xs
xsm
sm
md
lg

“อ๋อย” ติงรัฐอย่าย่ามใจ ตีปี๊บข่าวเผาเมือง แนะโจกแดงชิงพื้นที่สื่อแจงเหตุรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จาตุรนต์ ฉายแสง
อดีตรักษาการ หน.ทรท.แขวะรัฐอย่าประโคมข่าวเสื้อแดงเกินเหตุ แนะโจกแดงหากเกิดเหตุการณ์รุนแรง ต้องรีบชิงพื้นที่สื่อแจงสาธารณะ ติงรัฐอย่าย่ามใจจนทำอะไรตามอำเภอใจ เสนอทางออก 3 ข้อให้รัฐ เตือนให้ระวังมือที่สาม

วันนี้ (10 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค.ว่า ขณะนี้สังคมกำลังเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นใน 1-2 วันนี้หรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็มีการโหมกระพือข่าวสร้างกระแส จนทำให้บรรยากาศทางการเมืองขณะนี้ น่ากลัวจนเกินจริง ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายตั้งหลัก ว่า การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธนั้น เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และสังคมไทยก็ยังไม่สามารถหาทางออกที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับกติกาและการปกครองอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ขึ้น แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ควรรีบออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน ด้วยการยืนยันการเคลื่อนไหวด้วยแนวทางสันติวิธี เพื่อให้ข้อเรียกร้องเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า อยากให้ระมัดระวังการแทรกแซงของมือที่ 3 และการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาล หรือคนของรัฐบาล ซึ่งทำได้โดยเตรียมการเกี่ยวกับเครื่องมืออุปกรณ์ในการบันทึกภาพและเสียง ตนเป็นห่วงว่า รัฐบาลกำลังปฏิบัติตามแผนทำลายความชอบธรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อเอาชนะทางการเมือง จับกุม คุมขัง เพื่อดำเนินคดี รวมทั้งปราบประชาชนด้วยความรุนแรง รัฐบาลไม่ควรย่ามใจจากการที่เป็นฝ่ายประสบความสำเร็จในการจัดการกับประชาชนเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา จนทำอะไรเกินเลยตามอำเภอใจ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงตามมาได้ และหากรัฐบาลใช้วิชามารสารพัด เพื่อเอาชนะและปราบประชาชนจริง เรื่องก็จะไม่จบ แต่จะลุกลามบานปลายยิ่งกว่าเดิม

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ตนขอเสนอทางออก ดังนี้ 1.รัฐบาลไม่ควรโหมกระพือข่าวให้เห็นว่าผู้ที่จะมาชุมนุมเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองเหมือนเป็นโจรผู้ร้าย รวมทั้งไม่ควรสร้างภาพให้ดูน่าหวาดกลัวจนเกินจริง 2.รัฐบาลไม่ควรปิดกั้นสื่อ หรือใช้สื่อเป็นเครื่องมือของตนแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะสื่อของรัฐ ควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เสนอความคิดเห็นของตน จะได้ไม่ทำให้คนรู้สึกถูกบีบคั้นกดดันจนเป็นความโกรธแค้น และ 3.รัฐบาลต้องกำชับผู้เกี่ยวข้องไม่ให้สร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้แก่ผู้ชุมนุม เพื่อทำลายความชอบธรรม ทั้งนี้ ปัญหาเฉพาะหน้าที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การสร้างสถานการณ์ หรือฉวยโอกาสสร้างเหตุกระทบกระทั่งหรือความรุนแรงเพื่อนำมาใช้เป็นเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเข้าจัดการกับการชุมนุมด้วยวิธีต่างๆ ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวมทั้งจะทำให้การชุมนุมของประชาชนกลายเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายโดยทันที

“หากรัฐบาลเดินหน้าไปในทางที่สร้างเงื่อนไข เพื่อทำลายความชอบธรรมของประชาชน เพื่อปราบประชาชน คล้ายกับที่เคยทำเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะได้เปรียบในทุกด้าน ทั้งอาวุธ เครื่องมือกลไก และสื่อของรัฐ แต่หากรัฐบาลจัดการด้วยวิธีการที่ไม่ชอบธรรม ไม่ว่าผลการชุมนุมจะเป็นอย่างไร ประชาชนจำนวนมากก็จะไม่ยอมรับกติกา และการปกครองของรัฐบาลนี้ สังคมจะยังอยู่ในสภาพขัดแย้งเผชิญหน้าไม่สิ้นสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น