“บุญจง” ใส่เกียร์ชำเราแก้ รธน.ปาหี่หนุนฉบับ คปพร.อ้างโดนใจพรรคร่วม

ภูมิใจไทยยังไม่ละความพยายาม เดินหน้าชำเราแก้ รธน.ต่อไป หางโผล่หนุนร่างแก้ไขฉบับ คปพร.อ้างสอดคล้องกับข้อเสนอ 5 พรรคร่วม ทำเป็นกระต่ายตื่นตูม หวั่นเสื้อแดงสุมไฟเผา รธน.50 เอาดีใส่ตัวฟุ้งจำเป็นต้องเอาฟืนออกจากกองไฟ ไม่หวั่นพรรคการเมืองใหม่เข้าชื่อถอดถอน 102 ส.ส.พรรคร่วมฯถือเป็นสิทธิ

วันนี้ (11 ก.พ.) นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปว่า กรณีการเลื่อนพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปนั้น ก็อยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาฯ ซึ่งเราต้องเคารพที่ประชุม แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็ยังยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงเจตนาเดิม คือรัฐธรรมนูญฉบับนี้ควรที่จะมีการแก้ไข ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการลงชื่อร่วมกันกับ 102 ส.ส. ส่วนร่างแก้ไขของ คปพร.เราก็ไม่ขัดข้องที่จะให้การสนับสนุน เพราะว่าร่าง คปพร.มี 2 ประเด็นที่เราเสนอแก้ คือมาตรา 190 กับเขตเดียวเบอร์เดียว และร่างของ 102 ส.ส.เรามีเงื่อนไขคือ 1.ไม่เห็นด้วยหรือสนับสนุนให้มีการแก้ไขประเด็นนิรโทษกรรม นักการเมืองที่ถูกยุบพรรคการเมือง 2.หากมีการตั้งกรรมาธิการ เราเสนอให้มีกานตั้งกรรมาธิการทำงาน 180 วัน ในการพิจารณา 3.หากเข้าสู่การพิจารณาวาระ 3 ขอให้มีการทำประชามติถามประชาชน ว่าจะเห็นด้วยกับกรรมาธิการหรือไม่ ถ้าประชาชนเห็นด้วยเราก็เห็นด้วยตามนั้น ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยเราก็ไม่สนับสนุนนี่คือหลักของพรรคภูมิใจไทย

“ผมเห็นว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นสาธารณะ เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเป็นประเด็นเงื่อนไขของคนเสื้อแดงในการชุมนุม ขณะนี้คนเสื้อแดงเรียกร้องเอารัฐธรรมนูญปี 40 คืนมา ฉะนั้น หากมีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ก็จะเป็นการคัดเอาปี 40 มาทั้งนั้นเลย ฉะนั้นเราเห็นว่าเหมาะสมเท่ากับว่าเอาฟืนออกจากกองไฟ เพราะว่าไฟเรียกร้องรุนแรงมาก ถือเป็นการลดระดับความรุนแรง” นายบุญจงกล่าว

เมื่อถามว่ามีการกำหนดเวลาเพื่อความชัดเจนหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า โดยหลักการก็เลื่อนไปก่อนประชุมเมื่อไหร่ก็นำเข้าวาระได้ เพราะว่ามีบรรจุไว้ในวาระอยู่แล้ว ถามต่อว่าการที่พรรคการเมืองใหม่ เสนอถอดถอน 102 ส.ส.ที่ลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญมองเรื่องนี้อย่างไร นายบุญจงกล่าวว่า ตัวแทนของพรรคการเมืองใหม่ จะลงชื่อถอดถอนก็เป็นสิทธิของเขาไม่มีกฎหมายห้าม แต่ขณะเดียวกัน 102 ส.ส.ที่ลงชื่อ ถือว่าเป็นบทบาทหน้าที่หนึ่งของ ส.ส.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และก็แก้ตามมาตรา 291 กำหนดให้ ส.ส.1 ใน 5 ลงชื่อ เชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว แต่อาจจะไม่ถูกใจกับบางกลุ่มบางคน ซึ่งเขาก็ใช้สิทธิไป ส่วนองค์กรที่จะตรวจสอบก็วินิจฉัยต่อไป