xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ให้ราคาจีที 200 แค่เครื่องสุ่มเสี่ยง สั่งแจง จนท.ให้ตระหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯ เผยผลสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที 200 ไม่ต่างจากเครื่องสุ่มเสี่ยง เกณฑ์ประเมินไม่ผ่าน จับได้แค่ 4 ครั้งจาก 20 ครั้งเรียก “อนุพงษ์” รับทราบผล นำแจ้งหน่วยงานที่ใช้ทราบ พร้อมสั่งทำแผนปฏิบัติงานหลังระงับจัดซื้อ-ยกเลิกใช้เครื่องจีที 200 แล้ว แนะให้คำนึงถึงขวัญและกำลังใจ จนท.ผู้ปฏิบัติหน้าที่ บริษัทจัดจำหน่ายระทึกหลังนายกฯ สั่งกองทัพสรุปรายงานตั้งแต่จัดซื้อเมื่อปี 47


วันนี้ (16 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีผลการทดสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที 200 ว่า การทดลองเป็นการทดลองนำเอาวัตถุระเบิดใส่ในกล่อง และมีกล่องเปล่าอีก 3 กล่องรวมเป็น 4 กล่อง อยู่ในห้องสถานที่ที่ทำการทดลอง แล้วให้บุคคลใช้อุปกรณ์จีที 200 เพื่อให้ชี้กล่องว่าเป็นกล่องไหน โดยทำการทดสอบ 20 ครั้ง ผลของการทดลองปรากฏว่า การใช้อุปกรณ์นี้สามารถชี้ได้ถูกกล่อง 4 ครั้งจาก 20 ครั้ง ซึ่งไม่มีนัยสำคัญทางสถิติก็คือหมายความว่า ไม่ได้แตกต่างจากกรณีที่สุ่มเอา เพราะฉะนั้นขณะนี้สิ่งที่ชัดเจนแน่นอนก็คือว่าจะไม่มีการจัดซื้ออุปกรณ์นี้เพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่ซึ่งยังมีการยืนยันจากผู้ปฏิบัติว่าใช้งานได้ เราก็จะขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับคณะกรรมการ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิได้แจ้งผลของการทดลอง และการอธิบายที่ตรงกัน เป็นข้อสรุปในชั้นนี้ และได้ขอให้หน่วยงานที่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ได้ช่วยไปรวบรวมรายงานตั้งแต่ต้นว่าอุปกรณ์นี้แต่ละปีมีการซื้อเท่าไหร่ และการใช้งานเป็นอย่างไรเพื่อให้หน่วยงานเหล่านี้ได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกับทางคณะกรรมการ หรือกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการฯ ไม่แน่ใจว่า บรรดาบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมที่จะช่วยรัฐบาลในการทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ก็ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ดำเนินการ เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้ข้อมูลตรงนั้นมาอีกทีหนึ่งจะมาตรวจสอบกันว่ามีประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

เมื่อถามว่าที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางมาพบเป็นเรื่องผลทดสอบจีที 200 ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้เรียนให้ท่านทราบว่าผลการทดลองเป็นเช่นนี้ ได้คุยกับรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ฯ ขอให้ทางกระทรวงช่วยเอาข้อมูลและอธิบายของการทดลอง ไปให้ทางหน่วยงานที่ปฏิบัติใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้ทราบ เมื่อถามต่อว่า นอกจากไม่ซื้อเพิ่มเติมแล้วจะยกเลิกการใช้จีที 200 ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็จะให้เวลาที่เขาไปทำความเข้าใจกัน ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้เวลาแค่ไหนทำความเข้าใจ นายกฯ กล่าวว่า ก็ขอให้เร็ว เพราะขณะนี้ทางหน่วยงานผู้ปฏิบัติยังมีความเชื่อของเขาอยู่ก็อาจจะยังไม่ทราบ ไม่เข้าใจถึงแนววิธีการทดลอง ก็ต้องเอาข้อมูลตรงนี้ไปทำให้เขาเข้าใจ แต่ในชั้นนี้ต้องไปแจ้งให้เขาทราบโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเสี่ยงสูงต่อความผิดพลาด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถูกต้อง ก็ต้องแจ้งข้อมูลให้เขาทราบ ว่าถ้าเขายังมีความเชื่ออยู่ ความเสี่ยงมันคืออะไร เมื่อถามต่อว่าจะต้องตรวจสอบเครื่องอัลฟา 6 เหมือนกันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจว่าทางกระทรวงมหาดไทยขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ดำเนินการอยู่ว่า ในความเข้าใจของตนหลักการของเครื่องทำนองเดียวกันหมด เว้นแต่ว่าของอัลฟา 6 จะอ้างว่ามีพลังงานอยู่ในตัว เมื่อถามว่าแสดงว่าผลการทดสอบน่าจะเหมือนกันหากให้มีการทดสอบ นายกฯ กล่าวว่า อันนี้ถ้าเกิดอยากจะให้ทดสอบอีกก็ทดสอบได้ไม่มีปัญหาอะไร อัลฟา 6 เข้าใจว่ากระทรวงมหาดไทยมีเพื่อใช้ในเรื่องของสารเสพติด

เมื่อถามว่า เมื่ออธิบายผลการทดลอง พล.อ.อนุพงษ์ เข้าใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ท่านเข้าใจหลักการทดสอบทุกอย่าง เมื่อถามต่อว่า ในเรื่องของการสูญเสียโอกาส สูญเสียรายได้ จะมีการดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างที่เรียนจะให้ทุกหน่วยงานรวบรวมข้อเท็จจริงมาทั้งหมด เข้าใจว่าเริ่มทำกันมาใช้กันมาตั้งแต่ปี 2547 และจะมีการจัดเก็บสถิติใช้เครื่องมือนี้แล้วไปพบสารอะไรต่างๆ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะรวมไปถึงการสอบสวนที่มาในการจัดซื้อด้วยหรือไม่ว่าเหตุผลในการจัดซื้อรู้หรือไม่ รู้หรือไม่ว่ามีประสิทธิภาพอย่างนี้แล้วทำไมยังมีการจัดซื้อ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็คงจะลำดับเหตุการณ์มา แต่ว่าถามว่า การรับรู้ปัญหาเพิ่งมาเกิดในช่วงหลัง แต่การจัดซื้อดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ตามที่ได้รับข้อมูลมา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีใครรับผิดชอบกับงบประมาณที่ต้องสูญเสียไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็คงต้องดูเหตุและผล เพราะต้องยอมรับว่าเราไม่ใช่ประเทศเดียว มีหน่วยงานเดียว มีหลาย 40 หน่วยงานในประเทศต่างๆ ที่ซื้อเครื่องไป เมื่อถามต่อว่า มีการซื้อตั้งแต่ปี 47 เราสามารถร้องไปยังบริษัทลูกที่จัดจำหน่ายได้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังให้ดูข้อกฎหมายอยู่ ขณะนี้ที่แน่นอนแล้วคือจะระงับการซื้อทั้งหมด ส่วนเรื่องการใช้ขอให้ได้มีการไปทำความเข้าใจก่อน เพราะในระดับพื้นที่ความรู้สึกของคนก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง แต่เขาต้องรับทราบผลการตีความของผลการทดสอบครั้งนี้ทางวิทยาศาสตร์และความเสี่ยงในการใช้

เมื่อถามว่า ของเก่า 700 กว่าเครื่องจะเอาไปทำอะไร นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด มูลค่าของเครื่องก็หลักล้าน เมื่อถามต่อว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้มีข้อเสนอแนะหรือไม่ว่าสามารถนำเครื่องนี้ไปทำอะไรได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้รายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ว่าเขารายงานผลให้ทราบ อย่างที่เรียนก็คือ เมื่อทดสอบแล้วสัดส่วนความสำเร็จไม่มีนัยทางผลสถิติ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่เสี่ยงเกินไปหรือเปล่าที่จะปล่อยให้มีการใช้เครื่องนี้ต่อไป นายกฯ กล่าวว่า เราบอกชัดเจนว่าใครใช้ต้องทราบว่าผลมันเป็นอย่างนี้ แต่ขณะนี้การสื่อสารไปในพื้นที่เราอยู่ตรงนี้สภาพเป็นอย่างหนึ่ง ความสับสนในตัวผู้ใช้เป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นอยากเรียนว่าต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ที่มีความคิด มีความเชื่อในเรื่องเหล่านี้อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ความเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้ใช้แต่อยู่ที่ประชาชนด้วย หากดึงดันใช้ใครจะรับผิดชอบ นายกฯ กล่าวว่า ทางหน่วยก็จะบอกชัดเจนว่าอุปกรณ์นี้ไม่ควรเป็นอุปกรณ์ที่ไปใช้ตามลำพังอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นยิ่งพิสูจน์ออกมาอย่างนี้เขาต้องทราบ เมื่อถามต่อว่า ไม่มีคำสั่งไปชัดเจนเลยว่า ไม่ควรจะใช้เครื่องนี้ต่อไป เพื่อประชาชนอุ่นใจ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอุปกรณ์อะไรอื่นที่จะไปแทน เมื่อถามว่าจะใช้สุนัขแทนได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในสภาพสังคม 3 จังหวัดใช้ไม่ได้ครับ เมื่อถามว่า การทดสอบจะมีผลย้อนหลังกับคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีการดำเนินการเอาเครื่องนี้ไปใช้และนำไปสู่การดำเนินการที่กระทบต่อการดำเนินคดี เพราะเดิมที่ใช้ตัวนี้อยู่ สมมุติเครื่องชี้ไปไม่สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานอะไรได้อยู่แล้ว ต้องไปเจอตัววัตถุต้องห้ามถึงจะดำเนินคดีได้

เมื่อถามว่า ถ้าเปรียบเครื่องจีที 200 กับสุนัขอย่างไหนดีกว่า คุ้มค่ากว่ากันในเวลานี้ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องถือว่า “สุนัขเป็นเทคโนโลยีที่พิสูจน์ว่าได้ผลกว่า” ตนพยายามพูดให้เป็นวิทยาศาสตร์มากสุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ขวัญกำลังกับผู้ใช้อย่างไรหรือจะมีเครื่องมืออื่นมาทดแทน นายกฯ กล่าวว่า นี้คือสิ่งที่เราต้องลงไปคุยกับเขา และต้องให้ทางฝ่ายวิชาการไปด้วย โดยตนได้ขอให้ ผบ.ทบ.เตรียมทำแผนเมื่อไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ การทำงานต้องปรับอย่างไรบ้าง ส่วนของพวกนี้จะไปทำอย่างไรต่อนั้นยังไม่ได้คิด อย่างไรก็ตาม เวลานี้กำลังให้เขาทำรายงานว่ากระบวนการแต่ต้นเป็นอย่างไร หากเราได้รายละเอียดมาจะได้ดูว่า เราสามารถเรียกร้องบริษัทที่นำมาขายได้หรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ การซื้อเครื่องมือลักษณะนี้ครั้งต่อไปทางคณะกรรมการที่ไปทดสอบมีข้อเสนอมาว่าจะมีหน่วยงานใดเข้าไปมีส่วนร่วมบ้าง

เมื่อถามว่า ที่สุดแล้วใครจะถูกลงโทษบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงที่มาที่ไปเป็นอย่างไร อย่างที่ตนเรียนว่า โดนเข้าไป 40 แห่งทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะของเรา ซึ่งของเราประมาณ 7-8 ร้อยเครื่อง














กำลังโหลดความคิดเห็น