โฆษก “มาร์ค” โต้ “ดิเรก” ยันรัฐไม่เกี่ยวชุด “สมบัติ” แก้รัฐธรรมนูญ ชี้ ประชาธิปัตย์ไม่ได้เปรียบคู่ต่อสู้ ชูพรรคเล็กมีสิทธิ์คว้าแบบสัดส่วนได้มากกว่าเดิม ไล่ไปดูเสียงโหวตส.ว.เห็นพ้อง “ปู่ชัย” ตัดปาร์ตี้ลิสต์ทิ้ง - หยันเพื่อไทย 2 จิต 2 ใจ จะซักฟอก หรือบีบยุบสภาเร็วดี เตือน “มิ่งขวัญ” อย่าเสี่ยงเป็นเหยื่อโดนสอยกลางสภา จี้ฝ่ายค้านเปิดหัวหน้าที่แท้จริง
วันนี้ (4 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาระบุว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของคณะรัฐมนตรี (ครม.)นั้น ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เอาเปรียบคู่ต่อสู้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ประโยชน์ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของ ครม.มาจากการศึกษาของ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นพรรคจึงไม่ได้เอาเปรียบคู่ต่อสู้แต่อย่างใด การเลือกตั้งที่มี ส.ส.ระบบเขต 325 และสัดส่วน 125 ไม่ได้เป็นประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์เพียงฝ่ายเดียวแต่เป็นโยชน์กับทุกฝ่าย เพราะการยกเลิก 5% ออกไป ย่อมทำให้พรรคเล็กมีโอกาสได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีที่ นายดิเรก ออกมาพูดนั้น เพราะชุดที่ นายดิเรก ศึกษาไว้ คือ สัดส่วน 400 บวก 100 จึงเห็นว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะไม่สนับสนุนร่างของ ครม.อยากให้ขอกลับไปดูในวาระหนึ่ง ส.ว.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับของ ครม.และ ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญของ 102 ส.ว.ที่ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับที่มาของ ส.ส.ระบบเขต 400 สัดส่วน 100 ส่วนกรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ให้ตัด ส.ส.สัดส่วนออกไปเลย เพราะเป็นต้นเหตุให้ ส.ส.แตกแยก ตนเห็นด้วย แต่เสียดายที่นายชัย ไม่ยอมใช้สิทธิ ส.ส.เข้าไปแปรญัตติ เชื่อว่า จะมีคนสนับสนุน
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น เห็นว่าพรรคเพื่อไทยกำลังลังเล 2 จิต 2 ใจ เพราะมีกลุ่มอยู่ 2 กลุ่ม ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน กลุ่มแรก กลุ่มที่อยากให้ยุบสภาโดยเร็ว และกลุ่มที่สอง ต้องการให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เมื่อยื่นอภิปรายแล้วจะทำให้การยุบสภาช้าออกไปอีก และเมื่ออภิปรายเสร็จรัฐบาลก็จะลากเร็วออกไปกว่าจะยุบสภา ส่วนกรณีที่จะมีการดัน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ตนขอเตือน นายมิ่งขวัญ ว่า ถ้าไม่ถนัดงานในสภา ไม่ควรเสี่ยงให้เป็นเหยื่อภายในพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องมีทั้งประเด็น เนื้อหา ลีลา ที่จะชนะใจคนในสภา และประชาชนที่เฝ้าดูการอภิปราย หากตายกลางสภาจะไม่มีคนช่วย ไม่เหมือนพูดคนบนโพเดียมที่ล้มลงแล้วมีคนช่วยพยุง แต่ขณะเดียวกัน ในพรรคเพื่อไทย มีแต่คนจ้องถล่มนายมิ่งขวัญ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมมวยไฟเตอร์ไว้ เพื่ออภิปรายนั้น แสดงให้เห็นว่า อำนาจผู้นำอภิปรายที่แท้จริงไม่ได้อยู่กับนายมิ่งขวัญ เพราะนายมิ่งขวัญ เป็นคนเรียบร้อย ประนีประนอม ชี้ให้เห็นว่า ที่ยก นายมิ่งขวัญ ขึ้นมาเป็นเพียงการอุปโลกน์
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุมีแคนดิเดตนายกฯ 5 คนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า แสดงว่า นายมิ่งขวัญ ถูกหลอกเป็นหนูลองยา และทั้ง 5 คน เป็นคนในทั้งหมด หนึ่งในจำนวนนั้นอาจดูว่าเป็นคนนอกก็ได้ คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ทั้งนี้ อยากให้พรรคเพื่อไทยให้กล้าเปิดเผยผู้นำที่แท้จริง ไม่ควรรอหลังจากมีการยุบสภาแล้วค่อยเปิด อย่าทำอึมครึมสังคมจะได้ตรวจสอบ