"สุเทพ" ถก ผบ.ทร. ห่วงม็อบเสื้อแดงชุมนุม เล็งปิดท่าเรือใกล้ "ศิริราช" พร้อมจัดกำลังพลเข้ามาดูแล ส่วนทางบก ทัพเรือกรุงเทพฯและสห. ดูแล อีกทั้งนำเรือลาดตระเวน 16 ลำ คอยปฏิบัติการ
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่กองบัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เข้าประชุมร่วมกับ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และได้แถลงภายหลังการประชุมว่า ทราบดีว่า ประชาชนมีความเป็นห่วงในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอาจจะมีการเคลื่อนพลมาทางน้ำ ซึ่งใกล้กับบริเวณ รพ.ศิริราช ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ร่วมกับกองทัพเรือเพื่อจัดกำลังพลเข้าดูแล โดยมีกองทัพเรือ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ร่วมกันปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัย
พล.ร.ต.พัลลภ ตมิสานนท์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือได้แบ่งการปฏิบัติการออกเป็น 2 ส่วน คือ ทางบก และทางน้ำ โดยทางบกนั้น ฐานทัพเรือกรุงเทพ และ ส.ห.เป็นผู้ดูแล ส่วนทางน้ำ มีกองเรือดำน้ำและตำรวจน้ำดูแล นอกจากนี้ ยังมีสุนัขตำรวจ กองร้อยรักษาความสงบ พร้อมทั้งเรือลาดตระเวนอีก 16 ลำ คอยปฏิบัติการ
สำหรับการปฏิบัติการบริเวณโรงพยาบาลศิริราชทางบก แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ 1.เขตชั้นในหวงห้ามเข้าเด็ดขาด คือ บริเวณที่ประทับ จะมีกรมราชองครักษ์ดูแล 2.ในรั้วภายในโรงพยาบาลนั้น จะมีกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยส่วนพระองค์ทำหน้าที่ดูแล 3.นอกรั้วภายในอาณาเขต 5 กิโลเมตร จะมีสายตรวจเคลื่อนที่เร็วดูแล 4.บริเวณด้านนอกรั้วระยะไกลออกไป จะมี พล.ร.9 ทำหน้าที่ดูแล
พล.ร.ต.พัลลภ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการประกาศควบคุมห้ามเดินเรือบริเวณท่าเรือต่างๆ ใน 6 ท่าเรือ คือ ท่าเรือรถไฟ ท่าเรือศิริราช ท่าเรือวังหลัง ท่าเรือท่าพระจันทร์ ท่าเรือท่าช้าง และท่าราชวรดิษฐ์ จะสัญจรได้เฉพาะเรือโดยสารประจำทางเท่านั้น และจะไม่อนุญาติให้เรือประเภทอื่นๆ ผ่านโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศอ.รส.มีคำสั่งให้ระงับใช้ล่องน้ำใกล้บริเวณ รพ.ศิริราช คือ คลองบางกอกน้อย โดยจะเดินเรือชิดฝั่งพระนครเป็นหลัก จนกว่าสถานการณ์จะปกติ
ด้าน พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เหตุที่กองทัพเรือประกาศห้ามใช้ท่าเรือดังกล่าว เนื่องจากโดยปกติมีการสัญจรที่หนาแน่นอยู่แล้ว จึงเกรงว่า จะยากต่อการควบคุม ดังนั้น จึงประกาศให้เป็นเขตหวงห้าม แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการจัดเรือให้คำแนะนำตั้งแต่ต้นทางว่าท่าใดสามารถจอดได้บ้าง ทั้งนี้จึงขอความร่วมมือไปยังประชาชนเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากที่สุด