xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ไม่ถอนกำลัง เดินหน้าเปิดสภาพรุ่งนี้ งงข้ออ้างปฏิวัติเงียบ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯไม่เข้าใจปฏิวัติเงียบ ตามข้ออ้างพรรคเพื่อไทย ย้ำ จะนำบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ โดยการเปิดประชุมเพื่อผ่านร่าง กม.สำคัญพรุ่งนี้ ยันเหตุใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อให้ความปลอดภัยสมาชิกรัฐสภาในการเข้าประชุม และมีบทเรียนจากเหตุการณ์ 7 ต.ค.ทมิฬ เมิน ส.ส.ฝ่ายค้าน ยื่นถอดถอน เตือน “อภิวันท์” ต้องรับผิดชอบคำพูดพาดพิงสถาบันองคมนตรี ลั่นจะคุยเรื่องยุบสภาต้องอยู่ในกรอบการเมืองเท่านั้น



วันนี้ (24 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในวันพฤหสับดีที่ 25 มี.ค.ตนยังจะเดินทางมาประชุมรัฐสภาตามปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การปิดกั้นถนนยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าว่า ก็เป็นมาตรการที่ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จะหารือร่วมกัน เพื่อให้สมาชิกเข้าประชุมได้อย่างปลอดภัย วันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แล้วเราก็สามารถประชุมรัฐสภา กฎหมายที่ผ่านวันนี้ ก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาเกษตร องค์กรที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ สภานิติบัญญัติก็ต้องเดินต่อ และรัฐบาลก็ยืนยันสิ่งที่ทำก็ไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิ ของสมาชิกฝ่ายค้านเลย เพราะสมาชิกฝ่ายค้านก็สามารถเข้ามาประชุมได้ ทุกฝ่ายก็สามารถเข้ามาประชุมได้ ทำหน้าที่ของตัวเองได้โดยปลอดภัย

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย มีมติว่า หากไม่มีการถอนทหารออกไป ก็จะไม่เข้าร่วมประชุมสภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่เข้าใจ เพราะสิ่งที่ทำทั้งหมด ก็เพื่อให้งานนิติบัญญัติเดินได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำเช่นนี้จะไปลิดรอนสิทธิใคร ในทางตรงกันข้าม เราควรจะเก็บเกี่ยวบทเรียนในอดีต ซึ่งเวลาที่มีการปิดล้อมสภา มีการเผชิญหน้าแล้วความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นกับประชาชนผู้ชุมนุม ไม่ได้เกิดขึ้นกับสมาชิก ที่ทำอย่างนี้ทั้งให้ความมั่นใจความปลอดภัยกับสมาชิก ทั้งเป็นการคุ้มครองไม่ให้ประชาชน ซึ่งมาชุมนุมไม่ให้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์เผชิญหน้า และความรุนแรง เพราะฉะนั้นที่ทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง งานนิติบัญญัติ เพื่อประโยชน์ความมั่นใจของสมาชิก ซึ่งในอดีตเคยมีสมาชิกออกไปแล้วถูกผู้ชุมนุมขว้างปาอะไรต่างๆ และทั้งประโยชน์ของผู้ชุมนุมเอง เวลาเกิดสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานขึ้น เกิดการเผชิญหน้า เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา เกิดความสูญเสียก็ไปตกอยู่กับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทย ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นการปฏิวัติเงียบขึ้นในประเทศนี้ นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามกลับว่า ตรงไหนละครับ ใครไปยึดอำนาจใคร ทุกคนก็ไปใช้สภาทำหน้าที่กันได้ตามปกติ เพราะฉะนั้นมันเป็นเหตุเป็นผล ตรงกันข้ามขณะนี้การที่ขัดขวางเพื่อนสมาชิกด้วยกันไม่ให้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนั้นต่างหากที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยจะยื่นถอดถอนนายกฯ ด้วยว่า เข้ามาแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ นายกฯ ปฎิเสธว่า ตนไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลยครับ การออกมาตรการได้ปรึกษากันด้วย ท่านประธานรัฐสภาก็ได้คุยกับรองนายกฯสุเทพ ก็ทำตามที่มีความจำเป็น เพื่อให้การประชุมสภาสามารถเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อถามว่า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการประชุมสภาครั้งนี้ กระทบต่อประชาชนที่สัญจรไปมาด้วย นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นช่วงที่มีการประกาศใช้พื้นที่ความมั่นคง ก็เห็นใจ จะพยายามทำให้น้อยที่สุด ในขณะเดียวกัน ถ้าชัดเจนว่า ผู้ชุมนุมไม่มีเจตนาที่จะมาปิดล้อมสภา มาตรการเหล่านี้ก็คงไม่จำเป็น เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าถ้าต้องมีการประชุมสภาอีก ยังจะต้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยลักษณะอย่างนี้ไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงต้องดูสถานการณ์การชุมนุม ถ้าผู้ชุมนุมยังประกาศว่าจะไปปิดล้อม มีการที่จะไปไล่ตามคนทำหน้าที่ เราก็จำเป็นที่ต้องใช้มาตรการที่ทำให้ทุกคนปลอดภัย และการบริหารงานสามารถเดินต่อไปได้

“ผมได้เรียนแล้วว่า สัปดาห์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการนำสังคมกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ครม.ประชุมได้ สภาประชุมได้ ผู้ชุมนุมก็ชุมนุมต่อไปได้ ในกรอบของกฎหมาย สมาชิกฝ่ายค้านก็สามารถมาทำหน้าที่ได้ แต่ว่าเขาตัดสินใจไม่มาทำหน้าที่เองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกฯหวังว่า อีกไม่นานจะจบ ยังหวังอยู่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็พยายามทำไปตามลำดับ พยายามให้ทุกคนทำหน้าที่กัน ให้ได้เป็นปกติให้ได้มากที่สุด เมื่อถามว่า แต่ตอนนี้ตัวปัญหาไม่ได้อยู่ที่แค่ผู้ชุมนุม มีการยิงเอ็ม 79 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง หมายจับคนที่ยิงอาร์พีจีไปที่กระทรวงกลาโหม ขณะนี้ก็ออกหมายจับแล้ว เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายทำกันอย่างแข็งขัน ในการที่จะบังคับใช้กฎหมาย

เมื่อถามว่า แม้ทางกฎหมายการประชุมสภาจะผ่านครบองค์ประชุม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่มีฝ่ายค้านน้อยมันก็เป็นภาพที่ไม่ค่อยดี นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นการตัดสินใจของฝ่ายค้านเองที่ไม่เข้าประชุม และมีความพยายามมาขัดขวางสมาชิกฝ่ายรัฐบาลไม่ให้เข้าประชุม แต่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลเขาก็มาทำหน้าที่ และก็มีสมาชิกฝ่ายค้านมาประชุม พรรคเพื่อไทยก็มี พรรคประชาราชก็มี พรรคมาตุภูมิก็มี เมื่อถามว่า จะประสานความร่วมมือให้ดีกว่านี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตัวแทนวิปเขาก็คุยกัน และเห็นว่า งานสภาต้องเดินต่อ สัปดาห์ที่แล้วที่มันไม่สามารถเดินได้ ก็เป็นเพราะว่า เรากลัวว่าจะสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง สัปดาห์นี้เราก็ต้องใช้มาตรการทางฝ่ายบริหารเพื่อให้งานนิติบัญญัติเดินได้ พองานนิติบัญญัติเดินได้ ฝ่ายค้านตัดสินใจไม่ร่วม มันก็เป็นสิทธิของฝ่ายค้านในการแสดงออก

ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย กับกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเนื้อเดียวกันหรือเปล่า นายกฯ กล่าวว่า อันนี้ก็ชัดอยู่แล้วนี้ครับ ตอนนี้ก็ขึ้นเวที 70-80 คนแล้วนี้ครับ เมื่อถามว่า การทำหน้าที่ของ พันเอก อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาที่ไปขึ้นเวทีเสื้อแดงด้วย นายกฯมองว่าอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนขอไม่วิจารณ์ แต่เป็นห่วงสาระที่ท่านพูดมากกว่า เพราะว่าก็เป็นตัวบ่งบอกอีกครั้งหนึ่ง ว่า สิ่งที่ยื่นมาว่าเป็นเงื่อนไขในการเจรจา การยุบสภา ก็ไม่ชัดเจน

“เพราะว่าตัวท่านเองขึ้นไปพูดถึงขั้นว่า ไม่ได้มีอำนาจอีก ต้องไปถึงท่านประธานองคมนตรี อันนี้แหละครับที่ผมถึงได้ยืนยัน ถ้าเรื่องของการเจรจาของฝ่ายการเมืองด้วยกัน เป็นเรื่องการยุบสภา ไม่มีวาระที่เกินเลยไปก็คงจะพูดกันง่าย ไม่น่าจะขัดข้อง แต่ก็มีตัวบ่งบอกอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ใช่อย่างนั้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า เนื้อหาในการกล่าวถึงประธานองคมนตรีหมิ่นเหม่นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็หลายคนคงได้ฟัง เมื่อถามว่า ถ้ายุบสภาไม่ทำให้ปัญหาจบ แล้วอะไรจะทำให้ปัญหาจบได้ นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เราบอกว่าจบ แล้วเราไปยึดเอาความต้องการของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดคงไม่ได้ มีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้เห็นด้วย สิ่งที่ผู้ชุมนุมต้องการ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือคำนึงถึงความเหมาะสม ที่เป็นทางออกของบ้านเมืองอย่างแท้จริง

“แต่สำหรับผมถ้าทางออกของบ้านเมือง มันเลยเถิดข้ามเส้นในเรื่องของความถูกต้อง ไปกระทบกระเทือนกับสถาบันหลัก ไปกระทบกระเทือนระบบกฎหมายของประเทศ ผมก็คงไปโอนอ่อนอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็จะพูดในกรอบทางออกทางการเมืองที่เหมาะสม และต้องไม่เกินเลย” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า แล้วทางออกที่เหมาะสมในสายตาของนายกฯ คืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ตนอยากจะบอกผู้ที่ชุมนุม หรือแกนนำ เพราะเป็นข้อเรียกร้องของเขา มันไม่ใช่ข้อเรียกร้องของฝ่ายรัฐบาล เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯไปหารือร่วมกับประธานองคมนตรีเพื่อร่วมกันหาทางออก นายกฯ มองอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนถึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ตั้งแต่ต้น ตนดูว่า มันมีสิ่งบ่งบอกว่ามันไม่จบหรอกครับ จากจุดหนึ่งก็ไปอีกจุดหนึ่ง จะเจรจาให้รัฐมนตรีไปเป็นตัวแทน เพื่อพูดคุยว่าจะคุยกันยังไงก็ไม่ยอม บอกว่า ต้องนายกฯคนเดียว ตอนนี้ก็จะลามไปถึงประธานองคมนตรี แล้วจะไปไหนต่อละครับ อันนี้คือสิ่งที่ตนบอกว่า ถ้าจะพูดคุยกันมันต้องขีดเส้นกันให้ชัดว่าเราคุยกันเรื่องอะไร แล้วก็มาตกลงกันในการคุย ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงมีความพยายามถึงจะพาดพิงถึงประธานองคมนตรีตลอดเวลา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามผู้ชุมนุมเขาเป็นฝ่ายที่ทำอย่างนั้น อย่าให้ตนไปพูดเลยครับเดี๋ยวมันจะเป็นเงื่อนไขของความแตกแยกเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการเดินทางออกจาก กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันนี้นั้น เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 08.20 น.นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจาก ร.11รอ.เดินทางมายังรัฐภา เพื่อร่วมประชุมรัฐสภา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา โดยขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ตัดเข้าถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต และใช้เส้นทางดอนเมืองโทลล์เวย์ มุ่งหน้ามายังดินแดง ก่อนที่จะใช้ทางด่วนขั้นที่ 2 มาลงยังด่านพระราม 6 จากนั้นใช้ถนนพระราม 6 ตัดเข้าถนนราชวิถี ที่แยกตึกชัย ข้ามทางรถไฟเลี้ยวขวาที่แยกสวรรคโลก จากนั้นใช้เส้นทางถนนสุโขทัย ต่อมาเลี้ยวซ้ายที่แยกสวนรื่นฤดี เลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าถนนราชวิถี โดยขบวนรถของนายกฯเข้าสู่รัฐสภาทางประตูเทวาฤทธิ์ ในเวลา08.50 น.ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจตามถนน และแยกต่างๆ อย่างเข้มงวดตามประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร วันที่ 23-30 มี.ค.

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเดินทางกลับของนายอภสิทธิ์ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่รัฐสภาแล้ว นายอภสิทธิ์ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อคารวะศพ นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี แล้วก็ได้เดินทางกลับกรมทหาราบที่ 11 ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น