การประกาศของบรรดาแกนนำไพร่นปช. ทาสน้ำเงินของนักโทษทักษิณเรียกเสียงเฮซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอ่ยอ้างความสำเร็จของการเคลื่อนมวลชนคนเสื้อแดงไปบนท้องถนนเมืองกรุง เมื่อวันหยุด 20มีนาคม “เสาร์ห้า”ที่ผ่านมา
“คนเสื้อแดง ชนะแล้ว”????
พร้อมเสียงเฮลั่นของบรรดาทาสทักษิณ ที่แสดงอาการคึกคะนองถึงผลงานในแผน “ดาวฤกษ์เผาตัว” เดินตากแดดเปรี้ยงๆ แสดงอิทธิฤทธิ์ทำท้องถนนสำคัญใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทยประสบปัญหาการจราจรอัมพาต
การกระทำดังกล่าวน่าจะเรียกว่าเข้าขั้น“อุปทานหมู่” ลวง หลอก หลอนกันเอง!
หลังจากยกแรกของการเดินแผนสู้ในสงครามที่ไม่มีวันชนะของ “ทักษิณ” ประเมินแล้ว ส่อแววแพ้ตั้งแต่เดินออกจากมุม เมื่อมวลชนที่อัดฉีดแล้วกดปุ่มให้ระดมกันมาเป็นทาสสีแดงหลุดเป้าไปเยอะ ยิ่งชุมนุมนาน แกนนำเดินแผนกันสะเปะสะปะ
ที่มอตเตเนโกรหนาวก็จริง แต่เห็นทัพเสื้อแดงส่อแววพ่ายแพ้ในการต่อสู้แบบนี้ ทักษิณและ “แดงตัวแม่”คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร จึงสะบัดร้อนสะบัดหนาว กลับมาจับมือกันสู้ ต่อสายถึงเครือข่ายในเมืองไทย ที่แน่นอนปัจจัยสำคัญคือ “น้ำเลี้ยง”
สั่งระดมท่อจ่ายให้อัดฉีด “ม็อบพรีเพด” เร่งเติมเงินกันเต็มที่
อีกทางหนึ่ง เงินไปแล้ว แต่ทั้งนักโทษทักษิณ และ “อ้อ พจมาน”ต้องพากันต่อสายไปสำทับคำสั่ง ไล่ตั้งแต่พี่ๆน้องๆชินวัตร นอกจากโดนต่อว่าเรื่องพากันอพยพลูกเต้าเผ่นหนีออกนอกประเทศ ยามที่ทักษิณหาคนคุมเกมอยู่หน้างานในเมืองไทยไม่ได้
ยังมีเรื่องการไล่สาวถามหาสาเหตุถึง“น้ำเลี้ยง” ที่พร่องหายระหว่างทาง มีรายการ “อม”ทุกระดับ แม้แต่“ซาลาเปาแดง” แก้มป่อง หรือน้องชาย“พายัพ” ก็มีปัญหาเรื่องตกลงเจรจาค่าจ้างกับบรรดาส.ส.ไม่ลงตัว จนเป็นเรื่องเป็นราว พี่ชายต้องต่อสายทางไกลมาเคลียร์ให้
ส่วนไพร่พลแต่ละระดับสองผัวเมียต้องต่อสายเคลียร์ ทั้งขอความร่วมมือธรรมดา ไปจนถึงขั้น“ขู่” ออกคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะที่ว่าเวทีเสื้อแดงครั้งจะเป็นการวัดผลงาน ชี้ชะตาเส้นทางการเมืองของลูกไพร่นายทาส พรรคระบอบทักษิณ
และยังโฟนอิน“ขอแรง” โดยเฉพาะทัพหลัก พื้นที่เมืองกรุง ที่แป้กมาตั้งแต่โหมโรง จนต้องกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเก่า แม่ทัพหญิงที่เคยใช้บริการสม่ำเสมอ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ถึงเวลาเจ้าแม่กทม.ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบัญชี“คนโปรด”ก็ทำให้เห็นว่ายังมีศักยภาพที่ต้องเรียกใช้บริการ โดยกดปุ่มส.ส.กทม.ในกลุ่ม และบรรดาเครือข่ายส.ก.-ส.ข. เด็กเจ๊ทั้งหลาย ช่วยกันระดมคนมาเติมบนท้องถนน
รวมทั้ง“กองเชียร์”ตามจุดต่างๆที่ทัพเสื้อแดงเคลื่อนขบวนผ่าน ส่วนหนึ่งเป็นฝีมือเจ้าแม่กทม.สุดยอดมืออีเวนซ์ ออแกนไนซ์ไว้หลอนคนเสื้อแดงกันเองว่าคนกรุงตอบรับสนับสนุน
ที่น่าสนใจของแผนการระดมทัพอีกระลอกเพื่อกู้สถานการณ์ม็อบเสื้อแดงของทักษิณ-พจมาน ครั้งนี้ จับตาไปที่บรรดาตัวจริงเสียงจริงที่กลายเป็นซากศพ สมาชิกบ้านเลขที่111ไทยรักไทย และ109 ในส่วนของพรรคพลังประชาชน กลายเป็นซอมบี้ฟื้นชีพ ขึ้นเวทีเสื้อแดงเป็นแถว
นำหน้าโดย “ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ผิดไปแล้ว เมียให้อภัย ไม่ถือสาที่ตะลอนไปซื้อตู้เย็นแช่“ของกิน”นอกบ้าน เชื่อฟังโอวาท “ซาลาเปา”ขึ้นเวที หรือที่เข้มขึ้นมาทันที ทั้งพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรมว.ยุติธรรม
อดีตผู้พิพากษาที่กลายเป็นคนปากจัด จวกประธานกกต.ในเรื่องคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ ถึงขึ้นใช้คำพูดหยาบๆ “ชาติหมา” แต่เลี่ยงออกเสียงว่า ชา-ติ-หะ-มา
ธาตุแท้ของพงศ์เทพ ก็คล้าย “ชายจืด” สมชาย นอกจากอยู่แวดวงตราชั่งมาก่อน บุคลิกภายนอกดูอ่อนโยน แต่ภายในแข็งกร้าว ยัง ชา-ติ-ห-มา ที่ชอบ“ไก่วัด” เช่นกัน
นอกจากนี้ยังรวมถึง สุชาติ ธาดาธำรงเวช ที่ชาตินี้มีบุญเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ ก็ด้วยผลตอบแทนจากการชมเชลียร์บ้านจันทร์ส่องหล้า ติดยี่ห้อ“หญิงอ้อ” เข้าร่วมรัฐบาล วันนี้จึงแทนคุณ พูดบนเวทีเสื้อแดง เหมือนท่องสคริปต์นักโทษทักษิณเขียนให้
ส.ส.ถูกจิกระดมคน และขึ้นเวที บรรดาซากศพโลง111-109 ถูกปลุกวิญญาณขึ้นมาหลอน และจะตามมาด้วยเครือข่ายท็อปบูต บรรดาทหารเฒ่า และอีกหลายกลุ่ม ที่นายใหญ่นายหญิงไม่ยอมเปลืองข้าวสุกเลี้ยงโดยเปล่าประโยชน์ เข็นขึ้นเวทีกันอีกหลายกลุ่มแน่
แต่ที่ต้องจับตา ตัวพ่อโซ่ข้อเสื่อม “บิ๊กจิ๋ว”พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เดินแผนอยู่ในโรงพยาบาล อ้างผ่าตัดถุงใต้ตาที่ดูเหมือนจะมือบอด เห็นอะไรเป็นแต่ผลประโยชน์และอำนาจมาตลอด
มุกเก่าที่ใครก็อ่านออก แต่ก็ยังเล่นแนวนี้ไม่เลิก กลับมาโดดขึ้นเวทีหนนี้ “บิ๊กจิ๋ว”ทำหน้าที่ปลุกระดมให้สมค่าจ้างค่าตัว ทั้งเอ่ยชมแกนนำเสื้อแดงคนกันเอง และปลุกเร้าม็อบ ดีใจที่วันนี้มาถึง วันที่คนเสื้อแดงประสบชัยชนะ เป็น “78ปีที่รอคอย”
ไม่แน่ใจ เป็นการรอคอย เหมือนที่พล.อ.ชวลิต เคยเผยในหนังสือ “แนวทางประเทศไทย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี การต่อสู้เอาชนะภัยความมั่นคงของชาติ“ โดยไม่ทราบว่าอดีตนายรัฐมนตรีที่ยอมมาเป็น“ลูกจ้าง”ให้นักโทษ อยู่ในส่วนไหน ตามบทวิเคราะห์
สงครามเปิดโปงขบวนการ “ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า”
“บิ๊กจิ๋ว” ที่ทั้งพูดจาท่าทีความคิด จับทางยาก วันนี้จะเป็น อุยกาย ม้าเมืองทรอย ไส้ศึกแผงตัว หรือพระยาจักรี แต่เมื่อโผล่ขึ้นเวที คนที่เคยรู้ประวัติศาสตร์จองขงเบ้งแห่งกองทัพบกรายนี้ก็อดร้อนๆหนาวๆไม่ได้
ผวา“บิ๊กจิ๋ว”กันถ้วนหน้า!
ไม่ว่าฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่ “สามเกลอหัวขวด” นายหัววีระ มุสิกพงศ์ ลูกน้องเก่าก็รู้ดี ที่เห็นเอ่ยชมหวานๆ ซ่อนนัยอะไรไว้ “คางคกตู่”จตุพร พรหมพันธุ์ –ตลกหน้าม่านแดง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็น่าจะเริ่มรู้ตัว “เวลากอบโกย ใกล้จบลงแล้ว”
ข่าววงใน ทั้งทักษิณ และคนใกล้ชิด แม้แต่กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มอื่นก็รับรู้มานาน “นายใหญ่”ก็ไม่ได้ไว้วางใจ“สามเกลอ” ระแวงจะถูกหลอกสูบเงินกันไม่จบ สุดท้ายได้งานไม่คุ้มค่าจ้าง
ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวลือถึงการต่อเชื่อม ระหว่างสามเกลอ กับ “นายห้อย”เนวิน ชิดชอบ ที่เคยปลุกปั้นผลักดันสามเกลอจนติดตลาด ผ่านรายการความจริงวันนี้ สมัยเนวิน ยังทรงอิทธิพลทางช่อง11 และจัดการม็อบเสื้อแดงยุคแรก ตั้งสถานีพีทีวี โทรทัศน์แดงยุคต้น
รวมทั้งการพยายามส่งซิกให้บล็อก แกนนำสายที่ไม่ไว้วางใจจะเป็น ห้อย“ไข่ทิ้ง”ไว้ในกลุ่มนปช. ทั้งสายอีสานบางจังหวัด และแกนนำแท็กซี่บางราย
การปรากฏกายของกลุ่มซากศพ และ “บิ๊กจิ๋ว” บนเวที ทางหนี่งเหมือนเสริมทัพแกนนำเสื้อแดงแถวสอง แต่อีกทางหนึ่งก็คือการพยายามลดบทบาทสามเกลอลงไป แต่คงไม่ถึงขั้นเขี่ยทิ้ง เพราะอย่างไรเสียเลี้ยงดูไว้ก็ยังทำงานได้ เพียงแต่ต้องมี “ซีอีโอจิ๋ว”มาคอยกำกับอีกที
ที่น่าสนใจกว่า การเกิดเหตุบอบยิงระเบิดอาร์พีจี 2 ลูก ที่ถนนแพร่งภูธร และระเบิดที่ทำการป.ป.ช.ใหม่ ย่านสนามบินน้ำ รวมทั้งการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิดที่ใต้ทางขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า เมื่อกลางดึกคืนวันที่20มี.ค. ประเดิมการยกเครื่องกองทัพเสื้อแดง
“บึม”ต้อนรับ “บิ๊กจิ๋ว”และนักการเมืองระบอบทักษิณ
ไม่อาจฟันธงว่าเป็นฝีมือของฝ่ายไหนฝ่ายใดกระทำการ เพราะมือบอบม์มีอยู่ในทุกขั้วทุกกลุ่ม แต่เป็นสัญญาณอันตราย สัญญาณความรุนแรงที่จะเพิ่มดีกรีขึ้นนับจากวันนี้
ประเมินได้ทุกหน้า ทั้งอาจเป็นสัญญาณที่ถูกกดปุ่มเรียกตัว“ทีมเฉพาะกิจ”สั่งการออกปฏิบัติการไม่ให้เปลืองน้ำเลี้ยงข้าวสุก คู่ขนานไปกับเกมมวลชน และมีแนวโน้มจะลุยแตกหัก จากสัญญาณที่บางส่วนออกมาเตรียมล้มเกมในระบบ ประกาศบอยคอตไม่เข้าสภาฯ
หรืออาจเป็นปุ่มกดจากอีกขั้วอำนาจที่สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน ลดทอนกำลัง ม็อบก่อนปราบ เช่นเดียวกันอาจเป็นปุ่มสัญญาณที่ถูกกดจากขั้วฝ่ายอื่นๆ ที่ต้องการให้สถานการณ์ไปถึงจุดที่อำนาจรัฐไม่สามารถควบคุมได้
และถึงเป้าหมาย“รัฐบาลเฉพาะกิจ” ที่กำลังจดๆจ้องๆขอช่องในการเข้าร่วมรับส่วนแบ่งอำนาจกันอยู่หลายขั้ว
สอดคล้องกับการขยับของบิ๊กพรรคร่วมรัฐบาล และกระแสข่าวที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ใน เรื่องรัฐบาลเฉพาะกิจ รัฐบาลปรองดองสมานฉันท์ รวมทั้งการที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. แคนดิเดตผบ.ทบ. ถูกหยิบยกขึ้นโจมตีบ่อยครั้งบนเวทีเสื้อแดง
พร้อมๆกับการปล่อยชื่อบิ๊กทหารอื่นๆในแผงอำนาจหลายราย ทั้งพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง ผู้ช่วยผบ.ทบ. แม้กระทั่งพล.ท.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้ช่วยเสธ.ทบ. เพื่อนรักตท.12ของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังมีการปล่อยข่าวถึงคอนเน็กชันกับฝ่ายการเมือง
ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องจับตากับสถานการณ์ที่ประเมินกันว่า จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับจากนี้!!