“ชัย” ยันไม่มีติดสินบนผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ “นช.แม้ว” เชื่อหลังตัดสินคดีเรื่องยังไม่จบ มั่นใจรัฐจะผ่านไปได้ “บุญจง” ย้ำ สั่งผู้ว่าฯ ทำความเข้าใจชาวบ้าน ปัดตั้งด่านสกัดม็อบเข้ากรุง พร้อมดูแลศาลากลางจังหวัดเสี่ยง ยันภูมิใจไทยไม่เกี่ยวแจกซีดีล้มเจ้า “ไพฑูรย์” ชี้พรรคร่วมเหนียวแน่นรัฐก็อยู่ได้ โยนนายกฯ ดูปรับ ครม.หลังซักฟอก
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้ถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนเห็นว่าเรื่องของความยุติธรรมเป็นเรื่องของศาล เพราะศาลมีหน้าที่ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนรัฐสภาก็ทำหน้าที่ไป ไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนกระแสข่าวเรื่องการติดสินบนขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะผู้พิพากษาทุกคนมีประสบการณ์ในการทำงาน ซื่อสัตย์ และมีความน่าเชื่อถือ ขณะที่หลังวันตัดสินคดีแล้วปัญหาทุกอย่างจะยุติหรือไม่ ตนเชื่อว่าหากเป็นเรื่องของคนก็คงไม่มีทางจบ เพราะทุกคนต้องทำงาน ทั้งนี้ ตนไม่ห่วงเรื่องการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะถือว่าเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพ
“คนไทยกว่า 90% นับถือศาสนาพุทธ ก็ขอให้นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง อย่าแก่งแย่งกัน บารมีอำนาจจะเป็นของใครก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติ และผมมั่นใจว่าจะผ่าน 26 ก.พ.นี้ไปได้” นายชัยกล่าว
ขณะที่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการขนคนเข้ามาในกรุงเทพฯ ในช่วงที่จะมีการพิจารณาตัดสินคดียึดทรัพย์ว่า เป็นเรื่องที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศไว้ ซึ่งทาง รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ของตัวเองว่า ช่วงที่มีการตัดสินคดีให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้าน ทั้งนี้ ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้มีคำสั่งให้ตั้งด่านสกัดผู้ที่จะเข้ามาชุมนุม ในกรุงเทพ แต่เป็นการตั้งจุดตรวจตามปกติเท่านั้น นอกจากนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยยังได้รับข้อมูลให้ดูแลศาลากลางจังหวัดเป็นพิเศษ เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีการชุมนุม โดยเฉพาะในเขต จ.เชียงใหม่ และ จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้ยังปฏิเสธด้วยว่ากระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพรรคภูมิใจไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับซีดีล้มเจ้า ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้าน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เป็นเรื่องธรรมดา หากจะมีการอภิปราย ซึ่งเราเป็นคนทำงานก็ต้องชี้แจงได้หมด ซึ่งตนเชื่อว่าการตัดสินคดียึดทรัพย์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล หากพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนี่ยวแน่นกันอยู่ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลค่อนข้างมีปัญหากัน ก็เป็นเพียงแค่ข่าว ส่วนเรื่องจริงเป็นอย่างไรยังไม่ทราบ แต่บ้านเมืองขณะนี้วิกฤต และรัฐบาลอยู่อย่างนี้ และเศรษฐกิจก็ดีขึ้น ตนคิดว่าประชาชนก็คงให้การสนับสนุน ส่วนกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือจะเตรียมการช่วยนายกฯ อย่างไรบ้างนั้น ทางพรรคก็ได้มีการเตรียมกลุ่ม ส.ส.ไว้แล้ว และส่วนตัวเรื่องดังกล่าวไม่เป็นกังวลหรือมีปัญหา เพราะตนเป็นรัฐมนตรีมา 6 สมัย แล้ว มีอะไรเราก็ชี้แจงได้ทุกประเด็น ขณะที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านหรือไม่ เรื่องนี้อยู่ที่นายกฯ เป็นผู้พิจารณา เพราะการปรับเป็นเรื่องธรรมดา และหากใครชี้แจงไม่ชัดเจนก็อาจจะเปลี่ยน
