วอร์รูม ปชป.ประเมินม็อบแดง พบคนกรุงเทพฯไม่เห็นด้วย แถมมีการใช้เงินจ้างผู้ชุมนุมยิ่งลดความน่าเชื่อถือการชุมนุม ระบุห่วง "นช.แม้ว" หลบฉากแอบบัญชาการรบ แถมครอบครัวเผ่นออกนอก ส่อสัญญาณความรุนแรง จี้แกนนำหางแดงรับผิดชอบเหตุเผชิญหน้าระหว่างสมุนกับชาวบ้าน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะทำงานปฏิบัติการทางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ (วอร์รูม) ว่า ที่ประชุมประเมินเหตุการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเห็นว่าการที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ได้ชุมนุมอยู่บนพื้นฐานของความสงบเรียบร้อยถือเป็นสัญญาณที่ดีในเบื้องต้น แม้จะยังมีเหตุการณ์เผชิญหน้ากันระหว่างคนไทยด้วยกันที่จ.ปทุมธานี ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงจากแกนนำในพื้นที่ของ นปช. ต่อประชาชน ซึ่งพรรคอยากให้แกนนำคนเสื้อแดงส่วนกลางรับผิดชอบไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า วอร์รูมฯ ยังได้วิเคราะห์สถานการณ์ใน 5 กรอบนับตั้งแต่เริ่มการชุมนุมจนวันนี้คือ 1.ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง พบว่ามีส่วนที่อยู่นอกเหนือจุดยืนในระบอบประชาธิปไตย เพราะมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลมากกว่าและต้องการตอบสนองระบอบทักษิณมากกว่าระบอบประชาธิปไตยทำให้ไม่สามารถตอบสนองข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ ดังนั้น อาจส่งผลให้จำเป็นจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
2.การประเมินจำนวนประชาชนที่เข้าร่วม พรรคมองว่าเป็นการสะท้อนปฎิกิริยาของคนกทม. ที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม อีกทั้งการตรวจพบว่ามีการใช้เงินที่ จ.นครพนม ก็ยิ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ
3.การปรับลดจุดการชุมนุมและกรณีที่ครอบครัวพ.ต.ท.ทักษิณทะยอยออกนอกประเทศเพิ่มเติม ทำให้สถานการณ์ต่อจากนี้มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะการย้ายที่พักพิงของพ.ต.ท.ทักษิณออกจากยูเออี โดยไม่บ่งบอกว่าไปที่ใด ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดือนเมษายนที่มีแหล่งข่าวยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาที่กัมพูชา ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบบ้านพักพ.ต.ท.ทักษิณที่นครดูไบ พบว่ารถและข้าวของบางส่วนไม่อยู่แล้ว
4. ปฏิกิริยาจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ พรรคประเมินว่า แม้ว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหว แต่ก็มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดความรุนแรง ดูได้จากผลการสำรวจที่สะท้อนว่าประชาชน 40 เปอร์เซ็นต์กังวลต่อความรุนแรงที่อาจจะเกิดจากแนวร่วมพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคยอมรับว่าสิ่งนี้ได้สร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนว่ารัฐบาลจะสามารถดูแลไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้หรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาท่าทีของนายกฯรัฐมนตรี ที่ไม่ใช้วิธีการตอบโต้ด้วยวิธีการที่รุนแรงด้วยการใช้กำลัง และเปิดให้มีการเจรจากับผู้ชุมนุม เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะรับฟังเสียงของประชาชนทุกคน
และ 5.ทิศทางของสถานการณ์ พรรคมองว่าสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดมี 2 เหตุผลคือการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับทุกภาคส่วนในสังคมจะเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุด รวมทั้งการอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนในสังคมเพื่อป้องกันความรุนแรง