xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว”เปลี่ยนแผน-เน้นรุนแรง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เกาะกระแส

00 มีความเห็นหลากหลายตามมาหลังจากมีการเปิดเจรจาแบบ “เรียลลิตีโชว์” ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและแกนนำ “3 เกลอ” เมื่อวันที่ 28 มี.ค. บางคนก็เอาจริงเอาจัง คิดว่าจะหาทางออกกันได้โดยเฉพาะพวกนักสันติวิธีทั้งหลาย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่เป็นเจ้าของ “ม็อบเสื้อแดง” คือ ทักษิณ ชินวัตร มันต้องการให้ยุบสภา เพื่อเป็น “บันใดขั้นแรก” เพื่อนำไปสู่เป้าหมายอื่นๆ ตามมา เช่น นิรโทษกรรมให้พ้นผิด ได้เงินคืน ได้อำนาจกลับมา แค่นี้เอง ไม่มีอะไรซับซ้อน ทำเป็นอ่านไม่ออกกันไปได้

00 ส่วนบันไดขั้นที่สอง จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศไทย โดยมุ่งไปที่สถาบันสำคัญที่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการใช้อำนาจของตัวเอง คิดว่าถ้ายุบสภาแล้วตัวเองก็จะทุ่มเงินลงมา เพื่อซื้อเสียงกับคนไทยที่รู้เท่าไม่ทัน จากคำสัญญาและนโยบายภาพลวงตาในอดีต ก็มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง ทักษิณ มันก็คิดอยู่แค่นี้

00 ความต้องการของฝ่าย ทักษิณ ที่ต้องการรวบรัดยุบสภา เพราะตัวเองก็มีข้อจำกัด และมีเพียงวิธีการดังกล่าวเท่านั้นที่จะทำให้ตัวเอง “ได้” ตามที่ต้องการ ก็ต้องสั่งให้ลูกน้องลุยต่อ ขณะที่ลูกน้อง โดยเฉพาะ 3 เกลอ แม้ว่าด้านหนึ่งต้องทำตามคำสั่ง แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องพิจารณาสถานการณ์ตามความเป็นจริงว่า จะเดินต่อได้แค่ไหน เพราะการชุมนุมผ่านมาเกือบสามสัปดาห์ คนก็ร่อยหรอไม่คึกคักเหมือนก่อน มันก็ต้องหาทางลงไว้บ้าง แต่ก็ต้องไม่ให้ “เสียฟอร์ม” ไม่ให้พวกเดียวกันเสียความรู้สึก ก็ต้องทำเป็น “ฮึดฮัด” บ้าง

00 ดังนั้น การเจรจาที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายมันไม่มีทางหาข้อยุติได้เลย คนที่อ่านเกมขาดก็รู้ล่วงหน้ามาตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เป็นการฉวยโอกาสสร้างภาพแข่งกันใช้วาทะโวหาร ขับเคี่ยวกัน ซึ่งผลก็ออกมาว่า ฝ่ายรัฐบาล ที่นำโดย นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นกินขาด ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งยังเป็นการเปิดทางถอยให้ฝ่าย “วีระ มุสิกพงศ์” เพราะการก่อม็อบของเสื้อแดงนับจากนี้ไป มันจะเพิ่มแรงกดดันทั้งจากผู้ชุมนุมเอง และจากสังคมภายนอกมีแต่ฝ่อลงทุกวัน

00 อีกด้านหนึ่ง การยุบสภานั้นยิ่งห่างไกล เพราะเวลานี้กระแสเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นว่า ทำไมต้องฟังแต่คนเสื้อแดงกับ ทักษิณ หรือบรรดา“นักวิชาการลิ่วล้อ” ที่นำโดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ เท่านั้น เพราะในสังคมยังมีอีกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เตรียมออกโรงคัดค้านการยุบสภา เพราะเห็นว่าไม่ใช่ทางออก รวมไปถึงบรรดานักธุรกิจย่านสีลม และคนทั่วไปที่อยากใช้ชีวิตปกติสุข ฯลฯ เมื่อเป็นแบบนี้มันจึงเป็นไปไม่ได้ และ เชื่อว่านายกฯ จะฉวยโอกาสอ้างเงื่อนไขหลากหลายดังกล่าวไม่ยุบสภาตามข้อเรียกร้องเฉพาะกลุ่ม

00 แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ สัญญาณอันตรายที่เริ่มมีเสียงระเบิดถล่มเข้ามาอย่างถี่ยิบ เน้นเป้าหมายประเภทหวังผลทั้งสิ้น ทั้งสถานที่ราชการสำคัญ ธนาคารกรุงเทพ สื่อของรัฐทั้งช่อง 5 ช่องเอ็นบีที ล่าสุดถล่มบ้าน “เสี่ยเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ หากให้คาดเดาพื้นๆ เฉพาะเหตุการณ์หลังสุดก็เพื่อต้องการข่มขู่ ส่วนจะขู่ให้ “ถอนตัว” หรือให้สนับสนุน “ยุบสภา” หรือเปล่านั้น มันก็น่าคิด

00 ได้ฟังจากปากของ บรรหาร ก็ยอมรับเองว่า “เสี่ยแม้ว” โทรมาอ้อนวอน ขอให้ถอนตัวจากรัฐบาล แต่ไม่เล่นด้วย อ้างว่าไม่อยากหักหลังเพื่อน ฟังดูสวยหรู แต่แท้ที่จริงแล้วไม่อยากละทิ้งผลประโยชน์ไปเสี่ยงเอาดาบหน้า จึงบอกปัดไปต่างหาก ดังนั้นจึงน่าเป็นห่วงสัญญาณอันตราย ที่กำลังเกิดขึ้นจากการถล่มรายวันด้วยระเบิด เพราะเป้าหมายยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่หากยังไม่ได้ผล ต่อไปก็ให้ระวังว่าอาจลงบนเวทีเสื้อแดงก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นมันน่าเสียวไส้ เพราะ ทักษิณ มันกำลังหน้ามืด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น