เส้นทางฝ่าวิกฤติ : ทีมข่าวการเมือง
ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ศอ.รส. ประกาศปรับยุทธวิธีดูแลสถานการการณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยการไฟเขียวให้ทหารลาดตระเวนถืออาวุธประจำกายป้องกันตัวเองได้
หลังจากพบอาวุธปืนกล กระสุนอาวุธเอ็ม 79 อาวุธอาร์พีจี จำนวนไม่น้อย ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะ ที่ผู้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ข้างกระทรวงกลาโหมวันก่อน
หวั่นว่า เกิดการปะทะเจ้าหน้าที่จะไม่มีอาวุธต่อสู้ ป้องกันตัว แต่ต้องสวมใส่เครื่องแบบแสดงความเป็นทหาร ตำรวจให้ชัดเจน
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้ปรับแผนการเคลื่อนไหว หลังจากใช้แผนแดงกระจายเคลื่อนที่ปลุกระดมคนเมืองให้ออกมาร่วมชุมนุมเสร็จสิ้น ก็ประกาศหันมาปฏิบัติการ....ไล่ล่านายกรัฐมนตรี
นายกฯอภิสิทธิ์ไปที่ไหน เราจะไปตะโกน โห่ร้อง ขับไล่ กดดันให้ยุบสภาฯ เป้าหมายสกัดกั้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารประเทศของรัฐบาล
ก๊อปปี้แผนพันธมิตรฯทั้งนั้น...!!!
และอังคารที่ 23 มีนาคมนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากสัปดาห์ที่แล้วต้องงดประชุมและมากบดานอยู่ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา
รองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะดูแลงานด้านความมั่นคง เสนอใช้กระทรวงสาธารณสุขเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เหตุเพราะชัยภูมิกว้างขวาง มีเส้นทางเข้า-ออกหลายจุด แถมมีสนามรองรับเฮลิคอปเตอร์ยามฉุกเฉินอีกด้วย
หากย้อนมองเหตุผลที่รัฐบาลไม่เลือกใช้พื้นที่ทหารเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
นัยยะหนึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า วันนี้รัฐบาลจะหลบอยู่ใต้ท็อปบู๊ทต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ต้องตัดสินใจก้าวข้ามปัญหา เพื่อเดินหน้าบริหารประเทศ
อีกนัยหนึ่งชี้ให้เห็นว่า เกมรุกรัฐบาลเริ่มเปิดฉากแล้ว...!!!
การประชุม ครม.ครั้งนี้หากกลุ่มผู้ชุมนุมสกัดกั้นการทำหน้าที่ของรัฐบาล ด้วยการปิดล้อมสถานที่ราชการ
รัฐบาลก็พร้อมที่จะงัดกฎหมายขั้นเด็ดขาด เข้าจัดการกับแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมทันที และสามารถกระทำได้โดยชอบธรรม
เพราะการปิดกั้น ขัดขวางการปฏิบัติงานในหน้าที่ของรัฐบาลหรือปิดล้อมสถานที่ราชการ ถือเป็นการกระทำความผิดทางกฎหมายอย่างชัดเจน ที่สำคัญมันจะไม่ใช่การชุมนุมแบบสันติวิธีอย่างที่อารยประเทศเขาทำกัน
ขณะเดียวกันเพื่อความไม่ประมาท รัฐบาลโดยฝ่ายความมั่นคง ได้วางกำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน จำนวนนับพัน ดูแลสถานที่เข้มทั่วพื้นที่กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ค่ำคืนที่ผ่านมา
แม้แต่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ศูนย์บัญชาการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีและคนใกล้ชิดรัฐมนตรี เป็นที่น่าสังเกตุได้มีการซักซ้อมบินเฮลิคอปเตอร์เบลท์ 2 ลำ
เสียงดังพับๆๆโชว์สมรรถนะภาพกันทั้งวัน เช่นเดียวกับเครื่องบินแบล๊กฮ็อว์ค ที่มีการซักซ้อมติดๆดับๆวอร์มเครื่องเป็นระยะๆ
ตอกย้ำรัฐบาลเปิดเกมรุก...!!!
แกนนำผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงฮึ้มๆ ตั้งแต่ช่วงเช้า พ่นน้ำลายจะยกขบวนไพร่แดง
ไล่ล่านายกฯที่กระทรวงสาธารณสุข...!!!
ท้ายที่สุดตะวันไม่ทันตกดิน ขุนพลแดงประกาศถอย...ไม่ไปแล้ว กระทรวงสาธารณสุข
อ้างกลัวตกเป็นเกมรัฐบาล หาเหตุออก พรก.ฉุกเฉินฯ หันไปแดงกระจายแจกสติ๊กเกอร์รณรงค์ยุบสภาฯแทน
คงประเมินแล้ว ยกขบวนไพร่แดงบุกไป คงไม่ได้อะไร มีแต่ผลเสีย หน่ำซ้ำสังคมเมืองอาจมองแดงต้องการยั่วยุให้เกิดเหตุปะทะ หากเป็นเช่นนั้นงานใหญ่จะเสีย
สู้ออมแรงไว้เคลื่อนไหวป่วนเมืองอีกรอบในวันเสาร์ที่ 27 นี้น่าจะส่งผลดีกว่านี้
สรุปแล้ววันนี้ รัฐบาลยังคุมเกม คุมสภาพการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงไว้ได้ และเชื่อว่าในมือรัฐบาลยังมีไพ่อีกหลายใบที่พร้อมเปิดสู้ได้เสมอ