่รีสอร์ตของบริษัทตากไมนิ่ง ทำให้ชาวบ้านมองว่าบริษัทกับนายกฯ เป็นพวกเดียวกัน อีกทั้งจะทำให้ข้าราชการ หรือแพทย์พยาบาลก็จะให้ความสำคัญกับบริษัทตากไมนิ่งมากกว่าจะช่วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
การใช้หลักนิติรัฐต้องเคร่งครัด โดยต้องไม่คำนึงว่าเป็นใคร ใหญ่โตอย่างไร อย่างในประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่มีการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปกฎหมาย มีการจับประธานาธิบดีที่กระทำความผิดเข้าคุก หรือจับเจ้าของธุรกิจรายใหญ่อย่างซัมซุง ทำให้นักการเมืองรู้ว่าไม่สามารถกระทำความผิดได้ เพราะจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างประเทศญี่ปุ่นก็เช่นกัน มีการจับนายกรัฐมนตรีข้อหาคอร์รัปชัน จะเห็นได้ว่าทั้งตำรวจ และอัยการ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เกรงกลัวนักการเมือง
กรณีของประเทศไทย อย่างกรณีการเสียดินแดน ตนอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีนักการเมือง ข้าราชการ หรือมีใครที่เกี่ยวข้องกับการกระทำให้เสียดินแดนบ้าง และต้องจับตัวมาดำเนินคดีให้หมด กรณีของ น.ส.แพรวา ขับรถยนต์เฉี่ยวชนรถตู้จนทำให้มีผู้เสียชีวิต หากกระทำความผิดก็ควรว่าไปตามกฎหมาย แต่ก็ต้องดูรถตู้ด้วยว่า กฎหมายไม่ให้รถตู้มีผู้โดยสารเกิน 9 คน แต่นี่มีถึง 15 คน แต่ไม่ถูกตำรวจจับ ก็เพราะรถตู้มีมาเฟียคุม มาเฟียก็มีตำรวจ ทหารคุมอีกที ปัญหาเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นเพราะแต่ละฝ่ายไม่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง ถ้าทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้นมา
กรณีของรถเก๋งกับรถตู้อยากให้ทำให้เหมือนกันกับกรณีคนเก็บขยะเอาแผ่นซีดีมาวางขายที่ถูกปรับเป็นแสนบาท ทำให้เหมือนกับกรณีจับเด็กซิ่งมอเตอร์ไซค์แล้วเชิญพ่อแม่เขามารับทราบความผิด อย่าให้มี 2 มาตรฐาน ต้องไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรม แต่ทุกวันนี้ตำรวจกลัว ลูกหลานไฮโซเสพยากันตามผับก็ไม่กล้าจับ กรณีของตากไมนิ่งก็ต้องดำเนินการกับคณะกรรมการบริษัทที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นพันคน ดังนั้นกรณีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสียดินแดน กรณีรถตู้ ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องเดียวกันหมด ปัญหามาจากการไม่ทำหน้าที่ ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น