“สาทิตย์” หวั่นไม่ปลอดภัย แห่เปลี่ยนใช้แลนด์โรเวอร์กันกระสุน “สุเทพ” รับสื่อปูดข่าวเตือน ครม.ระวังตัวทำตนเสียหาย รับรถมีแค่ 20 คัน ไม่พอจำนวนผู้บริหารแน่ ถ้าใครอยากใช้ให้แจ้งมา พร้อมเพิ่มกำลังรักษาทำเนียบ “ถาวร” รับระวังตัวขึ้น เตือนครอบครัวอย่าไปพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีรายงานข่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้แจ้งเตือนในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (2 มี.ค.) ให้รัฐมนตรีทุกคนพร้อมครอบครัวระมัดระวังตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีการประกาศข่มขู่จับตัวลูกเมียจากกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นระยะๆ ปรากฏว่าในวันนี้ (3 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนรถยนต์ประจำตำแหน่งมาใช้รถยนต์กันกระสุน ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ ที่เคยใช้เป็นพาหนะในการประชุมผู้นำอาเซียนแทน ขณะที่นายสุเทพ ได้กลับมาใช้รถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อฟอร์ด ซึ่งเป็นรถกันกระสุน แทนรถแลนด์โรเวอร์ประจำตำแหน่ง ที่นายสุเทพระบุว่าเสีย
ทั้งนี้ นายสุเทพได้กล่าวตัดพ้อสื่อที่นำเสนอข่าวว่าตนได้พูดเตือนให้รัฐมนตรีระวังตัวว่าทำให้เสียหาย ขณะที่จำนวนรถยนต์กันกระสุนในตอนนี้มีเพียง 20 คันเท่านั้น ซึ่งไม่พอกับรัฐมนตรีทุกคน หากมีรัฐมนตรีคนใดต้องการก็ให้แจ้งเพิ่มเติมมาได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลช่วงนี้ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยปราบจลาจล รวมทั้งทหาร เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น
ด้าน นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ยอมรับต่อข่าวการลอบทำร้ายรัฐมนตรี โดยเฉพาะที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดียุบพรรคพลังประชาชนว่า ส่วนตัวจะระมัดระวังให้มากขึ้น และจะเตือนครอบครัวไม่ให้ไปในที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย
โดยวานนี้ (2 มี.ค.) ได้มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุม ครม.นายสุเทพได้ขอให้รัฐมนตรีแต่ละคนดูแลความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในกรณีนี้ว่า ตนชี้ให้เห็นว่ากำลังเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ โดยเฉพาะทหาร ตำรวจคงไม่มีมากพอที่จะดูแลทุกสถานที่ได้ ฉะนั้น ทุกกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานราชการจะต้องมีระบบดูแลรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของตัวเองอยู่แล้ว จะต้องมีความระมัดระวังเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น อย่าไปฝากทุกสิ่งที่ทุกอย่างไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพราะเราจะได้เอาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ดูแลประชาชนได้มากขึ้น หากในส่วนราชการด้วยกันเองมีความเข้มแข็งมีความพร้อมในส่วนนี้มากขึ้น