“อรรถพร” จี้รัฐจัดการแกนนำเสื้อแดงจ้างคนร่วมม็อบ แนะส่ง กกต.จัดการ ส.ส.ทำลายระบอบประชาธิปไตย ซ้ำทำลายเจตนารมย์ผู้ชุมนุมอย่างบริสุทธ์ใจด้วย ชี้ม็อบเพลี่ยงพล้ำเหตุดัน “แม้ว-ไพร่” ปราศรัย เชื่อม้วนเสื่อเองสัปดาห์นี้ รับเจรจาเป็นไปได้ยาก หลัง “ทักษิณ” คิดไกลขอคืนเงิน
วันนี้ (20 มี.ค.) นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอให้รัฐบาลใช้กฏหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและเขตปริมณฑล กรณีการจ่ายเงินเพื่อว่าจ้างประชาชนให้มาชุมนุมขับไล่รัฐบาล และหากแกนนำที่จ่ายเงินเป็น ส.ส.ในพื้นที่ ก็ควรรายงานพฤติการณ์ดังกล่าวให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบ เพราะจัดจ้างผู้ชุมนุมดังกล่าวเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยและทำลายเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำให้ขาดความชอบธรรม เช่นเดียวกับการชู พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ ซึ่งขัดแย้งกับการชูประเด็น “ไพร่-อำมาตย์” ที่แกนนำ นปช.นำมาเป็นประเด็นหลัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กลุ่มเสื้อแดงเพลี่ยงพล้ำในทางยุทธศาสตร์ ขาดการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่ และตนคาดว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะพักการชุมนุมภายในสัปดาห์หน้านี้
“ขณะนี้มีการจ่ายเงินว่าจ้างให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพื่อทดแทนปริมาณผู้ชุนมุมที่ลดจำนวนลงไป โดยแกนนำคนเสื้อแดงต่อการสร้างยอดการชุมนุมให้ได้วันละ 10,000-15,000 คน เพื่อดึงให้สถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อและรอสถานการณ์พิเศษมาพลิกผันสถานการณ์ที่กำลังถดถอย การจ่ายเงินเน้นหนักที่ภาคเหนือ-ภาคอีสาน และเขตปริมณฑล แม้แต่ในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของผมก็จ่ายเงินกันอยู่ 1,000-2,000 บาทต่อคน” นายอรรถพรกล่าว
นายอรรถพรยังกล่าวถึงกรณีการเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดงว่า โอกาสที่จะหาข้อยุติได้มีเพียงศูนย์เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะผู้มีอำนาจตัดสินใจในฝ่ายคนเสื้อแดงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีเงื่อนไขที่ก้าวไกลเกินกว่าการเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา นั่นคือการนิรโทษกรรมและคืนทรัพย์สิน ซึ่งในประเด็นนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีอำนาจในทางกฏหมายที่จะตัดสินใจได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็เห็นด้วยที่จะให้มีการเจรจาและรับความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ เพื่อให้ชาติก้าวพ้นวิกฤตไปได้
วันนี้ (20 มี.ค.) นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอให้รัฐบาลใช้กฏหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและเขตปริมณฑล กรณีการจ่ายเงินเพื่อว่าจ้างประชาชนให้มาชุมนุมขับไล่รัฐบาล และหากแกนนำที่จ่ายเงินเป็น ส.ส.ในพื้นที่ ก็ควรรายงานพฤติการณ์ดังกล่าวให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบ เพราะจัดจ้างผู้ชุมนุมดังกล่าวเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยและทำลายเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำให้ขาดความชอบธรรม เช่นเดียวกับการชู พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ ซึ่งขัดแย้งกับการชูประเด็น “ไพร่-อำมาตย์” ที่แกนนำ นปช.นำมาเป็นประเด็นหลัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กลุ่มเสื้อแดงเพลี่ยงพล้ำในทางยุทธศาสตร์ ขาดการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่ และตนคาดว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะพักการชุมนุมภายในสัปดาห์หน้านี้
“ขณะนี้มีการจ่ายเงินว่าจ้างให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพื่อทดแทนปริมาณผู้ชุนมุมที่ลดจำนวนลงไป โดยแกนนำคนเสื้อแดงต่อการสร้างยอดการชุมนุมให้ได้วันละ 10,000-15,000 คน เพื่อดึงให้สถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อและรอสถานการณ์พิเศษมาพลิกผันสถานการณ์ที่กำลังถดถอย การจ่ายเงินเน้นหนักที่ภาคเหนือ-ภาคอีสาน และเขตปริมณฑล แม้แต่ในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของผมก็จ่ายเงินกันอยู่ 1,000-2,000 บาทต่อคน” นายอรรถพรกล่าว
นายอรรถพรยังกล่าวถึงกรณีการเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดงว่า โอกาสที่จะหาข้อยุติได้มีเพียงศูนย์เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะผู้มีอำนาจตัดสินใจในฝ่ายคนเสื้อแดงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีเงื่อนไขที่ก้าวไกลเกินกว่าการเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา นั่นคือการนิรโทษกรรมและคืนทรัพย์สิน ซึ่งในประเด็นนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีอำนาจในทางกฏหมายที่จะตัดสินใจได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็เห็นด้วยที่จะให้มีการเจรจาและรับความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ เพื่อให้ชาติก้าวพ้นวิกฤตไปได้
