“นช.แม้ว” ลิงก์ส่งสัญญาณเดือด ถึง ส.ส.ไข่แม้ว ลั่นไม่ขอกลับไทยแบบเถ้ากระดูก ด้านแกนนำแก๊งแดงชักหวั่น ส่วนอีสานเริ่มลังเลหลังขอเงินไม่ตามเป้าที่เบิกงบ แถม “จิ๋ว หวานเจี๊ยบ-พัลลภ-เสธ.แดง” ตีออกห่าง ปัดทุกความช่วยเหลือเสื้อแดง
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมส.ส.พรรค โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตุว่า ก่อนจะถึงวันชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค.นั้น แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและแกนนำของพรรคเพื่อไทยสายฮาร์ดคอร์ ต่างเดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทยกันอย่างคึกคัก อาทิ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชินวัฒน์ หาญบุญพาด แกนนำกลุ่มวิทยุชุมนุมแท็กซี่เรดิโอ นายนิสิต สินธุไพร ผู้ประสานงานเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายการประชุมนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงค์เข้ามาพูดคุยกับส.ส.โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวช่วงหนึ่งว่า ขอขอบคุณส.ส.ทุกคนที่ให้กำลังใจและสนับสนุนคนเสื้อแดง จะขอต่อสู้ต่อไปไม่หนีไปไหน บางคนชอบกระทำคนอื่นเขาเรียกว่าซาดิสต์ แต่ตนถูกกระทำตลอดจนชินเสียแล้ว จะขอสู้ต่อไปไม่หนีไปไหน ยิ่งโดนก็ต้องสู้ หากไม่สู้จะเหมือนผู้นำที่เป็นกบฎหลายคนที่ไปเสียชีวิตนอกประเทศ กลับเข้ามาได้แค่เถ้ากระดูก ดังนั้นต้องต่อสู้จะได้กลับมากกว่านั้น
ลือสะพัด ครอบครัว “แม้ว” เผ่นไปต่างประเทศ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า สำหรับกรณีที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค.นั้น ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พร้อมบุตรทั้ง 3 คนเตรียมจะเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากประเมินสถานการณ์การชุมนุมว่าอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น จึงเกรงว่าครอบครัวอาจจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากเมื่อถึงเวลาชุมนุมจริงการจะทำให้เหตุการณ์สงบนั้นอาจจะทำในรูปแบบของการจับตัวประกันก็ได้ เพราะสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ต้องยอมแพ้ก็คือการจับตัวครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 9 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังคนใกล้ชิดนายพานทอง ชินวัตร และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งปรากฏว่าเลขาฯ ส่วนตัวของทั้ง 2 คนเป็นผู้รับสาย โดยเปิดเผยว่าคุณหญิงพจมานและนายพานทองแท้ยังไม่มีกำหนดการไปต่างประเทศ ขณะนี้ทุกคนยังอยู่ประเทศไทย แต่ในวันที่ 10 มี.ค. น.ส.พินทองทา และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะต้องเดินทางไปกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อเปิดงานไอทีซี เบอร์ลิน 2010 ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกำหนดการที่มีการกำหนดไว้ล่วงหน้านานแล้วเป็นเดือน และจะต้องอยู่ที่กรุงเบอร์ลินสักระยะหนึ่ง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุม
ด้านแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยซึ่งมีความใกล้ชิดกับคุณหญิงพจมาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา คุณหญิงพจมาน นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และน.ส.แพทองธาร ได้ออกเดินทางไปประเทศฮ่องกงแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาพักอยู่ที่ฮ่องกงเป็นสัปดาห์ สำหรับการเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างจะฉุกละหุกจึงทำให้กำหนดการที่คุณหญิงพจมานนัดพบกับคณะบุคคลต่างๆ นั้นต้องถูกยกเลิกออกไปอย่างกะทันหัน
“พายัพ” อึ้ง เสื้อแดงอีสานบุกขอเงิน 30 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายพายัพ ชินวัตร น้องชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะประธาน ส.ส.ภาคอีสาน ได้ร่วมหารือกับ ส.ส.อีสานและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในสายอีสาน ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งได้มีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 14 มี.ค. โดย ส.ส.แต่ละคนได้รายงานความเคลื่อนไหวให้ที่ประชุมทราบ ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาขณะนี้คือเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่ต้องอยู่ชุมนุมอย่างน้อย 3 วัน จึงมีการขอเงินสนับสนุนจากนายพายัพจำนวน 30 ล้านบาท ทำให้นายพายัพถึงกับตกใจก่อนจะสอบถามว่าจะเอาไปทำอะไร
ทั้งนี้ นายนิสิต สินธุไพร ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช.สายอีสานได้ชี้แจงว่า เงินดังกล่าวเป็นค่าน้ำมันในการขนคน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร และค่าอำนวยความสะดวก เพราะแต่ละจังหวัดมีค่าน้ำมันรถที่แตกต่างกัน เช่น ภาคอีสานตอนบนค่าน้ำมันไปกลับจะอยู่ที่ 6,000 บาท แต่จ.นครราชสีมาและสกลนครนั้น เดินทางไม่ไกลมาก ค่าน้ำมันไปกลับต่อคันจึงอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 บาท
“ชวลิต-พัลลภ-เสธ.แดง” เริ่มทิ้งระยะห่างเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แกนนำของพรรคซึ่งเป็นระดับนายทุนได้ตกลงที่จะช่วยเหลือเพียง 2,000 บาท ขณะที่นายพายัพกล่าวว่า ขอให้ ส.ส.สำรองจ่ายไปก่อน เหมือนเป็นการวัดใจแล้วกันสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ทำให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในสายอีสานต่างแสดงความไม่พอใจ โดยระบุว่าจะเหมาจ่ายไม่ได้ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าน้ำมันเท่านั้น แต่ยังมีค่าอาหารและค่ายาด้วย
นายพายัพจึงสอบถามถึงเงินกองกลางของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าหายไปไหน เหตุใดจึงไม่นำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายในการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ จากนั้นนายพายัพได้ลุกออกจากห้องประชุมไป ต่อมามีเจ้าหน้าที่ของพรรคคนหนึ่งได้เดินเข้ามาแจ้งว่า พร้อมจะสนับสนุนเงินให้ 10 ล้านบาท ทำให้ส.ส.อีสานและแกนนำระดับผู้ประสานงานของกลุ่มคนเสื้อแดงต่างแสดงความไม่พอใจ ถึงกับระบุว่า สงครามรอบใหม่อาจพ่ายแพ้อีกเหมือนเดิมก็ได้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภ ปื่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่เคยบาดหมางกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.ในเรื่องแนวทางการเคลื่อนไหวนั้น ขณะนี้ต่างปฏิเสธที่จะให้สนับสนุนการเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงแล้วด้วยเช่นกัน
