“ยะใส” ต่อยปลายนวม วิเคราะห์สถานการณ์ “แม้ว” หากพ้น 3 เดือนเลย มี.ค. ไปแล้ว ยังปิดเกมไม่สำเร็จ จบเห่แน่!! หลังมีหลายปัจจัยรุมเร้า ทั้งเรื่องคดียึดทรัพย์ใกล้งวดและความแตกแยกของลูกสมุน ซึ่งสะท้อนภาพขาลงแบบดิ่งเหว “แม้ว” ชัดขึ้น เชื่อเกมนี้หากไว้ใจลูกน้องไม่ได้ “แม้ว” อาจลงมาคุมเกมเอง แต่งานนี้ถ้ารัฐบาลยกเครื่องตั้งรับ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีบนวิกฤตบ้านเมือง
รายการ “ก้าวที่กล้าสู่การเมืองใหม่” ออกอากาศทางช่องเอเอสทีวี นิวส์ 1 ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา นายสำราญ รอดเพชร รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการเชิญ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมืองในช่วง 3 เดือนอันตรายต่อจากนี้ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังโดนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ในวันที่ 26 ก.พ.นี้
นายสุริยะใสกล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าตนคิดว่าถ้าภายในเดือน ก.พ.-มี.ค.นี พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่สามารถปิดเกมได้ ก็ถือว่าจบเห่ เพราะไม่อาจดึงสถานการณ์บ้านเมืองให้เป็นไปตามที่คิดไว้ ซึ่งตนก็คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่มีอนาคต โดยตนไม่ได้พูดปรามาส หรือว่าดูถูก เนื่องจากตอนนี้ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะคดียึดทรัพย์ที่ใกล้งวดมาทุกขณะ ทำให้มองว่า หากภายใน 3 เดือนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่สามารถจัดการรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ ก็ถือว่าจบเกมตัวเอง ซึ่งตนขีดเส้นตาย พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ไม่เกินเดือน มี.ค.นี้
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากกลุ่มก้อนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นับวันยิ่งแตกระแหง โดยมันสะท้อนภาพขาลงแบบดิ่งให้เห็น เพราะตนได้ยินข่าวมาว่ากลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณ แตกคอกัน ไม่เว้นแม้แต่คนในพรรคเพื่อไทย ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า ในช่วงสุดท้ายของเกมนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจลงมาสั่งการโดยตรงแบบไม่ผ่านใคร เนื่องจากที่ผ่านมา คงเห็นแล้วว่า ใช้ผ่านคนอื่นแล้วเกิดความยากลำบาก จึงทำให้คุมเกมไม่อยู่ แม้จะมีข่าวว่า อาจจะให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เป็นแม่ทัพคุมเกมนี้ แต่ตนที่ตนดูมันยังมีความไม่ลงตัวในสองคนนี้ ฉะนั้น ทุกอย่างถ้าเกินเดือน มี.ค.นี้ ทุกอย่างยังไม่จบ ตนว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะยิ่งยุ่งยาก แต่ทั้งนี้ ต้องดูท่าทีของรัฐบาลด้วยว่าจะตั้งรับหรือรับมืออย่างไรกับเกมนี้ ซึ่งทางที่ดีควรมีการปรับภายในครั้งใหญ่ เพื่อส่งสัญญาณที่ดีออกมา
