“เทพไท” เอะใจ “นช.แม้ว” วิดีโอลิงก์ที่ไหน ชี้ส่อผิดปกติ เหมือนถูกจำกัดพื้นที่ จวกพูดใส่ร้ายให้ประชาชนเกลียดรัฐบาล ยันไม่มีอำมาตย์ค้ำ เย้ยพวกต่อต้านชนกลุ่มน้อย ถามจงรักภักดีสถาบันจริงหรือไม่ แนะชาวบ้านดูพฤติกรรม “เพื่อไทย” ซักฟอกข้างถนน ขู่ไร้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ระวังโดนฟ้องกลับ แขวะเนื้อหาไร้น้ำหนัก เหมือนสภาโจ๊ก “บุรณัชย์” แนะสังคมพิจารณาสมควรรับเงินเดือนจากภาษีประชาชนหรือไม่
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บนเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง หลังจากที่หายไป 3 วัน ว่า ภาพที่ออกมาเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) นั้น ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแอบวิดีโอลิงค์ที่ไหน เพราะดูจากฉากหลังมีความผิดปกติกว่าทุกครั้ง ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าอาจถูกจำกัดพื้นที่ หรือมีข้อจำกัดอะไรบางอย่าง จึงทำให้มีปัญหาในการวิดีโอลิงก์มาที่เวทีกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พาดพิงว่า รัฐบาลหน้าหนา ใจดำ มีอำมาตย์ค้ำอยู่ ตนยืนยันว่า เป็นการใส่ร้ายเพื่อให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลชุดนี้ ขอยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่มีอำมาตย์ หรือทหารมาคอยค้ำ แต่คนที่ค้ำรัฐบาล คือ ประชาชน ดังนั้น ต้องไปถามประชาชนว่าต้องการรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ เพราะคนที่ออกมาต่อต้านเรียกร้องให้ยุบสภานั้นเป็นเพียงคนกลุ่มน้อย และที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวหาว่า ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอยู่เพื่อคุ้มครองสถาบัน พร้อมกับแก้ตัวว่าเสื้อแดงไม่เคยคิดล้มล้างสถาบัน แต่ถ้าดูจากพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และลิ่วล้อ ไม่ว่าจะเป็น นายจักรภพ เพ็ญแข กลุ่มแดงสยาม นายใจลล์ อึ๊งภากรณ์ ล้วนแล้วแต่มีพฤติกรรมที่จาบจ้วงสถาบันทั้งสิ้น หรือแม้แต่ นายสุรชัย แซ่ด่าน ที่ออกมากล่าวเตือน 3 เกลอเกี่ยวกับการจัดพิธีถวายพระพร ว่า หากต้องการจัดพิธีอย่างนั้นก็ขอให้ตัดสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเด็ดขาด ก็สื่อให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความจงรักภักดีต่อสถาบันหรือไม่
นอกจากนี้ นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา โดยใช้เวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า อยากให้ประชาชนและสังคมพิจารณาดูว่าพฤติกรรมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นอย่างไร และขอเตือน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า การอภิปรายนอกสภาเช่นนี้ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้น ถ้ามีการพาดพิงถึงรัฐบาล หรือบุคคลที่สามก็อาจจะถูกดำเนินคดีได้ และการอภิปรายนอกสภาอย่างนี้ เหมือนเป็นการชกข้างเดียว โดยที่รัฐบาลและผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถชี้แจงได้ ดังนั้น วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามการอภิปรายครั้งนี้ว่ามีเนื้อหาอย่างไร และมีประเด็นใดบ้างที่บิดเบือนข้อเท็จจริง หากพบก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อดูประเด็นการอภิปราย 8 ประเด็นของพรรคเพื่อไทย พบว่า บทบาทส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งไม่ต่างอะไรจากสภาโจ๊ก ส่วนคนอื่นๆ ที่จะอภิปรายก็ไม่ใช่เพชฌฆาตทางการเมือง ถ้าจะจำลองให้เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงๆ ควรจะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแม่ทัพตัวจริงมาร่วมด้วย หรือเพราะเห็นว่าเนื้อหาที่จะนำมาอภิปรายครั้งนี้ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอในการอภิปรายในสภา จึงต้องมาใช้เวทีข้างถนนอย่างนี้ ถ้าเปรียบเป็นนักมวยก็ยังชกชิงแชมป์ไม่ได้ ชกได้แค่มวยวัดเท่านั้น
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การอภิปรายนอกสภาครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายค้านหนีการอภิปรายในสภา ซึ่งถือเป็นการขัดขวางการทำงานของสภา ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้สังคมร่วมพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเหล่านี้จะได้รับเงินเดือนที่เป็นภาษีของประชาชน