โหร ส.ว.ระบุ ดวงประชาธิปไตยอยู่ในช่วงเปราะบาง มีสิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ชี้ หลัง 24 เม.ย.2553-2554 ไทยวิกฤตประชาธิปไตยถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลง “เชษฐา-หมอบุญ” เห็นตรงกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความไม่ยุติธรรมในสังคมที่เกิดขึ้นมายาวนาน เชื่อแก๊งแดงที่ออกมาสู้เพื่อ “นช.แม้ว” มีแค่ 5% ที่เหลือเป็นพวกที่ยากลำบากในการทำมาหากิน
นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าของฉายา โหร ส.ว.กล่าวระหว่างร่วมเสวนาเรื่อง “ทางออกประเทศไทย” ซึ่งจัดโดย “ชมรมวุฒิสภา 43”ว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่อำนาจอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวมานาน จึงทำให้เกิดเหตุวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น ต้องเริ่มปฏิรูปที่ระบบการศึกษาในวัยเด็กเพื่อให้เติบโตขึ้นมามีระเบียบ
“สิ่งที่ผมพูดต่อไปนี้ ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนก แต่ทางโหราศาสตร์ ชี้ว่า ขณะนี้ดวงประชาธิปไตยเปราะบางมาก เพราะว่าดาวที่เคยทำร้ายประชาธิปไตย เมื่อปี พ.ศ.2475 ได้เคลื่อนมาปีนี้อีกครั้งหนึ่ง อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ แต่ตอนนี้ดาวพฤหัสบดีที่ให้คุณสูงสุดในจักรวาลยังช่วยอยู่ ช่วงนี้จึงยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หลังวันที่ 24 เม.ย.2553-2554 ประเทศไทย จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นวิกฤตมาก”
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม กล่าวว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ทุกฝ่ายน่าจะทราบดี ไม่สามารถห้ามได้ ยากแก่การเยี่ยวยา หากไม่ให้เกิดอะไรเลย คงเป็นไปไม่ได้ สาเหตุคือปัญหาความไม่ยุติธรรมในสังคมที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ทำให้ค่าของคนแตกต่างกัน ประกอบกับการขาดระเบียบวินัย ยิ่งทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม
“หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้ คือ ประชาชนต้องตั้งสติให้มั่นให้อยู่ตรงกลาง อย่ามีอคติ มีสติ มีเหตุมีผล ถ้าฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ต้องดูต้องฟัง ทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ส่วนแก้ไขปัญหาระยะยาวต้องสร้างให้คนไทยมีระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก เพื่อให้เติบโตขึ้นมามีความคิดและสร้างความยุติธรรมได้”
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย มีปัญหาตลอดเวลา เพราะมีความอยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม ดังนั้น การแก้ไขปัญหาต้องทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ทั้งคนจนและคนรวยต้องมีความเสมอภาคกัน ดังนั้น ต้องแก้ไขตั้งแต่วัยเด็กให้ได้รับการศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเติบโตขึ้นมาแล้วสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระกับประเทศ
“เหตุการณ์เสื้อแดง-เหลือง ออกมา เพราะมีความเดือดร้อน มีความไม่ยุติธรรมในสังคม และมีความเดือดร้อนในการทำมาหากิน หากมีคนออกมาชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ได้ถึงล้านคน เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำมาคิด เพราะเห็นว่ามีคนเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ที่ออกมาชุมนุมเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอกนั้นเป็นเพราะลำบากในเรื่องทำมาหากิน ดังนั้น ทางออกอันใกล้ของประเทศ คือ ต้องรู้ว่าประชาชนมีปัญหาเดือดร้อนอย่างไร”