“ปลอดประสพ” สาระแน อ้างโพลความเชื่อมั่นรัฐบาลลดหลังเมินแก้รัฐธรรมนูญ ย้ำต้องกลับไปใช้ของปี 40 เหมือนเคยทำ?! เตือนประชาธิปัตย์ อย่าเอาเงินหลวงไปหว่านล้อมพรรคร่วม จี้ยุบสภาสร้างสมานฉันท์ "จิรายุ" เผย "มานิต" เสนอหน้าขอเป็นทนายให้ "เสธ.แดง" สู้คดี
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการประชุมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคเพื่อไทย ซึ่งภายหลังการประชุม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือถึงทางแก้วิกฤติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นของประชาชนพบว่า มีความเชื่อมั่นรัฐบาลลดลงเหลือ 56.86% เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯเคยพูดว่า เมื่อเป็นรัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประชาชนเชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญมีปัญหาแอบแฝง ขอย้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พูดมาตลอดนั้นเป็นเพียงการสร้างภาพของการเป็นนักประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ได้พูดหลอกลวงมาอย่างน้อย 7 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เริ่มจากขอเป็นเจ้าภาพแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นขอโอนให้เป็นภาระของรัฐสภา ต่อมาก็บอกว่าให้ฟังคณะกรรมการสมานฉันท์ และมาบอกว่าเห็นด้วยกับคณะกรรมการสมานฉันท์ 5 ข้อ ต่อมาก็อ้างว่าต้องรอประชามติโดยขอใช้งบ 2 พันล้านบาท แล้วก็เปลี่ยนว่าอยากแก้ 2 ประเด็น สุดท้ายเบี้ยวเลย หักหลังพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยตกลงว่าเมื่อเข้าร่วมเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่าประเทศไทยต้องกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ2540 เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง แม้การแก้ไข 5 หรือ 2 ประเด็น อย่างน้อยแสดงว่า ได้เริ่มเดินเข้าหาการเป็นประชาธิปไตยบ้างแล้ว ดังนั้นที่พรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธการแก้รัฐธรรมนูญ พิสูจน์ว่าแท้จริงแล้ว ชื่มชมผูกพันอย่างเหนียวแน่นกับรัฐธรรมนูญฉบับปฏิวัติของ คมช.ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบคู่ต่อสู้ในการ เลือกตั้ง และเชื่อว่าในที่สุดพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์จะยังอยู่ร่วมกันต่อ ไปเพราะเป้าหมายการจัดตั้งรัฐบาล คือการอยู่รอดปลอดภัยและการสะสมทุน ดังนั้นปมแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเพียงแค่ฉากหน้าเท่านั้น แต่แท้จริงคือการต่อรองผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนพรรคประชาธิปัตย์ว่า อย่าได้เอาประชาชนและประเทศชาติไปเป็นตัวประกัน อย่าได้เอาเงินของราษฎรไปหว่านซื้อใจพรรคร่วม พรรคประชาธิปัตย์จะใช้เทคนิคเช่นนี้ เพื่อรักษาอำนาจของตนไม่ได้เพราะประเทศชาติจะล่มจม
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่าเราเห็นว่าที่มีกระแสข่าวลือเรื่องรัฐประหาร สะท้อนการด้อยพัฒนาทางการเมือง การเปราะบางของประชาธิปไตยและความไม่มั่นคงของรัฐบาล อยากแนะนำให้พรรคประชาธิปัตย์ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เป็นหนทางเดียวที่จะได้รัฐบาลที่มั่นคง เข้มแข็งเพราะสามารถสนองความสุขให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง เป็นอันภารกิจของพรรคการเมืองที่ดี ประชาธิปไตยและความสมานฉันท์จะได้กลับคืนมา
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยขอถือโอกาสนี้ทวงคืนประชาธิปไตย ประเทศไทย ประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ ประชาชนต้องการความเสมอภาค สังคมไทยต้องการความยุติธรรมอย่างแท้จริง ไม่มี สองมาตรฐาน ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะคนไทยรากหญ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับการดูแล ถูกทอดทิ้งถูกดูถูกเหมือนไม่ใช่คนไทยเช่นคนอื่นๆดังนั้นขอให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเจ้าของประเทศที่จะเลือกวิถีชีวิตที่เขานิยมชมชอบจะ ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นหลังจาก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิพล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เข้ามอบตัวตามหมายเรียก ที่กองบังคับการกองปราบปรามในวันนี้แล้ว ในความผิดฐานร่วมกันกับพวกครอบครอง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พร้อมได้เตรียมแจ้งความกลับเพื่อดำเนินคดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รวมถึงตำรวจและทหารที่เข้าตรวจค้นบ้านพักของตนเองนั้น จากการหารือ โดยนายมานิต จิตจันทน์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยได้เสนอตัวขอเป็นทีมทนายความในการต่อสู้คดีและในการฟ้องร้อง ดำเนินคดีต่อไป
