ป.ป.ช.มีมติยกคำร้อง ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ยื่นฟ้อง “เหลิม- สมัคร” ปฏิบัติหน้าที่ชอบ สั่งปิดเอเอสทีวี ชี้ข้อกล่าวหาไม่มีมูล
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีที่ นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้มีหนังสือกล่าวหา ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกระทำการอันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าว หรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะ โดยสั่งให้ยุติการเผยแพร่ภาพที่รับสัญญาณการถ่ายทอดของ ASTV นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในการประชุมกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 6/2551 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2551 ซึ่งมี ร้อยตำรวจเอก เฉลิม เป็นประธานการประชุม ได้สั่งการโดยมอบนโยบายให้จังหวัดทุกจังหวัด กวดขันเคเบิลทีวีที่รับสัญญาณการถ่ายทอดของสถานี ASTV มาเผยแพร่ โดยในเบื้องต้นให้ดำเนินการ 1.ใช้มาตรการทางปกครอง เช่น แนะนำตักเตือนให้ชี้แจงกับเจ้าของกิจการเคเบิลทีวีว่าการรับสัญญาณของสถานี ASTV ไปเผยแพร่หากมีการกระทำหรือข้อความที่ผิดกฎหมายถือว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 2.หากไม่เชื่อฟังให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยประสานการปฏิบัติกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยให้ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานี ASTV ได้แพร่สัญญาณภาพและเสียงถ่ายทอดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ณ ห้องประชุมกระทรวงมหาดไทย ร้อยตำรวจเอก เฉลิม ได้ชี้แจงนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการและผู้ว่าราชการจังหวัด รับทราบและปฏิบัติในกรณีดังกล่าว ว่า กระทรวงมหาดไทยมิได้มีนโยบายให้สั่งปิดสถานีเคเบิลทีวี เนื่องจากมิได้มีอำนาจที่จะดำเนินการดังกล่าวได้ เพียงแต่ขอให้สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและขอความร่วมมือในการดำเนินการ แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในการดำเนินการของจังหวัดต่างๆ ตามนโยบายดังกล่าว เช่น จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น ฯลฯ ไม่ปรากฏว่าได้มีการสั่งให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวียุติการรับสัญญาณถ่ายทอดจากสถานี ASTV แต่อย่างใด สำหรับกรณีที่มีการระงับการแพร่ภาพสัญญาณของสถานี ASTV ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น นั้น สืบเนื่องจากจังหวัดขอนแก่นได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในเรื่องดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการเคเบิลทีวีได้ปรึกษาหารือและตกลงกันในระหว่างผู้ประกอบการเคเบิลทีวีด้วยกัน โดยตัดสินใจงดการถ่ายทอดสัญญาณชั่วคราวเอง มิได้เกิดจากการสั่งการของจังหวัดขอนแก่นให้ระงับการถ่ายทอดญญาณจากสถานี ASTV แต่อย่างใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนยังฟังไม่ได้ว่า ร้อยตำรวจเอก เฉลิม ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป สำหรับกรณีกล่าวหา นายสมัคร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นผู้สั่งการให้ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม กระทำการข้างต้นนั้น เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาได้ถึงแก่ความตายแล้ว จึงให้ยุติการไต่สวนข้อเท็จจริง
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีที่ นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้มีหนังสือกล่าวหา ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกระทำการอันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าว หรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะ โดยสั่งให้ยุติการเผยแพร่ภาพที่รับสัญญาณการถ่ายทอดของ ASTV นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในการประชุมกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 6/2551 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2551 ซึ่งมี ร้อยตำรวจเอก เฉลิม เป็นประธานการประชุม ได้สั่งการโดยมอบนโยบายให้จังหวัดทุกจังหวัด กวดขันเคเบิลทีวีที่รับสัญญาณการถ่ายทอดของสถานี ASTV มาเผยแพร่ โดยในเบื้องต้นให้ดำเนินการ 1.ใช้มาตรการทางปกครอง เช่น แนะนำตักเตือนให้ชี้แจงกับเจ้าของกิจการเคเบิลทีวีว่าการรับสัญญาณของสถานี ASTV ไปเผยแพร่หากมีการกระทำหรือข้อความที่ผิดกฎหมายถือว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 2.หากไม่เชื่อฟังให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยประสานการปฏิบัติกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยให้ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานี ASTV ได้แพร่สัญญาณภาพและเสียงถ่ายทอดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ณ ห้องประชุมกระทรวงมหาดไทย ร้อยตำรวจเอก เฉลิม ได้ชี้แจงนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการและผู้ว่าราชการจังหวัด รับทราบและปฏิบัติในกรณีดังกล่าว ว่า กระทรวงมหาดไทยมิได้มีนโยบายให้สั่งปิดสถานีเคเบิลทีวี เนื่องจากมิได้มีอำนาจที่จะดำเนินการดังกล่าวได้ เพียงแต่ขอให้สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและขอความร่วมมือในการดำเนินการ แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในการดำเนินการของจังหวัดต่างๆ ตามนโยบายดังกล่าว เช่น จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น ฯลฯ ไม่ปรากฏว่าได้มีการสั่งให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวียุติการรับสัญญาณถ่ายทอดจากสถานี ASTV แต่อย่างใด สำหรับกรณีที่มีการระงับการแพร่ภาพสัญญาณของสถานี ASTV ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น นั้น สืบเนื่องจากจังหวัดขอนแก่นได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในเรื่องดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการเคเบิลทีวีได้ปรึกษาหารือและตกลงกันในระหว่างผู้ประกอบการเคเบิลทีวีด้วยกัน โดยตัดสินใจงดการถ่ายทอดสัญญาณชั่วคราวเอง มิได้เกิดจากการสั่งการของจังหวัดขอนแก่นให้ระงับการถ่ายทอดญญาณจากสถานี ASTV แต่อย่างใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนยังฟังไม่ได้ว่า ร้อยตำรวจเอก เฉลิม ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป สำหรับกรณีกล่าวหา นายสมัคร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นผู้สั่งการให้ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม กระทำการข้างต้นนั้น เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาได้ถึงแก่ความตายแล้ว จึงให้ยุติการไต่สวนข้อเท็จจริง
