นายกฯ ยันปัญหาแก้ รธน.จะไม่บานปลายจนถูกพรรคร่วมลอยแพ เชื่อจะได้ข้อยุติในที่ประชุมกรรมการบริหาร ปชป.อังคารนี้ ปัดไม่มีเงื่อนไขยุบสภา พร้อมรับปากสมาพันธ์ชุมชน เร่งโอนเงินถึงมือ ก.พ.นี้ วอนอย่าบุกสถานที่ราชการเพื่อเรียกร้อง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (24 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.กระบี่ ที่มีความเห็นแตกต่างกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ช่วงที่มีการประชุมตนก็อยู่ด้วย ซึ่งได้มีการอภิปราย ซึ่งมีความเห็น 2 ด้าน ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ตอนที่ตนออกมาก็นึกว่ากำลังจะได้ข้อสรุป เมื่อออกมาแล้ว ขณะที่จะขึ้นเครื่องบินที่กระบี่ได้รับทราบว่าที่ประชุมจะขอให้กรรมการบริหารพรรค เป็นผู้พิจารณา คงไม่เกินวันอังคาร คงจะเรียบร้อย แต่ว่าความเห็นแตกต่างเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเห็นที่แตกต่างทำให้มีการขู่ให้ยุบสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการขู่ เป็นเรื่องการวิเคราะห์สถานการณ์ตามปกติว่า ถ้าหากตัดสินใจอย่างนั้นอย่างนี้ อาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สมาชิกก็ไม่มีใครคิดว่าจะต้องเกรงกลัวในเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นอยู่แล้ว ฉะนั้นจะมีข้อยุติได้ไม่เกินวันอังคาร เมื่อถามว่าจะไม่เป็นการเอาใจพรรคร่วมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุป เมื่อถามว่าแนวโน้มเสียงส่วนใหญ่เป็นไปตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการ คือ เห็นด้วยกับพรรคร่วม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อันนี้ฟังจากไหน ตนก็นั่งอยู่ในที่ประชุม
เมื่อถามว่ามองปัญหาในพรรคที่ยังไม่ได้ข้อยุติอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในตนอยากให้จบตั้งแต่เมื่อวาน (23 ม.ค.) แต่เมื่อยังไม่จบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวกรรมการบริหารจะมาดูแล และวันอังคารน่าจะจบได้ และคงต้องคุยกับพรรคร่วมหลังวันอังคาร
เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้มั่นใจหรือไม่ว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่เป็นปมขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โดยหลักไม่ควรจะเป็น เพราะเคยคุยกันไว้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินลงมาพบกับแกนนำสมาพันธ์ชุมชนแห่งประเทศไทย ซึ่งนำโดยนายจำรัส อินทุมาร ที่เรียกร้องให้เร่งรัดการปล่อยเงินกู้เพื่อนำไปใช้หนี้นอกระบบ โดยนายกฯ กล่าวว่า การโอนเงินตามที่เรียกร้องนั้น ต้องรอตามกระบวนการที่จะโอนภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็จะพยายามทำให้เร็ว ส่วนการจะแก้ไขได้นั้นจะต้องมีสถาบันการเงินที่พร้อมจะรับโอนหนี้ ดำเนินการ การจะไปบังคับสถาบันการเงินให้เขารับ และไม่มีหลักประกันที่มั่นคง คงเป็นไปไม่ได้ แต่หากหลักประกันในเบื้องต้นเป็นอุปสรรค ก็อาจจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง โดยจะเริ่มจากกรณีที่ทำได้ก่อน หากทำได้แล้วก็จะทำให้มั่นใจว่าขบวนการนี้ทำอย่างจริงจัง และจากนั้นก็จะขยายวงกว้างออกไป ซึ่งมีปัญหาที่พบว่ายังมีผู้ไม่เข้าระบบเพราะกลัวเจ้าหนี้และผู้มีอิทธิพลซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่ ดังนั้นจะต้องเป็นไปในแนวทางนี้ หากทำแนวทางอื่น เช่น ถ้าสถาบันการเงินไม่เข้าร่วม ก็จะไม่มีการเริ่มต้น
นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า การจะเคลื่อนไหวอะไร อย่าบุกรุกสถานที่ราชการ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร ให้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือ และรัฐบาลจะส่งต่อให้ผู้มีหน้าทีรับผิดชอบต่อไป