“พระครูวามเทพมุณี” เมินพราหมณ์ไพร่จ่อฟ้องหมิ่น ไม่หวั่น ปัดหลบหลู่พ่อพราหมณ์แดง ยันไม่ได้พูดไล่ออกโบสถ์พราหมณ์ แค่เชิญออก ให้กลับไปพักที่บ้านเหตุมีอายุมากแล้ว ซ้ำปฏิบัติตนไม่เรียบร้อย แนะบวชแล้วควรปฏิบัติตามวิถีพราหมณ์
วันนี้ (19 มี.ค.) พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กล่าวถึงกรณีที่นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์ประจำกลุ่ม นปช.ที่ออกมาประกาศฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กล่าวว่าพราหมณ์แจ้ง พรหมชาติ ซึ่งเป็นบิดาของตนเคยถูกไล่ออกจากสำนักพระราชวัง ว่าไม่ได้หวั่นต่อการฟ้องร้อง แต่อยากชี้แจงว่าได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ผู้เป็นบิดาของนายศักดิ์ระพีเคยมาอยู่ที่โบสถ์พราหมณ์จริง แต่ได้ให้ออกไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยตนไม่ได้กล่าวหาว่าถูกไล่ออกไป และไม่ได้ไปลบหลู่บิดาของนายศักดิ์ระพี ทั้งนี้ ตนคิดว่านายศักดิ์ระพีอาจจะได้รับการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจผิดก็เป็นได้
พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวต่อไปว่า ส่วนสาเหตุที่บิดาของเขาได้ออกไปจากโบสถ์พราหมณ์นั้น เดิมเขาเป็นผู้ดูแลสถานที่ โบสถ์พราหมณ์ แต่เมื่อมีอายุที่มากและบางกรณีก็ปฏิบัติตนไม่เรียบร้อย จึงเห็นว่างานที่โบสถ์พราหมณ์ก็ไม่ได้มีอะไรมาก จึงให้กลับไปพักอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องทำหน้าที่ ไม่ต้องรับภาระต่อดีกว่า และขอยืนยันว่าเราไม่ได้ไล่เขาออกไป แต่ข้อเท็จจริงคือการเชิญออกไป
“อยากฝากไปยังนายศักดิ์ระพีด้วยว่า เมื่อคิดว่าได้บวชเป็นพราหมณ์แล้วก็ควรต้องจะปฏิบัติตนตามวิถีพราหมณ์ คือ คิดดี สร้างความสุข สันติให้เกิดขึ้นในจิตใจ ซึ่งอย่างน้อยก็เห็นได้ว่านายศักดิ์ระพีก็เป็นผู้ที่มีความกตัญญูต่อบิดา แต่หากเขายังปฏิบัติตนเป็นแบบเดิมนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่จะไม่เกิดความสุข และความสงบในจิตใจ ตามวิถีของพราหมณ์” พระราชครูวามเทพมุนี กล่าว
