“ประชา” ฟุ้งรัฐหมดปัญญาสกัดม็อบเสื้อแดงแน่ เพราะแค่ประเมินขั้นต่ำมาตั้งครึ่งล้าน ขู่รัฐอย่าใช้กำลัง หากพี่น้องแดงมีตายรัฐเก็บกระเป๋าแน่ แถมยังแนะรัฐจัดรถส้วมไว้บริการ 200-300 คัน หากไม่ได้ กทม.เต็มไปด้วยอึและฉี่คนเสื้อแดงแน่
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์คนเสื้อแดง-นปช. ที่จะมาชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ วันที่ 14 มีนาคมนี้ว่าจากการประเมินหลังแกนนำ นปช.ได้ประกาศกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวที่ประกาศไว้จะมาล้านคนนั้น ขณะนี้ประเมินอย่างต่ำ เชื่อว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมอย่างน้อย 5 แสนคน หรือครึ่งล้าน อย่างแน่นอน รถเข้ามาเป็นแสนคนทุกสาขาอาชีพจะมาร่วมเต็มบ้านเต็มเมืองอาจเป็นล้าน จะทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพทุกทิศทุกทาง ทั้งทางบก รวมถึงทางน้ำที่จะมาทางเรือ จาก จ.อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรีและปริมณฑล นนทบุรี และสมุทรปราการ เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีทางสกัดได้อย่างแน่นอน
เตือนถ้าแดงตาย รบ.เตรียมเก็บกระเป๋าได้
“แม้ว่าผมจะเป็นมีใจเป็นสีแดง แต่ในใจกังวลเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง เพราะเห็นจากรัฐบาลจัดเตรียมกำลังทหารตำรวจพร้อมรับมือการชุมนุม ถ้าสถานการณ์รุนแรงจะนำไปสู่ยุคมืดหรือมีการยึดอำนาจ ทำรัฐประหารวันนี้ทหารและตำรวจส่วนหนึ่ง ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ดังนั้น ก่อนถึงวันที่ 12 มีนาคม มีแนวโน้มสูงเป็นไปได้ที่ประชาชนทะลักเข้ามาไปหมดไม่ใช่ราคาคุยจึงขอให้รัฐบาลอย่าใช้กำลังอาวุธปราบสลายการชุมนุม ถ้าถึงขั้นมีเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว เชื่อว่าคนที่มากันเต็มถนนราชดำเนิน จะไม่ยอม ขอให้รัฐบาลเตรียมเก็บกระเป๋าลาออกไปได้เลย”นายประชา กล่าว
ขู่ถ้ารัฐไม่จัดรถส้วม เจอ “สงครามอึ-ฉี่” แน่
นายประชายังกล่าวอีกว่า ขอฝากเตือนไปยังรัฐบาล ให้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกรถน้ำ รถสุขา 200-300 คัน พร้อมหน่วยพยาบาลให้พร้อม ตามหลักของสิทธิมนุษยชน เพราะถ้าไม่จัดเตรียม หรือดูแลเรื่องนี้ คนที่มาเป็นเรือนแสนไม่มีที่อึที่ฉี่แล้วกรุงเทพฯอาจเกลื่อนไปด้วยอึและฉี่ อาจจะต้องเผชิญกับ สงครามอึสงครามฉี่ ก็เป็นได้ นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่ขอเตือนล่วงหน้าเตรียมพร้อมรับมือ เพราะขอบอกว่าคราวนี้ของจริง
นอกจากนี้ยังมั่นใจว่า ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.จะไม่สามารถคุมสถานการณ์การชุมนุมอยู่ซึ่งหากมีการใช้กำลังทหารอาวุธ เข้าปราบปรามประชาชน จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกในสายตาชาวโลกที่กำลังจับตาอยู่
ไม่จำเป็นขนต่างด้าวร่วมม็อบแดง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะมีการระดมขนคนต่างด้าวเข้ามาร่วมชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงนั้น นายประชากล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะจากเสียงสะท้อนของประชาชนเวลานี้ เชื่อว่าแค่คนไทยก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาคนต่างด้าว แค่นี้ก็มีคนเป็นล้านๆอยากเข้ามาร่วมชุมนุม อย่างไรก็ตามยอมรับว่ายังเป็นห่วงที่มีข่าวออกมาตลอดว่ามีการเตรียมจัดการล็อคแกนนำม็อบที่ถูกขึ้นบัญชีดำกว่า 300 คน เพื่อม็อบไร้หัว ไร้แกนนำ ถ้าเป็นจริง บ้านเมืองวุ่นวายเป็นกลียุคแน่
ฟันธงโอกาสซักฟอกรัฐบาลส่อเค้าปิ๋ว
เมื่อถามว่าแล้วความเป็นไปได้ที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายประชา กล่าวว่า ถ้าผ่านพ้นสถานการณ์การชุมนุมแล้ว รัฐบาลยังอยู่ก็อาจมีอภิปราย เพราะในส่วนของคณะทำงานเตรียมพร้อมอภิปราย ยังรวบรวมข้อมูลต่อไป แต่เท่าที่ประเมินภาพรวมกระแสคนจะเข้าร่วมชุมนุมแล้ว เชื่อโอกาสที่จะมีอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงริบรี่และน้อยลงไป เพราะทุกคนทราบดีว่าถึงจะอภิปรายในสภาดีอย่างไร ก็คงไม่ทำให้รัฐบาลชุดนี้ลาออก และคงไม่ยอมสูญเสียอำนาจ อีกทั้งยังกลัวที่ถูกเอาคืนในการถูกตรวจสอบการใช้อำนาจ จึงทำทุกอย่างให้อยู่ต่อไปให้นานที่สุด
ส.ส.อีสานหนุน “เหลิม” นำทัพลุยซักฟอก
ด้าน นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในความพร้อมการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีแนบกับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคนในพรรค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทำความชัดเจน จึงขอให้กำลังใจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในการกลับเข้ามาทำหน้าที่หัวขบวน เป็นขุนพลนำทัพในการอภิปรายตรวจสอบรัฐบาลเต็มรูปแบบในสภา หากพรรคไม่มีหัวขบวน จะเดินหน้าไปอย่างไร จำเป็นต้องมาร่วมพูดคุยอย่างเป็นระบบยกระดับในการตรวจสอบเพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชน ดังนั้น เหมือนการจะเข้าสู่สนามรบต้องมี แม่ทัพ ขุนพลและขุนศึก ที่จะร่วมรบ ที่สำคัญ ต้องมียุทธศาสตร์และการวางแผนที่ดี จึงจะทำให้การดำเนินการประสบความสำเร็จได้
เชื่อยื่นญัตติซักฟอก ชัดเจนหลังสงกรานต์
เมื่อถามว่าแนวโน้มพรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้เมื่อไหร่ นายต่อพงษ์กล่าวว่า หากพิจารณาสถานการณ์แล้ว หลังเทศกาลวันสงกรานต์ น่าจะมีความชัดเจน เพราะเชื่อมั่นใจข้อมูลเนื้อหาสาระในการอภิปรายจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ แต่คงจะต้องรอดูเหตุการณ์คนเสื้อแดงที่นัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯก่อน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือถ้าหากเกิดความวุ่นวาย หรือมีความรุนแรง อาจหาทางออกยาก จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล อย่าเป็นต้นเหตุให้คนในสังคมเกิดความแตกแยกมากขึ้นเพราะถึงวันนี้รัฐบาลมุ่งเอาชนะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว ยังเดินหน้าติดตามเหยียบย่ำไม่ยอมเลิกรา
ยันชื่อ “นายกฯ เงา” ให้ กก.บห.ชี้ขาด
ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีแนบกับญัตติอภิปรายนั้น นายต่อพงษ์กล่าวว่า เมื่อพรรคมอบให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาแคดิเดคนายกรัฐมนตรีแล้ว จะต้องรอการนำผลมาแจ้งที่ประชุมพรรค ส่วนจะเป็นใคร เชื่อว่าไม่น่าเป็นปัญหา ซึ่งจะทำให้คณะทำงานเตรียมการอภิปราย และ ส.ส.ที่จะอภิปราย ได้มีสมาธิในการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายได้อย่างเต็มที่
