“ปลอด” ยังไม่รู้มีจุดประทัดแถวเพื่อไทย ยันไม่เฝ้าระวังพิเศษ เชื่อตำรวจดูแลอยู่ ปัดพัลวันไม่เกี่ยวบึ้ม ธ.กรุงเทพ สวนประชาธิปัตย์อย่าว่าใครทั้งๆ ที่ไม่รู้ “เด็จพี่” รีบโยนขี้ อ้างเตือนแล้วคนมีสีใกล้ชิดรัฐป่วนใส่ร้ายฝ่ายค้าน ซัด “เทพไท” ถนัดเลี้ยงแกะ จี้รัฐบาลรีบๆจับมือปาให้ได้ อย่าทำเรื่องเงียบ แนะตั้งรางวัลนำจับสัก 10ล้าน
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเสียงดังคล้ายปะทัดยักษ์บริเวณฝั่งตรงข้ามที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อกลางดึกวานนี้ (28 ก.พ.) ว่ายังไม่ทราบรายละเอียด แต่ในฐานะผู้อำนวยการพรรคคิดว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ภายในพรรคเองก็ไม่มีเอกสารอะไรที่สำคัญหรือมีความลับอะไร มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราอยู่ตลอด ไม่จำเป็นต้องเฝ้าระวังอะไรเป็นพิเศษ ขณะที่ บริเวณนอกพรรคนั้นคาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออก มาตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลที่ก่อเหตุลอบปาระเบิดธนาคารกรุงเทพในหลายสาขาอาจเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย หรือกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ต้องคิดตามข้อเท็จจริงว่ามีเหตุผลอะไรที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องไปสร้างเรื่องหรือก่อเหตุวุ่นวาย เพราะเขาคงไม่ต้องการให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือให้ใครมาขัดขวางการชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค. ดังนั้นจึงไม่อยากให้ใครกล่าวหาทั้งๆที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านเคยตั้งข้อสังเกตและแจ้งเตือนรัฐบาลไปแล้วว่า จะมีกลุ่มคนมีสีที่ใกล้ชิดรัฐบาลสร้างสถานการณ์เพื่อโยนความผิดให้ขั้วการเมืองตรงข้ามรัฐบาล แต่รัฐบาลและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางคนออกมาโยนความผิดให้พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ทราบว่าเป็นการกระทำของฝ่ายไหน ทำไมคนของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงด่วนสรุปและโยนบาปให้ฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย เหมือนกรณีปาถุงอึใส่บ้านนายอภิสิทธิ์ ซึ่งนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จ้างคนให้มาปาขี้จำนวน 3 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ พูดใส่ร้ายป้ายสีให้ฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นสิ่งที่คนในรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ถนัด
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ จะได้รู้ว่าผู้กระทำความผิดเป็นฝ่ายใดกันแน่ แต่เกรงว่าเมื่อรัฐบาลรู้ว่าคนที่กระทำเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลแล้วจะไม่กล้าดำเนินการ ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเหมือนคดีวางระเบิดข้างศาลฎีกา และยิงเอ็ม 79 ข้างทำเนียบ ซึ่งมีการตั้งรางวัลชี้เบาะแสถึง 2 ล้านบาท ดังนั้น ครั้งนี้มีวางระเบิดหลายจุดรัฐบาลควรจะตั้งรางวัลสัก 10 ล้านบาทเพื่อเป็นการชี้เบาะแสในการนำจับ เพราะการกระทำของผู้ที่ป่วนเมืองได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน เป็นการทำลายบรรยากาศของการลงทุน และการท่องเที่ยว แต่ขออย่าให้รัฐบาลจับแพะก็แล้วกัน