“สุเทพ” ไม่ห่วงเสื้อแดงชุมนุม “ธ.กรุงเทพ สีลม” วันนี้ เชื่อไม่กระทบตลาดหุ้น พร้อมสั่ง กต.ชี้แจงบางประเทศ ที่ตื่นเต้นเกินเหตุ ห้ามประชาชนเดินทางเข้าไทย ปฏิเสธข่าวพรรคร่วมเปลี่ยนขั้ว ลั่นไม่เป็นความจริง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) กรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ธนาคารกรุงเทพ วันนี้ ก่อนขึ้นเครื่องเดินทางเพื่อไปติดตามงานในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า ตนเองไม่กังวลใจอะไร และได้สั่งให้ตำรวจไปดูแลบริเวณธนาคารกรุงเทพเป็นพิเศษ รวมถึงบริเวณตลาดหลักทรัพย์ด้วย
ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ทำให้หุ้นตก รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะตนได้อธิบายกับนักลงทุนไปแล้วอย่างละเอียด และเชื่อมั่นว่าเขาเข้าใจดี ถึงแม้บางประเทศจะอ่อนไหวบ้าง แต่ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศรีบไปชี้แจง บางประเทศที่ตื่นเต้นก็อาจห้ามประชาชนเข้ามาที่ประเทศไทยบ้าง เหมือนเกิดเหตุการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เราก็ต้องชี้แจง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดมีข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงบางคนไปรับเงินจากต่างประเทศและนำกลับเข้ามาในประเทศไทยด้วยตัวเอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเงินพูดยาก แต่ตนพยายามติดตามอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ยอมรับว่าการพิสูจน์ให้ประชาชนรับทราบถือเป็นเรื่องลำบาก ยกตัวอย่างเช่น สื่อเอาเงินมาให้ตน จะไปดำเนินคดีอย่างไร ยกเว้นมีองค์ประกอบชัดว่าให้มาเพื่อให้ตนไปทำอะไรต่อ จึงค่อนข้างระมัดระวังในการพูดเรื่องนี้ เราจะไม่ปฏิบัติการอะไรด้วยความรู้สึกแต่จะยึดหลักกฎหมาย
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบเส้นทางเงินที่แกนนำดำเนินการไปถึงไหนแล้ว รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนก็เข้าใจและคาดการณ์ได้ แต่ทำอะไรตามกฎหมายยาก ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกรณีที่ศาลอาญาของไทยระบุจะส่งตัวผู้ต้องหาชาวอังกฤษไปรับโทษที่ประเทศดูไบเพื่อแลกกับการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีที่ไทย รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ทราบ
ส่วนการรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา นายสุเทพยืนยันว่า บุคคลที่ไปร่วมโต๊ะอาหารไม่ได้เป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด มีเพียงนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นอกนั้นก็เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นอยากฟังจากปากของตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่าได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร ซึ่งได้เรียนให้ทราบไปแล้ว และท่านเหล่านั้นก็มั่นใจมากขึ้น และอวยพรให้ตนทำงานสำเร็จ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้เปลี่ยนขั้ว รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรค์อย่างนั้น ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการประเมินหรือไม่ที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาบอกว่าการเคลื่อนไหวของจริงจะหลังจากที่ศาลตัดสินคดียึดทรัพย์วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อาจจะมีการพูดจากันว่า ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ยังไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจ แต่ว่าหลังจากวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ต้องติดตามประเมินสถานการณ์กันอีก
