โฆษกรัฐบาลยืนยันไม่มีการชี้นำอัยการสั่งไม่ฟ้อง 5 ผู้ต้องหาขนอาวุธ แต่ยอมรับมติครม.มีข้อเสนอเพื่อใช้ประกอบคำวินิจฉัย ตีกรอบประเทศเจ้าของบิน หากจะขอคืนต้องจ่ายค่าบำรุงรักษา ส่วนเรื่องอาวุธที่ยึดได้ กำลังรอคำตอบจากยูเอ็น
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงเรื่องการดำเนินการกับอาวุธสงครามที่เจ้าหน้าที่ไทยยึดไว้จากลักลอบขนอาวุธว่า ได้พิจารณาตามมาตรฐานของกฎหมายระหว่างประเทศกับกฎหมายภายในประเทศในส่วนของรัฐบาล ส่วนทางอัยการสูงสุดก็มีดุลยพินิจออกมาแล้ว และสอดคล้องกัน ผู้ต้องหาและเครื่องบิน หรือส่วนประกอบในการขนอาวุธเข้ามานั้น ในหลายประเทศก็มีการพิจารณาตามความเหมาะสม ในหลายกรณีสั่งไม่ฟ้องอีกทั้งยังได้คืนอุปกรณ์การขน กลับไปตามที่มีผู้ร้องขอและในบางกรณีมีค่าใช้จ่าย ในการเรียกร้องกับผู้ที่มาร้องขอ แต่ในส่วนของไทยทำตามมติของยูเอ็นในเรื่องอาวุธ และหลายประเทศก็ทำเช่นเดียวกับไทย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรณีที่หลายประเทศมีการจับอาวุธได้นั้นก็กำลังสอบถามทางยูเอ็นอยู่ โดยประเด็นที่สอบถามจะเป็นเรื่องการทำลายว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร และต้องทั้งหมดหรือไม่ ผลกระทบจากการทำลายต่อสิ่งแวดล้อม และเรื่องการช่วยเหลือเชิงเทคนิคในการทำลายต่างๆ หรือการทำให้ใช้งานไม่ได้นั้นจะต้องทำอย่างไร กำลังรอความชัดเจนจากยูเอ็น และไทยเองได้สอบถามไปเช่นเดียวกับหลายประเทศว่าเมื่อเราทำมติ 1874 ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมค่าใช้จ่ายอยู่
นายปณิธานกล่าวต่อว่า เรื่องต่างๆ ที่ทางไทยขอความชัดเจนไปนั้น ทางสหประชาชาติเองยังไม่ได้ตอบมา ให้ทราบและอาจจะเป็นไปได้ ที่ทางสหประชาชาติดูในเรื่องความเชื่อมโยง ในลักษณะต่างๆ ของแต่ละประเทศไปพร้อม ๆกัน ส่วนตัวบุคคลนั้นเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะเห็นชอบและมีดุลยพินิจ ตามที่อัยการสูงสุดสั่งหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และหากมีการส่งกลับไปตามคำสั่งอัยการสูงสุดก็จะทำให้ไทยมีเครือข่ายในการต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติได้ และที่ผ่านมามีประเทศคาซัคสถาน และเบลารุส ขอตัวคนของเขากลับไปดำเนินคดี
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องชี้แจงต่อยูเอ็นหรือไม่กับ 5 ผู้ต้องหาที่จับกุมนั้น นายปณิธานกล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะมติของยูเอ็นจะเน้นเรื่องอาวุธ และเวลานี้ยังไม่มีประเทศใดติดต่อมาเพื่อขอรับอาวุธคืนด้วย เพราะเป็นข้อห้ามของยูเอ็น และอาวุธที่ยึดไว้นั้นจะต้องทำลาย ส่วนเครื่องบินที่ผ่านมามีในบางประเทศมีการขอรับคืน เพราะเขาอ้างว่าเป็นบริษัทขนส่ง หรือรับจ้างขนของ กับไทยเองก็กำลังดูอยู่ เพราะมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา
เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่ารัฐบาล ไม่ได้ชี้นำอัยการสูงสุดกรณีสั่งไม่ฟ้อง 5 ผู้ต้องหา นายปณิธานกล่าวว่า รัฐบาลไม่มีการชี้นำ อัยการสูงสุดเป็นองค์กรอิสระ แต่ฝ่ายบริหารได้มีมติ ครม.สรุปความเห็นและแล้วทางที่รัฐบาลส่งไปเป็นความเห็นประกอบการวินิจฉัย เท่านั้น