นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศเจาะเลือดผู้ชุมนุม 3 ล้านซีซี เพื่อนำไปเทใน 3 จุด ว่า เป็นการส่งสัญญาณไปยังกลุ่มใต้ดินว่าถึงเวลาที่จะใช้เลือดละเลงกันแล้วหรือไม่ ซึ่งสอดคล้องกับฝ่ายข่าวที่ระบุว่าจะมีการก่อวินาศกรรม แต่เชื่อว่าจะได้ไม่ครบ เพราะคนเสื้อแดงทั่วไปไม่เห็นด้วย จึงเชื่อว่าจะมีการนำสิ่งแปลกปลอมมาปะปนด้วย เพื่อต้องการให้เกิดภาพทางสื่อไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ประกาศกดดันผู้ชุมนุมให้เจาะเลือดนั้น เคยไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทยหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าไม่เคย แต่กลับมายอมเสียเลือดเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไร ทั้งนี้ การที่ขู่ว่าจะไปเทเลือดที่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ไม่เคยปรากฏในการชุมนุม ที่ไประราน ข่มขู่บุคคลในครอบครัวของผู้นำ ส่วนการจะไปเทเลือดที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน ที่ผ่านมายังไม่เคยมีม็อบไปปิดพรรคเพื่อไทย เพราะคิดว่าเป็นสถาบันทางการเมืองที่ต้องให้เกียรติ
นายเทพไท กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 17-18 มีนาคม ว่า มติวิปรัฐบาลส่งสัญญาณว่า ในอังคาร-พฤหัสบีดนี้ สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ และหากเข้าประชุมสภาจะเป็นการยั่วยุท้าทายคนเสื้อแดง จึงขอความร่วมมือว่าให้ ส.ส.รัฐบาลเตรียมตัวไว้ก่อน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมติ ดังนั้นในการประชุมสภาดังกล่าว ส.ส.พรรคประชาธิปัยต์จึงจะไม่เข้าประชุมจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น