xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เย้ยสาวกแดงเจาะเลือด สัญลักษณ์ประจานซาดิสต์ตัวพ่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯ มั่นใจประชาชนเข้าใจสถานการณ์ เหตุประชุมสภาไม่ครบองค์ประชุม เพื่อหลีกเลี่ยงอันจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เย้ยสาวกแดงยอมเจ็บตัวเจาะเลือดใช้เป็นสัญลักษณ์ เท่ากับประจานตัวผู้ชุมนุมนิยมความรุนแรง ย้ำจะไม่ยุบสภาและไม่ใช่กำลังสลายการชุมนุมเด็ดขาด แต่ยินดีเปิดการเจรจาโดยที่ไม่มีเงื่อนไขในลักษณะข่มขู่ ก่อนบินตรวจภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือบ่ายนี้

วันนี้ (16 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง, นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยกล่าวถึงการประชุมสภาที่เลื่อนการประชุมไปว่า ในสถานการณ์แบบนี้เข้าใจว่าประธานสภาพิจารณาตามปกติ แต่คณะกรรมการประสานงานเป็นห่วงในเรื่องสถานการณ์ และมีความเห็นว่าหากมีการประชุมจะเป็นการล่อแหลมในการเกิดเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้น ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจได้ว่า สถานการณ์อย่างนี้ต้องการหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุด ไม่ให้มีความขัดแย้งใดใดทั้งสิ้น เพราะนี่คือจุดยืนของรัฐบาล

เมื่อถามว่าการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องสนธิสัญญาไม่ได้ จะมีผลอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ได้สอบถามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง แล้วไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า สถานการณ์การชุมนุมเป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังเป็นไปตามปกติ ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง จะบริจาคเลือดเพื่อนำไปราดหน้าทำเนียบรัฐบาล 1 ล้านซีซี ทางสาธารณสุขได้ให้คำแนะนำ เพื่อให้ถูกต้องตามหลัก

ต่อคำถามว่าการใช้เลือดเป็นสัญลักษณ์จะทำให้รัฐบาลยุบสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนกลับมองว่าเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกให้เห็นว่า เลือดเนื้อที่เกิดขึ้นจากการชุมนุม ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่ายรัฐแน่นอน อยากจะย้ำว่ามีความพยายามมาโดยตลอดว่ามีคนต้องการให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งรัฐได้พิสูจน์ แล้วว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ฉะนั้น สัญลักษณ์ที่มาพูดถึงเลือด หรือกองเลือดมันไม่ใช่กรณีที่ภาครัฐเองก่อความรุนแรงกับผู้ชุมนุม จนประชาชนเสียเลือดเนื้อ

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะมีการใช้ความรุนแรงเนื่องจากจำนวนคนลดลง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราได้ติดตามเฝ้าระวังจุดตรวจ การข่าวก็ยังทำเข้มข้นเหมือนเดิม ที่ ร.11 รอ.จะมีการประชุมตามห้วงเวลาทุกครั้งไม่มีความรู้สึกว่าจะปล่อยให้หละหลวม เมื่อถามว่าจะประสานกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไร เนื่องจากผู้ชุมนุมบางส่วนต้องการกลับบ้านแต่ไม่มีรถ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สามารถประสานมายังเจ้าหน้าที่ได้

“ยินดีรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ลักษณะของเงื่อนไข มาข่มขู่กัน นายวีระ ก็เป็นคนมีเหตุผล จากที่ผมสังเกตการบริหารการชุมนุม ต้องการบริหารไม่ให้เกิดความตึงเครียด ถ้าอยากแลกเปลี่ยนทางการเมืองตนยินดีแลกเปลี่ยน” นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงข้อเสนอของนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดงต้องการเจรจา

เมื่อถามว่าอะไรที่จะทำให้การเจรจาระหว่างรัฐกับผู้ชุมนุมบรรลุผลได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าวันนี้เราจะพูดว่าการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับคนทั้งประเทศ จะเป็นเรื่องของรัฐบาลกับผู้ชุมนุมไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ เรายินดีรับฟังและตัดสินใจบนพื้นฐานของคนทั้งประเทศ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะเปิดช่องทางอย่างไรให้พูดคุยได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องพูดคุยกันหลายเวที ข้อเรียกร้องเรื่องการยุบสภา เป็นเรื่องที่แลกเปลี่ยนมาโดยตลอดว่า รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย จะพูดยืนยันตลอดเวลาว่าจะไม่ยุบสภา แต่การยุบสภามันต้องอยู่บนเงื่อนไขให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการเคารพกติกา ยังไม่ลงตัวกับปัญหาความเสี่ยงในการรุนแรง เราต้องให้มันหมดไปเสียก่อน

“ผมคิดว่าเราต้องมีความระมัดระวังอยู่ตลอด ไม่ประมาท เพราะคนที่มาชุมนุมกันมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเข้าใจผิด จำนวนจะมากน้อย ต้องทำงานอย่างเข้มแข็ง เรื่องข่าวลือยังมีอยู่ตลอดแต่รัฐบาลก็ยังทำงานได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ส่วนความคืบหน้ากรณีเหตุลอบยิง M-79 ที่ ร.1 พัน 1 รอ.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรัดในเรื่องนี้ ด้านการข่าวก็พยายามทำเต็มที่ เมื่อถามด้วยว่าการข่าวก่อเหตุวินาศกรรมมีรายงานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ส่วนการตรวจสอบยังไม่พบว่าตรงกับอาวุธที่มีการตรวจพบก่อนหน้านี้ มันไปบ่งบอกอย่างนั้นไม่ได้

เมื่อถามว่าการที่มีการลอบยิงอาวุธสงครามเข้าไปถึงค่ายทหารส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่งสัญญาณให้เกิดความวุ่นวายเข้าใจผิด มีความขัดแย้งอยู่รัฐบาลยืนยัน เช่นการที่ผู้ชุมนุมกังวลว่าเป็นการปูทางของรัฐบาลไปสู่การใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อเข้าปราบปราม ตนยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดปราบปรามประชาชน ที่ชุมนุมตามกฎหมาย ส่วนวันอังคารที่ 23 มี.ค.จะประชุมครม.ตามปกติหรือไม่นั้น ตนไม่ขอพูดอะไรล่วงหน้า เราคงนัดหมายตามปกติ ถือหลักว่า การทำงานของเราไม่มีส่วนในการสร้างความขัดแย้ง และไม่เสียงานงานสำคัญๆ ก็เดินหน้าต่อ มีการเซ็นแฟ้ม ซึ่งอีกสักครู่ก็เดินหน้าขึ้นภาคเหนือตรวจเยี่ยมพื้นที่ภัยแล้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์พร้อมด้วยนายธีระ ได้ออกเดินทางด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่งทันทีที่แถลงข่าวเสร็จ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวสั้นๆ ว่าได้เตรียมให้ผู้สื่อข่าวจัดเตรียมไว้แล้วโดยจะเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก และเขื่อนภูมิพล จ.ตาก โดยนายกฯขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานขนส่งกองทัพบก (ขส.ทบ.) พร้อมเปิดเผยว่า ที่จริงเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของประชาชนในประเทศ เพราะทราบดีว่าปีนี้เกิดภาวะภัยแล้งเป็นพิเศษเราต้องการบริหารโดยไม่ได้ดูสถานการณ์เฉพาะหน้า ซึ่ง รมว.เกษตรฯ พูดมาตลอดเรื่องการบริหารเรื่องนาปี เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ ว่าได้ผลเรื่องการใช้น้ำหรืออะไร

เมื่อถามว่าจะถูกมองหรือไม่ว่าเอาปัญหาภัยแล้งมาบังหน้าสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย ตนมีหน้าที่ดูแลคนทั้งประเทศ ขณะนี้ความเดือดร้อนส่วนใหญ่อยู่ที่เรื่องของภัยแล้งเดินหน้าไป การชุมนุมก็ต้องบริหารสถานการณ์ไป ซึ่งข้อเรียกร้องก็ต่างก็รับฟังมาตลอด เมื่อถามถึงกรณีการรองรับภัยแล้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีหลังจากออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยและประชุมกับกรมชลประทาน ขณะนี้นาปรังรอบแรกก็ออกมาซึ่งจะประเมินว่ารอบถัดจากนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้รัฐบาลประสานงานการทำงานต่างๆเป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเซ็นงานตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรมว.เกษตรฯจะลงเครื่องที่สนามบินจังหวัดตาก จากนั้นจะเดินทางด้วยรถยนต์ และเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจเยี่ยมเขื่อนภูมิพล และเดินทางไปตรวจอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และอ่างเก็บน้ำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อตรวจปริมาณน้ำและรับฟังรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ ในเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น