“ชุมพล” ย้ำต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อนยุบสภา ติง “นช.แม้ว” ใจร้อนสั่งไพร่แดงขีดเส้น 2 สัปดาห์เร็วไป บอก 3 เดือนก็ยังไม่พอ เพราะต้องใช้เวลาในการทำประชามติ แก้ปัญหาประชาชน และต้องวางแนวทางดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ก่อนยุบสภา ระบุปลายปี 53 เหมาะสุด
วันนี้(29 มี.ค.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเหตการณ์ระเบิดบริเวณด้านข้างบ้านพักนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นระหว่างเวลา 22.00-22.30 น.บริเวณริมรั้วบ้าน และเคยเกิดเหตุการณ์ระเบิดเช่นนี้มาแล้ว สังเกตได้ว่าเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้ที่บ้านจรัญสนิทวงศ์ทุกครั้ง ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุการณ์นายบรรหารก็อยู่ที่บ้านพัก และได้ออกมาถามไถ่ ตรงนี้นายบรรหารก็บอกให้เป็นเรื่องของตำรวจ
ส่วนที่นายบรรหารระบุว่าหากจะยุบสภาต้องถามพรรคร่วมรัฐบาลก่อนนั้น นายชุมพลกล่าวว่า คงไม่เกี่ยว เพราะนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่จะตัดสินใจต้องหารืออยู่แล้ว ซึ่งก่อนการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวานนี้ก็ได้รับการติดต่อจากฝ่ายรัฐบาลเมื่อเวลา 14.00 น.ว่าขอให้เตรียมตัวไว้หากจำเป็นต้องพูดคุยจะได้รีบเดินทางกลับมา สุดท้ายก็ประสานมาว่า ในชั้นนี้ต้องการถามความเห็นก่อนว่า ถ้าจะเจรจากับกลุ่มเสื้อแดงในชั้นนี้เห็นด้วยไหม ตนก็ตอบไปว่าไม่มีปัญหาอะไร อย่างน้อยก็ทำให้รู้ความต้องการของกันและกันก่อน ไม่ได้ขัดข้องอะไร ส่วนสาระในการเจรจาก็เป็นเรื่องที่เจรจากันก่อนว่าความต้องการของฝ่ายคนเสื้อแดงเป็นอย่างไร เสร็จแล้วตัดสินใจว่าอย่างไรค่อยหารือร่วมกันอีกที เรื่องของการยุบสภาเองก็มีการพูดคุยกันมาหลายรอบแล้วว่าทิศทางควรจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีประสานงานมาเองหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า คนที่ประสานงานมาทุกครั้งจะเป็นนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่าตัวแทนจากรัฐบาลน่าจะมีตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่าหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ภาพออกมา 2 ภาพ ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ในฐานะผู้นำหัวหน้าพรรค แต่เป็นผู้นำรัฐบาล นำนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช กับนายกอร์ปศักดิ์มา ตนก็มองว่าภาพดูดี แต่หากเป็นภาพหัวหน้าพรรคร่วมเจรจาด้วย ภาพก็จะแตกต่างกันเลย ยืนยันกับ นปช.ว่าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยนะ ภาพจะออกมาในความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ภาพเหล่านั้นหารือภายหลังได้ ภาพอย่างนี้สวยดีแล้ว
สำหรับความรู้สึกต่อการเจรจานาน 3 ชั่วโมงเมื่อวานนี้นั้น นายชุมพลกว่าวว่า เป็นภาพที่สวยงามในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีประเทศในโลกไหนเขาทำกันอย่างนี้ สมัย รสช.ก็มีแต่ภาพของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เท่านั้น มันไม่ได้สวยงามเหมือนกับภาพเมื่อวันที่ผ่านมา แต่ตรงนี้เป็นภาพที่เกิดความสงบด้วยตัวเอง ถึงแม้ผลการเจรจาออกมายังไงก็ตามที ตนอยากให้มิตินี้เป็นตัวอย่าง คุยกันให้เรียบร้อย ลงตัวไม่ลงตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นมิติการได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาของนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่นายชำนิ นายกอร์ปศักดิ์ คิดว่ามีอะไรที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่รู้ หรือพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจบ้างไหม นายชุมพลกล่าวว่า สิ่งที่พูดทั้งหมดเป็นเรื่องที่พูดกันมาทั้งหมดแล้ว จุดยืนคือ ถ้ายุบสภาไม่ได้ขัดข้องอะไร และก่อนที่จะยุบสภาควรทำอะไรกันก่อน
“ที่ไม่ชัดเจนคือ ก่อนยุบสภาต้องทำอะไรกันก่อน ที่คุยกันมากคือเรื่องของรัฐธรรมนูญ ควรจะมีการแก้ไขตามมาตราที่พูดๆ กัน นปช.เสนอเอาทั้งฉบับ 40 ประเด็นนี้ตกไป ประเด็นที่ 2 คณะกรรมการฯ สมานฉันท์เสนอมา 6 ประเด็นซึ่งประเด็นนี้ก็ตกไป ประเด็นที่ 3 ส.ส.102 คนลงชื่อแก้ 2 ประเด็นก็ตกไป ประเด็นที่ 4 คือยุบสภาก็ปิดไปอีก แต่ไม่ได้ปิดประตูตาย ประตูที่ 4 ยอมรับ แต่ก่อนถึงประตูที่ 4 เราควรทำอะไรกันก่อนเพื่อเกิดขึ้นประโยชน์ขึ้นมา ไม่ให้เกิดปัญหาอีกหลังเลือกตั้งเท่านั้นเอง ส่วนประตูที่ 5 ที่ 6 ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร” นายชุมพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนอะไรกับการเจรจาหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า สิ่งที่จะพูดวันนี้เข้าใจว่าจุดยืนชัดเจนกันหมดแล้ว ฝ่ายนายกรัฐมนตรีบอกว่า การยุบสภาต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน ฝ่าย นปช.ให้ยุบก่อนแล้วค่อยไปแก้ไขหลังเลือกตั้ง มันสวนกัน
“มันหาความเป็นกลางยังไม่ได้ ความคืบหน้ากับสาระมันน้อยไปหน่อย หากเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เป็นตัวตั้ง นปช.รับ ฝ่ายรัฐบาลรับ กำหนดวิธีการขั้นตอนว่าจะเป็นยังไง ถ้าตกลงกันได้ ก็กำหนดทำประชามติกี่วัน และหลังเลือกตั้งแล้วจะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีเงื่อนไขเวลา ออกเป็นรูปธรรมชัดเจน ทำประชามติต้องเขียนรายละเอียดด้วย” นายชุมพลกล่าว
ส่วนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าให้เวลา 2 สัปดาห์ในการที่รัฐบาจะตัดสินใจยุบสภา นายชุมพลกล่าวว่า ก็ยังมองหาทางออกไม่เจอ เพราะ 2 สัปดาห์เดี๋ยวก็ถึงแล้ว คงต้องให้เวลาอีกสักหน่อยว่า ก่อนยุบสภาต้องทำอะไรกันก่อน ถ้ารักกันนะ เวลาไม่น่าได้ เสร็จแล้วมากำหนดว่าจะยุบสภาเมื่อไร ถ้าตกลงกันได้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือจะให้รัฐบาลแก้ไขปัญหามาบตาพุดก่อน ความเดือดร้อนประชาชนก่อน อย่างที่นักวิชาการกำหนด ถ้าให้เวลารัฐบาล 3 เดือนแก้ไขปัญหา การลงทุนดีขึ้น ตนก็ต้องแก้ปัญหาการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าตนจังหวะไม่ดีมารับตำแหน่ง รมว.ท่องเที่ยวฯ ต้องไปแก้ตัวเลขแทบตาย ให้เวลาอีกระยะหนึ่ง และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่สำคัญตามคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ซึ่งเป็นผลงานร่วมกันทุกฝ่าย และไปกำหนดวันที่จะยุบสภา เชื่อว่า 15 วันทำไม่ได้แน่นอน อย่างทำประชามติก็ 2-3 เดือน และแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาก็ 2 เดือน ปลายปีน่าจะได้ 3 เดือนคงไม่พอ
“จุดยืนพรรคชาติไทยพัฒนายืนมานานแล้วว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางมาตรา ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตย บางมาตราที่บางพรรคการเมืองไม่สามารถเดินต่อไปได้ เช่น พอไปเลือกพรรค อีก 2 วันยุบพรรคแล้ว ด้วยวิธีง่ายๆ กติกาต้องแก้ก่อน เพราะพันธมิตรฯ เองยังเคยพูดว่า กรกฎาคม ปี 51 ประกาศเลย รับรัฐธรรมนูญ 50 ไปก่อนแล้วมาแก้ทีหลัง จุดยืนของชาติไทยพัฒนาต้องการให้แก้กติกาก่อน ปลายปียุบสภาก็ได้ ถ้าไปเริ่มต้นปลายปี ก็เริ่มต้นปีหน้าได้ และเวลานี้เชื่อว่า คนอยากจะออกเหตุการณ์อันนี้เต็มทีแล้ว สังคมอะไรก็แล้วแต่ อาจจะนึกถึงยุบสภา แต่ขั้นตอนจริงๆ ถ้ายุบสภามีปัญหาเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ควรให้ทุกอย่างเรียบร้อยทั้ง 2 ฝ่ายก่อนยุบสภา หากคิดว่ายื้อก็ต่อรองกันได้ อยากจะให้ทุกอย่างมันจบเร็ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใจร้อนไปหน่อย” นายชุมพลกล่าว
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ประสานพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนานั้น นายชุมพลกล่าวว่า ได้มีการประสานมา 1-2 ครั้งแล้ว ตอนนี้ยังไม่ลงตัวเรื่องเวลา ส่วนคำตอบจะเป็นอย่างไรนั้น คงบอกได้ว่า เอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักก่อน แม้พรรคร่วมรัฐบาลถอนออกหมดพรรคประชาธิปัตย์เองก็สามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ เพราะถ้าถอนตัวไปร่วมเพื่อไทยเกิน 7 เสียก็อยู่ลำบากเหมือนกัน