เครือข่ายสันติวิธี บุกยื่นหนังสือนายกฯ เรียกร้องให้มีการเร่งเจรจาหาทางออกประเทศ ด้าน “สาทิตย์” ยันรัฐบาลนี้มาโดยระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง และเวทีของรัฐสภา ยันผู้ชุมนุมไม่ได้เป็นศัตรู ถ้าทุกคนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายก็ไม่มีปัญหา
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์ น.ส.จิราวรรณ ชาติพันจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายสันติวิธี พร้อมด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่ง เดินทางมายื่นหนังสือให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเสนอให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกจากวิกฤต โดยมีข้อเสนอ คือ 1.การเจรจาของ นายกอร์ปศักกดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ควรได้รับมอบหมายจากแต่ละฝ่ายให้มาพูดคุยกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเจรจา วางกรอบ และเตรียมการเจรจาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ 2.การเจรจาควรมุ่งตอบสนองความห่วง และจุดมุ่งหมายอันชอบของทั้ง 2 ฝ่าย 3.ในการเจรจาควรเลือกประเด็นที่อาจหาข้อตกลงกันได้ ประเด็นใดยาก ซับซ้อนและใช้เวลานานในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งก็ยังไม่ควรพิจารณา 4.สื่อมวลชนควรเปิดพื้นที่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขว้าง ในการพูดคุยและการเจรจา เพื่อหาทางออกให้ทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาล และ นปช.ต้องมีการพูดคุยกันอย่างเร่งด่วน อันจะนำไปสู่การเจรจาหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัวแทนมารับหนังสือ อีกทั้งแกนนำเครือข่ายสันติวิธีจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ทางแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาโดยระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง และเวทีของรัฐสภา ที่สำคัญ ข้อเรียกร้องจากทุกฝ่ายนั้นรัฐบาลก็รับฟัง ส่วนเราจะทำได้มากน้อยแค่ไหนก็จะมีกระบวนการ กรณีการยุบสภานายกรัฐมนตรีก็ได้ตอบไปแล้วว่าไม่มีปัญหา เพราะการยุบสภาเป็นทางออกของความขัดแย้ง แต่ก่อนยุบสภามีหลายเรื่องจะต้องคุยกัน ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ปิดทางที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามดูแลไม่ให้เกิดปัญหามากที่สุด
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตอนนี้เรากังวลว่า มีแนวโน้มว่า การใช้เลือดอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงได้ ซึ่งอันนี้เราก็ระมัดระวัง ทั้งนี้ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอยู่ในกรอบของกฎหมาย ฉะนั้น อยากให้สบายใจว่าฝ่ายของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลความสงบของสังคม เราต้องปกป้องคนทั้งสังคม ส่วนเรื่องของผู้ชุมนุมไม่ได้คิดว่าเป็นศัตรูกัน ถ้าทุกคนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายก็ไม่มีปัญหา
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้ คือ เมื่อมีการเรียกร้องแล้วถ้าสามารถที่จะยุติการชุมนุมได้ด้วยดี ให้ชีวิตคนปกติสุข ดำเนินไปได้ก็จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และทางวุฒิสภาขอให้มีการเปิดสภาเพื่ออภิปรายรัฐบาลก็ยินดี ซึ่งเป็นกระบวนการที่อยู่ในรัฐสภา ให้สบายใจได้ รัฐบาลเข้าใจในเรื่องนี้ ตนจะแจ้งนายกรัฐมนตรีให้ทราบ
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์ น.ส.จิราวรรณ ชาติพันจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายสันติวิธี พร้อมด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่ง เดินทางมายื่นหนังสือให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเสนอให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกจากวิกฤต โดยมีข้อเสนอ คือ 1.การเจรจาของ นายกอร์ปศักกดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ควรได้รับมอบหมายจากแต่ละฝ่ายให้มาพูดคุยกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเจรจา วางกรอบ และเตรียมการเจรจาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ 2.การเจรจาควรมุ่งตอบสนองความห่วง และจุดมุ่งหมายอันชอบของทั้ง 2 ฝ่าย 3.ในการเจรจาควรเลือกประเด็นที่อาจหาข้อตกลงกันได้ ประเด็นใดยาก ซับซ้อนและใช้เวลานานในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งก็ยังไม่ควรพิจารณา 4.สื่อมวลชนควรเปิดพื้นที่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขว้าง ในการพูดคุยและการเจรจา เพื่อหาทางออกให้ทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาล และ นปช.ต้องมีการพูดคุยกันอย่างเร่งด่วน อันจะนำไปสู่การเจรจาหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัวแทนมารับหนังสือ อีกทั้งแกนนำเครือข่ายสันติวิธีจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ทางแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาโดยระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง และเวทีของรัฐสภา ที่สำคัญ ข้อเรียกร้องจากทุกฝ่ายนั้นรัฐบาลก็รับฟัง ส่วนเราจะทำได้มากน้อยแค่ไหนก็จะมีกระบวนการ กรณีการยุบสภานายกรัฐมนตรีก็ได้ตอบไปแล้วว่าไม่มีปัญหา เพราะการยุบสภาเป็นทางออกของความขัดแย้ง แต่ก่อนยุบสภามีหลายเรื่องจะต้องคุยกัน ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ปิดทางที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามดูแลไม่ให้เกิดปัญหามากที่สุด
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตอนนี้เรากังวลว่า มีแนวโน้มว่า การใช้เลือดอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงได้ ซึ่งอันนี้เราก็ระมัดระวัง ทั้งนี้ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอยู่ในกรอบของกฎหมาย ฉะนั้น อยากให้สบายใจว่าฝ่ายของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลความสงบของสังคม เราต้องปกป้องคนทั้งสังคม ส่วนเรื่องของผู้ชุมนุมไม่ได้คิดว่าเป็นศัตรูกัน ถ้าทุกคนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายก็ไม่มีปัญหา
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้ คือ เมื่อมีการเรียกร้องแล้วถ้าสามารถที่จะยุติการชุมนุมได้ด้วยดี ให้ชีวิตคนปกติสุข ดำเนินไปได้ก็จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และทางวุฒิสภาขอให้มีการเปิดสภาเพื่ออภิปรายรัฐบาลก็ยินดี ซึ่งเป็นกระบวนการที่อยู่ในรัฐสภา ให้สบายใจได้ รัฐบาลเข้าใจในเรื่องนี้ ตนจะแจ้งนายกรัฐมนตรีให้ทราบ
