“สุริยะใส” สวนลูกสมุน “เติ้ง” พูดเพียงครึ่งเดียว ยัน “สปป.” ให้แก้ รธน. แต่ “มีเงื่อนไข” ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ท้าให้ทำประชามติถาม 17 ล้านเสียง ก่อนคว่ำ 2 ประเด็น ขู่เจอ พธม.เคลื่อนไหว เตือน ปชป.หากมีมติชำเรารัฐธรรมนูญระวังฐานเสียงภาคใต้เสื่อม
วันนี้ (25 ม.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) ในฐานะอดีตสมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง (สปป.) กล่าวว่า ที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาระบุว่า สปป.เคยสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการบิดเบือนความจริง ด้วยการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะแม้ สปป.จะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ขอให้ย้อนกลับไปดูให้ดีว่าเรามีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นการแก้ไขเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อนักการเมือง อย่าง 2 ประเด็นที่นำเสนอมาทั้ง ม.190 ถือเป็นจุดเด่นของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเหตุผลหลักที่ สปป.ตัดสินใจรับรัฐธรรมนูญ 50 ส่วนประเด็นเขตเลือกตั้งขอถามว่ามันมีความจำเป็นเพียงใด ทำไมถึงไม่แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจของประชาชนหมวดสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์กลับไม่มีการพูดถึง กลับต้องการจะแก้ไขเพื่อความสะดวกของนักการเมืองทั้งสิ้น
“หากจะแก้ก็ต้องถามคน 17 ล้านคนที่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำในเวลาที่เหมาะสม ไม่จุดชนวนให้เกิดความแตกแยกในสังคม หากมีการยื่นแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ แกนนำพันธมิตรฯ จะนัดประชุมเพื่อเคลื่อนไหวคัดค้านเต็มที่อย่างแน่นอน” นายสุริยะใสกล่าว
ส่วนการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์คงเลือกที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาลมากกว่า จะคำนึงถึงจุดยืนและความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ซึ่ง ปชป.ต้องตอบคำถามประชาชนโดยเฉพาะคนภาคใต้ที่ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 มากที่สุดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ ก่อนที่ประชาชนจะตัดสินว่า ปชป.เป็นพรรคที่ไม่มีอุดมการณ์