“ปทีป” เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงหลังเหตุบึ้มแบงก์ 4 จุด สั่ง รปภ.9 องค์คณะผู้พิพากษา “ยึดทรัพย์แม้ว” ไม่มีกำหนดเพิ่มกำลังเฝ้าระวัง ธ.กรุงเทพ บ้านคนสำคัญจุดสำคัญทั่ว กทม.และ 38 จังหวัด ชี้ระเบิดที่ก่อเหตุประชาชนไม่สามารถมีในครอบครอง สั่งทุก บช.จับตากลุ่มเสธ.แดง
วันนี้ (28 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีเหตุการณ์วางระเบิด 4 จุดในพื้นที่นครบาลและสมุทรปราการเมื่อวานนี้ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันนี้ ทาง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงด่วนที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) ฝ่ายความมั่งคงและกิจการพิเศษ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยใช้ระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับ บช.ต่างๆ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชม.
ภายหลังประชุม พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมทั่วประเทศในเรื่องของการชุมนุม ปราศรัย เท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ ยังไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้แต่ละพื้นที่เฝ้าฟังการชุมนุมและรายงานมายังต้นสังกัดตามลำดับ หากประเมินหลังจากนี้เหตุการณ์ยังปกติ
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อว่า หลังจากมีเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 4 จุดนั้นก็ให้ตำรวจใน กทม.และปริมณฑลเพิ่มกำลัง และความเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจ โดยเฉพาะ ธนาคารกรุงเทพและ 14 จุดสำคัญใน กทม. และ 38 จังหวัด ส่วนบ้านพักบุคคลสำคัญ สถานที่ราชการ และ 9 องค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทางตำรวจก็ดูแลความปลอดภัยไปตลอดแม้การอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นยังไม่มีกำหนดการถอนกำลังรักษาความปลอดภัย ส่วนเรื่องระเบิดนั้นให้พื้นที่นครบาล และบช.ภ.1 เป็นหน่วยที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ โดยทุกจุดมีความเชื่อมโยงกัน แต่อย่าเพิ่งไปคาดเดาว่าเป็นกลุ่มไหน ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเหตุว่า ระเบิดที่ใช้ก่อเหตุนั้น บุคคลธรรมดาไม่สามารถมีในครอบครองได้อยู่แล้ว ซึ่งจะประสานไปยังกองทัพเพื่อขอกำลังทหารมาช่วย เนื่องจากกำลังไม่เพียงพอ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ต้องอยู่ในดุลพินิจของคณะตรวจสอบเพื่อพิจารณาเสนอรัฐบาล สำหรับกลุ่มฮาร์ดคอร์ของเสธ.แดง ได้แจ้งให้ทุก บช.ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด