ไพร่แดงเหิม อ้างทหาร-ตำรวจที่เป็นสาวกวิเคราะห์แล้วเชื่อวิถีระเบิดอาร์พีจีหวังยิงพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว ไม่ใช่กลาโหม บอกคนอยู่เบื้องหลังต้องการเล่นเกมใหญ่เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ปูด “ส.ต.ท.บัณฑิต” ที่ถูกออกหมายจับเดินตามหลังนักการเมืองใหญ่ค่ายเสื้อน้ำเงิน ชี้ทหารล้อมสภาฯ ย้อนรอย “ถนอม” ปฏิวัติตัวเอง เหน็บ “พล.อ.ประยุทธ์” ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ยันไม่นำไพร่แดงบุกสภา รอเคลื่อนไหว 27 มี.ค. โวเชิญกินเนสส์บุ๊กส์มาบันทึกสถิติ เย้ยวอร์รูมพรรคร่วมฯ แหล่งรวมพ่อมดหมอผีและนักเลงโต
วันนี้ (24 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง แถลงถึงท่าทีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดงว่า ดูเหมือนว่ารัฐบาลพยายามจะซื้อเวลาการเจรจา ทั้งที่กลุ่มเสื้อแดงยืนยันมาตลอดว่าพร้อมจะเจรจาโดยจะมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ และตนเป็นตัวแทนแต่รัฐบาลยังพยายามสรรหาตัวกลางมาเจรจาซึ่งเราไม่ต้องการ เพราะต้องการคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ถ้าเจรจากันได้ทุกอย่างก็จะเดินหน้าได้ และกรอบการเจรจาของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีอะไรมากกว่าการให้ยุบสภา ส่วนนายอภิสิทธิ์จะอย่างไรก็ไปสรุปกันบนโต๊ะเจรจาเพราะวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด
“ผมย้ำว่าถ้ารัฐบาลจริงใจ วันนี้พวกเราก็พร้อมเจรจาทันที แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่พร้อมก็อย่าพยายามซื้อเวลา” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สถานการณ์บริเวณรอบรัฐสภาและจุดสำคัญที่มีประชาชนสัญจรไปมาปรากฏว่ามีการวางกำลังทหารไม่ทราบสังกัด เพราะมีการปิดบังหมายเลขทะเบียนและอักษรย่อของหน่วยต้นสังกัด ดูเสมือนว่าเป็นการเอาออกมาใช้ในราชการสงคราม ทั้งที่ความจริงแค่ออกมาเผชิญหน้ากับประชาชนที่ต่อสู้ด้วยมือเปล่า เรื่องนี้ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนมากรวมทั้งตนไม่เคยเห็นว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทำไมต้องมีการใช้ยุทโธปกรณ์ทางการทหารมากมายขนาดนี้
ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.ออกแถลงการณ์คณะปฏิวัติฉบับที่ 1 เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนและอธิบายถึงการเคลื่อนกำลังพลของทหาร รวมทั้งอธิบายว่าประเทศไทยต้องเดินหน้าอย่างไรภายใต้อำนาจของกองทัพ เพราะเวลานี้เห็นชัดว่าแม้แต่นายอภิสิทธิ์ก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพ
“ทราบมาว่ารัฐบาลมีการตั้งวอร์รูมพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเตรียมรับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดง เห็นว่าเป็นสิทธิที่จะกระทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายด้วย แต่ทั้งนี้เห็นว่าวอร์รูมดังกล่าวไม่ใช่ของพรรคร่วมรัฐบาลแต่เป็นวอร์รูมของพ่อมดหมอผี ทั้งพ่อมดบุรีรัมย์ นักเลงเมืองสุราษฎร์ รวมทั้งแก๊งที่เคยใช้วิธีการใส่ร้ายคนเสื้อแดงที่ผ่านมาเมื่อเดือน เม.ย.2552 จึงอยากให้สังคมจับตาว่าหลังจากการตั้งวอร์รูมจะมีการมาตราการทั้งบนดินและใต้ดินออกมาอย่างไร”
สำหรับการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มี.ค. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เชื่อว่าจะมีผู้คนมาร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 3-5 เท่า และจะประสานงานไปยังกินเนสบุคส์เพื่อมาบันทึกสถิติว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีประชาชนออกมาขับไล่มากที่สุด และถ้านายอภิสิทธิ์ยังคิดว่าจะใช้กำลังทหารปกป้องเก้าอี้จะได้เห็นดีกันในวันที่ 27 มี.ค.
ส่วนเรื่องการตั้งด้านสกัดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงถ้าเราพบว่าหากมีการปิดเส้นทางขนส่งเสบียงและเส้นทางเข้าออกการชุมนุมเหมือนกับเหตุการณ์เดือน เม.ย.2552 ก็จะมีการเกณฑ์ประชาชนไปร่วมกันแหกด่านด้วยแนวทางสันติวิธีและหากเกิดอะไรขึ้นายอภิสิทธิ์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกหมายจับ ส.ต.ท.บัณฑิต สิทธิทุม ตำรวจนอกราชการในฐานะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหมว่า จากการตรวจสอบเส้นทางของ ส.ต.ท.บัณฑิต พบว่าถูกให้ออกจากราชการเพราะค้าไม้เถื่อนที่ จ.จันทบุรี ก็ไปซุกตัวอยู่กับนักการเมืองใหญ่เสื้อสีน้ำเงิน ดังนั้น เห็นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยากหาก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.จะดำเนินการ ทั้งนี้ ส่วนตัวได้มีการสอบนายทหารและตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีความรู้เพื่อให้วิเคราะห์รัศมีการยิงเชื่อว่าเป้าหมายที่แท้จริง คือ พระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว แต่บังเอิญวิบากกรรมที่ยิงไปโดนสายไฟก่อน
“เรื่องนี้ต้องการเล่นเกมใหญ่เพื่อใส่ร้ายคนเสื้อแดง โดยคิดว่าการยิงระเบิดดังกล่าวจะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลง คนที่เป็นตัวการของเรื่องนี้เป็นฝีมือของคนในรัฐบาลเท่านั้น พล.ต.ท.สัณฐานจะต้องหาตัวผู้ดำเนินการให้ได้ ต้องสาวไปให้ถึงแก๊งค์นักการเมืองใหญ่เสื้อน้ำเงิน” นายจตุพรกล่าว
ส่วนการนำกำลังทหารมาล้อมบริเวณโดยรอบรัฐสภา นายจตุพรกล่าวว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่บังอาจของนายอภิสิทธิ์ที่ปิดกั้นไม่ให้ ส.ส.นำรถเข้าไปภายในรัฐสภาแต่ต้องเดินเข้าไปแทย ถือว่าเป็นการลดเกียรติของ ส.ส. เรื่องที่เกิดขึ้นเสมือนว่าทหารมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว พรรคเพื่อไทยมีมติส่งส.ส.เข้าไปร่วมประชุมเพียงคนเดียว คือ นายประยุทธ์ ศิริพานิช ส.ส.มหาสารคาม เพื่อไม่ให้รัฐบาลฉวยโอกาสรวบกินฟรี และคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก หรือไอพียู ได้รับความเสียหายเพราะขนาดรัฐสภาไทยยังถูกทหารล้อมแล้วแบบนี้จะทำให้มีการประชุมได้อย่างไร
“การกระทำของนายอภิสิทธิ์เปรียบได้กับการปฎิวัติตนเองของจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งเป็นสาเหตุของการนำมาสู่เหตุการณ์ 14 ตุลา เชื่อว่าก่อนถึงวันที่ 27 มี.ค.จะมีการยั่วยุกลุ่มคนเสื้อแดงอีกหลายวิธี แต่ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด วันนี้จะไม่ไปรัฐสภาอย่างแน่นอน แต่หากรัฐบาลยังใช้วิธีการแบบสงกรานต์เลือดคนเสื้อแดงจะไม่ยอมให้ถูกปิดล้อมและแหกจุดสกัดทุกด่านไม่มีปัญหา” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ห้ามไม่ให้แกนนำเสื้อแดงเจรจากับรัฐบาล เห็นว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยืนตามแนวทางขอ งนปช. คือ เรียกร้องให้มีการยุบสภา นอกจากนี้ การที่รัฐบาลได้นำสุภาพสตรีมาให้กำลังใจแก่ทหารที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติสุภาพสตรีและเป็นการแสดงแสนยานุภาพที่น่าเวทนาของ พ.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองบค์
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการดำเนินการตั้งป้อมค่านสันติวิธีและมีการตั้งป้อมรักษาความปลอดภัยสามชั้น หากรัฐบาลมีการปิดล้อมคนเสื้อแดงจะใช้ยุทธศาสตร์ขนมชั้นถ้าเขาปิดล้อมเรา เราก็จะปิดล้อมกลับอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่ามีทหารติดเชื้อไข้หวัด 2009 เช่นเดียวกับการที่มีกรุงเทพมหานครกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงมีการติดเชื้อหวัดด้วยเพราะถ้าไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ก็ถือว่าเป็นการใส่ร้าย