“สุรพงษ์” รับไม้ต่อ “เรืองเปลี่ยนสี” ชง ป.ป.ช.ตรวจสอบหุ้น ครม.อภิสิทธิ์ยกชุด ใช้ช่องกรรมาธิการการคลัง สภาฯ สู้เพื่อเงินแม้ว เรียกอธิบดีกรมสรรพากรแจงอายัดเงิน “โอ๊ค-เอม” 12,000 ล้าน 10 มีนาฯ นี้ ชี้ส่อโมฆะ หลังศาลพิพากษายึดทรัพย์ “ทักษิณ”
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบการถือครองหุ้นและการโอนหุ้นของรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันว่า ก่อนที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้มีการโอนหุ้นให้กับคู่สมรส หรือบุตรที่บรรลุนิติภาวะของตนเองและญาติหรือไม่ เพราะคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลได้วินิจฉัยว่าการโอนหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับบุตรที่บรรลุนิติภาวะเป็นการโอนในลักษณะให้ถือครองหุ้นแทน โดยถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงถือหุ้นดังกล่าว อยู่
นายสุรพงษ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการวันที่ 10 มี.ค. จะเชิญอธิบดีกรมสรรพากรมาชี้แจงข้อกฎหมาย ในกรณีที่กรมสรรพากรอายัดบัญชีทรัพย์สินเงินฝากจำนวน 12,000 ล้านบาทของนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณว่าใช้ข้อกฎหมายใด เพราะเมื่อคำตัดสินของศาลฎีกาชี้ว่าเป็นนิติกรรมอำพราง จึงน่าจะเป็นโมฆะ บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณอาจไม่ต้องเสียภาษี